ตอนที่2
“เอ่อ…พี่วรรษละเมอค่ะ”
ดวงตาที่ลืมกว้างดูลอยคว้างอยู่นิดๆ กัญชพรเอียงคอสบตาเขา
“พี่วรรษ…”
หล่อนลองเรียกดู และอิทธิพลเสียงของหล่อนก็ก่อปฏิกิริยาอย่างหนึ่งแก่ชายหนุ่ม
เขากระพริบตา จุดโฟกัสของนัยน์ตาที่ดูเลื่อนลอยเริ่มจับนิ่งที่ใบหน้าชะโงกอยู่เหนือใบหน้าของเขา
กัญชพรคิดว่าเขาคงเริ่มจะได้สติกลับคืนมาเป็นตัวของตัวเอง แต่แล้วก็รู้ว่าตนเข้าใจผิด เมื่อแขนแข็งแรงทั้งคู่ตวัดออกมาดึงเอาตัวหล่อนเข้าไปกอด กระซิบเสียงรัวแหบห้าว
“แพม! คุณกลับมาหาผม!”
นวินวรรษเมา แต่เขาไม่ได้เจ็บไข้ เรี่ยวแรงบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ อีกทั้งอารมณ์รักใคร่ที่มีต่อภรรยาสาวที่จากไปแล้ว ก็เลยยิ่งกว่าแรงช้างศาล
กัญชรสล้มทับไปบนตัวเขาเพียงอึดใจก่อนถูกพลิกตัวลงร่างมีร่างใหญ่โตค่อมทับไว้แน่นหนาในพริบตาเดียว
“พี่วรรษ!”
กัญชพรเสียงหอบด้วยความตกใจ
“ปล่อยค่ะ! นี่กัญนะคะ กัญชพรค่ะ ไม่ใช่พี่แพม”
รู้สึกว่าเขาจะชะงักไปนิดหนึ่งคล้ายว่าชื่อของหล่อนกระทบโสตประสาทบางส่วนของเขา
“กัญหรือ?” เขาทวน หน้านิ่ว
“ค่ะ กัญ!”
หล่อนลงเสียงหนัก มองสบตาเข้มๆ ที่มองลงมาจากกรอบใบหน้าเหนือหน้าของหล่อน
กัญชพรคิดว่าสติสัมปชัญญะของนวินวรรษจะกลับมา และปล่อยหล่อน แต่กลับไม่ใช่
เขายังดูเหมือนคนละเมอ ครางออกมาด้วยถ้อยคำฟังไม่ถนัด กัญชพรอ้าปากเพื่อย้ำว่าหล่อนไม่ใช่ภรรยาที่ตายของเขาแต่ไม่มีโอกาส
ทันทีที่สิ้นเสียงฟังเป็นคราง ชายหนุ่มก็แนบใบหน้าลงมาปิดปากเผยอขึ้นของหล่อนด้วยริมฝีปากผะผ่าวของเขาในลักษณะจุมพิตหนักหน่วง
กัญชพรดิ้นอึกอักอยู่เพียงครู่เดียวก็ปล่อยตัวอ่อนระทวย ด้วยเหตุผลสองประการ
หนึ่ง...หล่อนรักเขา อะไรที่เป็นความต้องการของเขาแล้ว หล่อนไม่อยากขัด ต่อให้หมดลมหายใจในเดี๋ยวนั้น
สอง...เกิดมาหล่อนก็ยังไม่เคยถูกจูบถูกกอดและถูกสัมผัส ด้วยทั้งปากและมือพร้อมกันไปเช่นนี้จากเพศตรงข้าม นี่เป็นครั้งแรก
ที่สำคัญ ผู้ชายที่กำลังกอดจูบหล่อนอยู่นี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นบุรุษเดียวที่หล่อนมอบใจให้นานมาแล้ว โดยไม่เคยแพร่งพรายให้ใครล่วงรู้แม้แต่เจ้าตัว ซึ่งไม่เคยมีทีท่าเป็นอื่นนอกเหนือจากเห็นหล่อนเป็นน้องที่เขาให้ความเอ็นดู คอยดูแลด้วยความอาทรฉันพี่ชายกับน้องสาว
กัญชพรอาจลืมตัว สมองคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยตัวไปกับจุมพิตวาบหวามและสัมผัสเล้าโลมช่ำชองแผดเผา แต่ก็ยังพอมีสติหลงเหลือที่จะสำเหนียกได้ว่านวินวรรษกำลังตกอยู่ในอารมณ์ปรารถนาพุ่งโพลง เพราะหล่อนสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่สัมผัสแนบชิด จนบริเวณที่ถูกสัมผัสนั้นร้อนลวกราวถูกไฟนาบ
หล่อนมีความรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ในทางทฤษฎีที่เคยเรียนในชั่วโมงสุขศึกษาสอดแทรกเรื่องเพศขั้นต้นไว้น้อยนิด กับที่อ่านจากหนังสืออ่านเล่นบ้าง ก็เท่านั้น แต่หล่อนก็รู้จักที่จะมีอารมณ์ตอบสนองเยี่ยงปุถุชน ยามถูกแนบชิด ถูกกอด ถูกจูบ ถูกสัมผัส โดยผู้ชายที่หล่อนหลงรักเต็มหัวใจมาแต่เริ่มรุ่น
หล่อนไม่กลัว และไม่เกลียดในสิ่งที่กำลังถูกปฏิบัติ มีก็แต่ความรู้สึกว่าร่างกายกำลังเกิดปฏิกิริยาอย่างหนึ่ง เป็นอารมณ์สมหวังของสาวน้อยที่ไม่เดียงสา เกิดขึ้นแรงจนลืมนึกถึงสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร
หล่อนไม่ได้พยายามขัดขวางเลยด้วยซ้ำเมื่อถูกทึ้งเสื้อคลุม ตามด้วยชุดนอนถูกกระตุกออกพ้นร่าง
นอกจากจะไม่ขัดขวางยังให้ความร่วมมืออย่างดี เมื่อร่างแกร่งไปด้วยมัดกล้ามชวนวาบหวามขยับเสียดสี
แต่ในนาทีที่ชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามาระหว่างขา และแนบตัวลงมาชิดในลักษณะเดินหน้าเต็มที่อย่างไม่คิดจะรีรอ หรือประวิงเวลาแห่งความสุขออกไปอีก ความรู้สึกวาบหวาม หฤหรรษ์พลันวับหายกลายเป็นตกใจจากเจ็บแปลบ
หล่อนนอนตัวแข็ง กัดฟันแน่น เพื่อที่จะไม่ร้องออกมา
จากหนังสือที่เคยอ่าน ทำให้พอจะรู้ว่าครั้งแรกของผู้หญิงนั้นต้องมีเจ็บบ้าง นึกไม่ถึงเท่านั้นว่าจะรู้สึกเหมือนว่าส่วนลี้ลับในกายสาวแยกเป็นเสี่ยงๆ
ทั้งนี้ก็เพราะวินวรรษไม่ได้พยายามเลย ที่จะให้ค่อยเป็นค่อยไป
กัญชพรคงจะยังไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่คิดจะทะนุถนอม เห็นใจบ้างเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนถูกผู้ชายล่วงล้ำ กระทั่งนวินวรรษเดินหน้าจนสุดทุกเสี้ยวส่วนสำคัญ แล้วขยับเขยื้อนอย่างไม่คิดจะรอให้หล่อนได้มีเวลาปรับตัวปรับใจรับในสิ่งที่เขาเบียดอัดยัดเยียดลงมาอย่างกระแทกกระทั้น พร้อมกับส่งเสียงครวญครางไปพร้อมกัน ด้วยแรงอารมณ์ที่จวนจะถึงจุดหมายปลายทางสำหรับเขา
“แพม…ยอดรัก! ยอดรัก!”
ความเจ็บแปลบจากการถูกรุกรานรุนแรงเข้าขีดป่าเถื่อน ยังเจ็บปวดน้อยกว่าเมื่อเสียงกระเส่าเร่าร้อนคร่ำครวญหาผู้หญิงที่ไม่ใช่ตน จึงได้แต่นอนแข็งทื่อ น้ำตาไหลพราก เมื่อถูกกระแทกกระทั้นแรงเร็วขึ้นๆ เป็นลำดับ ซึ่งยิ่งทำให้รู้สึกว่าเนื้อตัวกำลังจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ยังไม่ยอมส่งเสียงร้อง
ปลายลิ้นรับรู้รสโลหิตซึมจากริมฝีปากที่ถูกไรฟันบนขบลงมาอย่างแรงในนาทีที่ชายหนุ่มกระแทกลงมาสุดกำลังในท่วงทำนองสุดท้าย
เขาหลับไปอีกทั้งที่ยังหอบหายใจแรง และยังทาบทับร่างใหญ่โตบนร่างบาง
กัญชพรพยายามพลิกร่างหนาหนักทำเอาแทบจะหายใจไม่ออก ให้พ้นตัว
หล่อนจับเขาลงนอนเหยียดยาวได้สำเร็จ แล้วจึงค่อยดึงตัวเองขึ้นนั่ง
ของเหลวอย่างหนึ่งไหลซึมออกมาเปรอะระหว่างขา เมื่อก้มลงมอง เห็นเมือกขาวขุ่นปนๆ อยู่กับโลหิตสีแดงเข้ม
ความรู้สึกอับอายอดสู เจ็บร้าว ถาโถมลงมาที่กลางใจเหมือนมีใครตอกเหล็กแหลมลงมาไม่ออมแรง
รีบมองหาชุดนอนของตัวเอง นำมาใช้เช็ดเนื้อตัวส่วนนั้น และที่เปรอะอยู่บนที่นอนเพราะแม้จะบอบช้ำไปทั้งร่างกายและจิตใจ ก็ยังพอมีสติคิดที่จะไม่ให้คนในบ้านที่มีหน้าที่ปัดกวาดซักรีดมาพบผ้าปูที่นอนเป็นคราบชวนให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นบนเตียงเจ้านายที่นอนตามลำพัง ก่อนออกจากห้องโดยอาศัยเสื้อคลุมที่สวมทับชุดนอนมา
ขณะเดินกลับห้องตัวเองที่อยู่คนละปีกตึกในสภาพกะปลกกะเปลี้ย รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณที่ถูกความแข็งแกร่งของบุรุษเพศล่วงล้ำในทุกจังหวะการก้าวเดิน
กลับเข้าห้อง ก็ตรงเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกาย ซักชุดนอนเปื้อนคราบคาวใคร่เป็นที่เรียบร้อย จึงล้มตัวนอนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น คิดไกลถึงอนาคตของตัวเองในภายภาคหน้าอยู่จนนาน จึงม่อยหลับด้วยความอ่อนเพลียทั้งกายใจ
