Chapter 4 วันเร่งรีบที่แสนวุ่นวาย
วันเร่งรีบที่แสนวุ่นวาย วันมหกรรมปวดสมองโลกแห่งปีของลลิน
“ค่ะ...คุณนัทพล” “ได้ค่ะ” “ลินเช็คให้นะคะ” หญิงสาวกรอกเสียงหวานไปตามสาย ก่อนที่จะวางลงโทรศัพท์สายที่ 27 ของวันวางลงบนแป้นอย่างเบามือ ขัดกับความรู้สึกข้างในที่ราวลาวาเผาในใจ
ด้านนอกเย็นกับธารน้ำไหล แต่ในใจเดือดปุดๆ ลูกค้าต่างนัดมาเร่งงานราวกับนัดหมาย ทั้งที่ดีลส่งของบางรายการเหลืออีกเป็นเดือน
หลังจากวางโทรศัพท์ ลลินก็ยกมือขึ้นกุมขมับ นวดวนๆ อยู่หลายรอบระบายความเครียด
“ปานดาว!” หญิงสาวส่งเสียงร้องเรียกลูกน้องตามความรู้สึกใกล้ระเบิด อีกคนไม่ตอบแต่เดินเข้ามาหาในห้องแทน คนในห้องเงยหน้าขึ้นถาม
“งานของคุณนัทพล ใครดูแล”
“พี่แจงเป็นคนดูอะเจ๊ มีอะไรหรือ”
“มี!” หญิงสาวเน้นเสียงหนัก พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
“จด” หญิงสาวสั่งเสียงเข้ม
ปานดาวหยิบไอแพดคู่ใจมาเตรียมคีย์ข้อมูล พร้อมกับเงยหน้ามองเจ้านายบอกให้รู้ว่าเธอพร้อมทำงาน ลลินพยักหน้าอีกครั้งก่อนที่จะร่ายยาว
“คุณกนิญ เปลี่ยนแบบสามเซต คุณกรกนกขอส่งงานมาแก้และขอรับงานส่งเป็นศุกร์นี้ คุณนัทพลขอเร่งงานขึ้นสองอาทิตย์ พี่ฝากถามพี่แจงหน่อยว่าไหวไหม ถ้าทำแล้วกระทบกับชิ้นงานที่เราต้องออกในงานโชว์ก็แจ้งลูกค้าแทนด้วย เพราะสองสามวันนี้พี่ต้องดูแลโปรเจคใหญ่ที่ต้องเตรียมพรีเชนต์ด้วย”
ปานดาวลดไอแพดออกจากหน้า ตอบรับเสียงหนักแน่น “ได้ครับ”
“พี่ขอร้องเถอะปาน อยู่กับพี่อย่าครับเลย ไม่ต้องมีหางเสียงพี่ก็ทนได้” ลลินบอกสาวหล่อลูกน้อง แม้ปานดาวจะประกาศชัดเจน แต่ถึงอย่างไรเธอก็มองว่าปานดาวเป็นผู้หญิงอยู่ดี
“เจ๊จะมาเรื่องมากอะไรกับเรื่องแค่นี้ละ แปลกคนเข้าไปทุกที” ปานดาวถามอย่างไม่เข้าใจ
ลลินโบกมือพยักหน้าหงึกๆ
“พี่คงเครียดมากไป ฝากด้วยแล้วกัน” หญิงสาวบอกพร้อมกับก้มลงดูเอกสารจัดชื้อต่อ โรงงานเล็กๆ แม้จะเป็นรูปแบบบริษัท แต่ลลินก็ยังดูรายงานเองเกือบทุกอย่าง เพราะอย่างนี้ฝ่ายบัญชีจึงแอบเรียกเธอว่าแม่สินเธาว์เยาวราช
“อ้อ...เจ๊!”
“หืม...”
“คุณเอกมงคลให้พี่เอาชิ้นงานไปเสนอที่โรงแรมแกรนด์พายัพพรุ่งนี้ พี่จะให้ปานไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า นัดที่โรงแรม ปานว่ามันไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไรนะ”
“ปานเพิ่งบอกพี่ไม่ใช่หรือ ผู้หญิงอย่างพี่ผู้ชายหนีหาย อย่าว่าแต่จะคิดมิดีมิร้ายเลย ต่อให้พี่เสนอตัว เขาก็คงไม่เอาหรอก”
“อย่าประมาทนะเจ๊ หมอนั่นเสือผู้หญิงดีๆ นี่เอง ถ้าไม่คิดอกุศล ทำไมต้องนัดที่โรงแรมแบบนั้นด้วยละ แกรนด์พายัพขึ้นชื่อเรื่องนัดเด็กของเสี่ย เขาว่ากันว่า...ถ้าอยากรู้ว่าดาราหรือนางแบบคนไหนเป็นเด็กเสี่ยให้ไปดูที่โรงแรมแกรนด์พายัพ” ปานดาวเล่ายาว
ถ้าเป็นโรงแรมปกติก็คงไม่มีปัญหา แต่โรงแรมที่ว่าทั้งอยู่ลึกในซอย และยังจัดมืดๆ ทึมๆ ห้องหับแยกโซนชัดเจน ถ้าขืนเกิดอะไรขึ้นก็ยากที่จะร้องให้คนช่วยได้ทัน เพราะโรงแรมแห่งนั้นถูกออกแบบมาเพื่อบริการด้านนี้ลับๆ อยู่แล้ว
“พูดได้เป็นฉากๆ คิดมากเกินไปหรือเปล่า” ลลินถามเสียงเรียบสม่ำเสมอ วิชายูโดที่ติดตัว ทำให้เธอไม่เคยกลัวอะไร เพราะอย่างน้อยเธอก็สามารถรักษาตัวให้อยู่รอดมาได้เกือบสิบปีตั้งแต่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย
“ก็เพราะว่าปานเดาความคิดของผู้ชายออก เจ๊ไม่เคยมีแฟนกับใคร อย่ามองผู้ชายในแง่ดีนักเลย”
“ผู้หญิงคนอื่นอาจจะใช่ แต่สารรูปและการแต่งตัวอย่างพี่ผู้ชายคงไม่อยากค้นหา”
“เจ๊ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าสวย ถ้ารู้จักแต่งแต้มสักนิด ปานว่าคนก็รอคิวจีบเหมือนกัน”
“อ้าว! ไหงบอกว่าพี่มีคุณสมบัติของผู้หญิงโสดเตรียมขึ้นคานอยู่ครบ แล้วจะกลัวอะไร”
“พวกนั้นก็แค่จะจ้องเคี้ยวเล่นๆ อย่างเดียวน่ะสิ ไอ้ขึ้นคานไม่ต้องห่วงหรอก ได้ขึ้นแน่นอน”
“ปากหรือนั่น!”
ลลินขำไม่ออก แต่ต้องฝืนยิ้มทำตลกกลบเกลื่อนไป แม้เธอจะไม่ใช่ผู้หญิงจำพวกคิดเล็กคิดน้อยหยุมหยิม แต่คำพูดบางอย่างของคนรอบกายอย่างไม่ตั้งใจ ก็ทำให้ใจของหญิงสาวรู้สึกเจ็บแปลบๆ บ้างเหมือนกัน
ปานดาวเปลี่ยนท่าที รู้ว่าตัวเองคงเผลอพูดแรงไป
“ปานเป็นห่วงเจ๊จริงๆ นะ”
“ขอบใจมาก แต่พี่ดูแลตัวเองได้ ปานอยู่ดูแลทางนี้แทนพี่ดีกว่า ลูกค้าเร่งงานตั้งหลายรายการ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเจ๊ก็แล้วกันนะ ดูแลตัวเองด้วย ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็รีบออกมา หรือไม่ก็โทรหาใครสักคน”
ลลินยิ้มกว้างยกมือขึ้นยีหัวปานดาวอย่างเอ็นดู ทุกคนที่นี่เป็นเหมือนครอบครัว ปานดาวทำงานกับเธอมาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย ยังเป็นเด็กศิลปกรน้องร่วมสถาบันกันกับเธอด้วย ทำให้ทั้งคู่ยิ่งสนิทกันมากกว่าเดิม
“ถ้าเป็นอย่างนั้น คงไม่มีใครอยู่หรอกนะ”
“เจ๊คนหนึ่งละ เชื่อได้ที่ไหน อาจจะอยากได้งานจนหน้ามืดตามัวมองเห็นภัยอันตราย พอมารู้ตัวอีกทีก็โดนเสือร้ายคาบไปแล้วก็ได้” ปานดาวบอกด้วยน้ำเสียงหนักๆ ใบหน้าของเธอมีริ้วรอยของความเครียดแผงเอาไว้
“พี่สัญญา! จะดูแลตัวเองให้ดี”ลลินบอกให้อีกคนได้คลายกังวล คนเมืองกรุงอย่างเธอต้องเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดได้อย่างปลอดภัย
โรงแรมมีชื่อกลางกรุง ลลินเปิดไอแพดเช็คข้อมูลสลับกับมองป้าย หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ที่ซุ้มโคมไฟหลากสีแต่มีต้นไม้หนาบังจัดแบบส่วนตัว โซนพักผ่อนที่ทางโรงแรมจัดมุมเหมาะๆ สำหรับคู่รักควงคู่มาดินเนอร์ในบรรยากาศเป็นกันเอง
ลลินหันรีหันขวางมองหาพนักงานพอที่จะถามทางไปยังห้องที่ลูกค้านัดหมาย หากแต่กลับไม่มีใครสักคนเดินผ่านมาให้ได้ถาม ความมืดของสถานที่ลดวิสัยทัศน์ในการมองเห็นให้น้อยลงไปอีก จากที่เวลากลางคืนที่เธอนัดจะเสี่ยงต่อการเดินทางมาคนเดียว
สองขาก้าวต่ออย่างกล้าๆ กลัวๆ หญิงสาวมองรอบตัวสำรวจอย่างพินิจพิเคราะห์ พื้นที่ข้างๆ ที่เธอเดินผ่านมาคงจัดไว้สำหรับคู่รัก ไม่ทันที่เธอจะได้คิดต่อ สายตาก็เหลือบไปเห็นปลายเท้าสองคู่พันเกี่ยวกันบนเบาะใบนุ่มในมุมสลัวๆ สภาพทั้งคู่ไม่ต้องอาศัยพื้นที่ในการจินตนาการ ของหญิงสาวยี้เบาๆ เบือนหน้าหนีก่อนที่จะเดินเลี่ยงไป
ทางเดินคับแคบ มีเพียงแนวไฟบนพื้นกั้นเป็นเส้นบอกทางเดิน หญิงสาวเดินไปจนสุดทาง ห้องกระจกกว้างที่มองเห็นลางๆ อยู่ข้างหน้าทำให้เธอยิ้มออก ในที่สุดเธอก็มาถูกทาง และเจอห้องที่นัดหมายโดยไม่ต้องออกปากถามใคร
