
ตรวนรักโซ่สวาท
บทย่อ
"ตรวนรักโซ่สวาท" เป็นนิยายลูกรักเรื่องหนึ่งของลิลเองที่ผู้เขียนยินดีนำเสนอมากๆ ฝากด้วยนะคะ ^^__^^ เธอจากเขามาด้วยหัวใจที่ร้าวฉาน พยายามจะลืมเขาแต่ก็ช่างทำได้ยากเย็น ยิ่งเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ติดตัวเธอมาคือพยานรักที่เธอมีต่อเขา การลบเขาออกจากหัวใจ ลืมไปได้เลย สปอย “กัญเกลียดพี่วรรษ!” หล่อนมองตาเขาด้วยดวงตาคลอน้ำตาฉายแววเจ็บแค้น “ไม่มีวันเลยจริงๆ ที่กัญจะยกโทษให้ได้!” กล้ามเนื้อข้างแก้มนวินวรรษเต้นริกเมื่อกรามถูกบดเข้าหากันจนเห็นเป็นรอยนูนขึ้นมา กัญชพรชักสั่นด้วยความกลัว ทั้งที่สั่นเพราะโกรธอยู่แล้ว “อย่าพูดมาก!” เขาตะคอกเสียงรอดไรฟัน “จะบอกให้ว่าพี่เกลียดกัญก่อนหน้าที่กัญจะทันสำนึกได้ว่าเกลียดพี่เสียอีก!” “กัญไปทำอะไร…” “แม่กัญขา!” เสียงเล็กๆ แทรกมา ก่อนที่กัญชพรจะทันพูดจบประโยค กัญชพรละสายตาจากหน้าคมสัน ซึ่งขณะนี้กระด้างยิ่งกว่ารูปสลักจากแกรนิต หันไปมองที่มาของเสียงเรียกกึ่งตระหนกกึ่งตื่นเต้น “น้องอ่อน!” ห่างออกไปไม่ถึงสิบสิบฟุต ลูกสาวตัวน้อยของหล่อนยืนอุ้มตุ๊กตาแค็ปเบจ แพ็ตซ์ มองมาตื่นๆ เบื้องหลังเด็กหญิง ครองพี่เลี้ยงสาวใหญ่ยืนยิ้มเหยเก แววตาขอลุแก่โทษระคนวิงวอนไม่ให้โกรธ กัญชพรเข่าอ่อนจนต้องรีบคว้าหลักใกล้มือก่อนจะทรุดทั้งยืน สิ่งที่ยึดได้โดยไม่ทันสังเกตเพราะกำลังตกใจก็คือแขนแข็งแรงของคนที่ยืนอยู่ใกล้ วินาทีนั้น รู้โดยไม่ต้องมีใครบอก ความลับของหล่อนเปิดเผยแล้ว นวินวรรษทราบความจริง! เขารู้แล้ว...ว่าน้องอ่อนคือสายเลือดของเขา!
ตอนที่1
กัญชพรเข้านอนแล้วแต่ยังไม่หลับ เมื่อได้ยินเสียงดังโครมครามที่ห้องโถงชั้นล่าง หล่อนตัดสินใจลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ภาพที่เห็นคือร่างสูงใหญ่ของเจ้าของบ้านนั่งอยู่แปะบนพื้น ข้างๆ หมู่เก้าอี้รับรองแขกกลางห้องโถง
เสียงที่หล่อนได้ยินน่าจะเป็นเสียงเก้าอี้ที่เคยตั้งเอาไว้ แต่บัดนี้นอนตะแคงเค้เก้
“พี่วรรษ” หล่อนอุทาน “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
ไม่มีเสียงตอบจากคนนั่งคอพับลำตัวเอนไปเอนมา
กัญชพรเข้าไปใกล้จึงรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้เป็นอะไร นอกจากเมา
นับแต่ประสบเคราะห์ร้ายเรื่อยมา เริ่มจากสูญเสียภรรยาและบุตรที่ไม่โอกาสได้ลืมตาดูโลกนวินวรรษไม่เคยหันเข้าหาเหล้า จึงนับว่าแปลกที่วันนี้กลับมาในสภาพเมามายจนน่าสงสัยว่าขับรถกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยได้อย่างไร
“ฉลองอะไรมาคะ”
เหมือนว่าเสียงของหญิงสาวจะแทรกเข้าถึงประสาทการรับรู้ที่ถูกกดทับด้วยฤทธิ์น้ำเมา ดวงตาปิดสนิทพยายามลืมกว้างเท่าที่จะทำได้
“กัญเหรอ”
เสียงถามอย่างคนลิ้นไก่สั้น
“ค่ะ กัญเอง”
“พี่เมา...”
ดวงตาที่เคยคมกล้าฉ่ำแดงมีน้ำเยิ้มทำให้ดูสะลึมสะลือ
“เห็นอยู่เหมือนกัน”
หล่อนส่ายหน้ากับสภาพเสื้อผ้ายับยุ่ง เสื้อนอกพาดไว้หมิ่นเหม่บนเก้าอี้ข้างตัว
“แย่!”
“พี่เมา...”
คนเมาบอกซ้ำ
“รู้แล้วค่ะ มาเถอะ กัญจะพาไปส่งที่ห้อง”
ร่างบางอรชรนั่งลงข้างๆ คนเมา จับแขนยาวล่ำสันข้างหนึ่งขึ้นพาดไหล่
“ห้องไหน”
“ห้องนอนพี่วรรษน่ะสิคะ”
กัญชพรย่นจมูกเมื่อได้กลิ่นเหล้าหึ่ง
“ลุกค่ะพี่วรรษ ทำตัวถ่วงแบบนี้กัญฉุดขึ้นไม่ไหวนะ”
“ลุก...เหรอ ทำยังไง”
ศีรษะที่เจ้าตัวพยายามจะยกตั้งชันขึ้นหักพับลงมาข้างหน้าทำท่าจะหลับในท่านั่งอยู่อย่างนั้น
“ฮื้อ!”กัญชพรทำเสียงขัดใจ แต่ไม่ละความพยายามที่จะนำคนเมาไปส่งที่ห้อง “ตั้งสติหน่อย เอาล่ะ เกาะไหล่กัญไว้ นั่นแหละ ทีนี้ก็ใช้เท้ายันพื้นค่ะ กัญจะนับหนึ่งถึงสามแล้วพี่วรรษก็ยันตัวขึ้น หนึ่ง...สอง..ซ้าม!”
การพาคนเมาแทบครองสติไม่อยู่ขึ้นบันได เป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่จะปล่อยให้นอนบนโซฟาข้างล่างคงไม่เหมาะที่จะให้บริวารในบ้านมาพบนายในสภาพที่ไม่น่าดู
ในที่สุดความพยายามของกัญชพรก็ประสบความสำเร็จ
หลังจากจัดร่างสูงให้นอนบนเตียงถอดถุงเท้ารองเท้าให้เรียบร้อย หล่อนก็ผละออกมายืนมองร่างไร้สติพร้อมกับส่ายหน้า
บนตัวคนเมายังมีเสื้อผ้าครบชุด ขาดก็แต่เสื้อนอก ที่คอมีเนคไทห้อยร่องแร่ง จึงดึงออกวางพาดไว้บนโต๊ะเล็กข้างเตียง จากนั้นหยิบรีโมทเปิดเครื่องปรับอากาศ
พอหันกลับไปมองมนเตียงหลังจากปรับอุณหภูมิภายในห้องเรียบร้อยก็พบว่าคนที่ไร้สติสมประดีเมื่อสักครู่ดึงทึ้งเสื้อตัวเองทั้งหลับตา ทำเสียงฮื้อฮ้าขัดใจที่ถอดเสื้อออกไม่ได้ กัญชพรเข้าไปช่วยก่อนกระดุมเสื้อจะขาดทั้งแถบ แต่คนร้อนจนเหงื่อชุ่มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ดูเหมือจะไม่ทันใจ ปัดมือหล่อนออก แล้วกระชากเสื้อออกจากตัวเสียเอง
กัญชพรถอยออกมายืนมองตาโต เมื่อร่างสูงลุกยืนโงนเงนข้างเตียงลงมือปลดเข็มขัดกางเกง รูดซิป ก่อนรูดกางเกงลงไปกองที่ข้อเท้าทั้งชั้นนอกชั้นในคราเดียว
กัญชพรอุทานออกคำหนึ่งด้วยความตกใจ แต่ยังมีสติรีบหันหลังให้ก่อนจะทันเห็นชายเปลือยเต็มตา
มีเสียงหายใจหอบๆ ตามด้วยเสียงล้มตัวลงบนเตียง กัญชพรยังรออยู่ครู่ใหญ่จึงค่อยหันไปมอง ยกมือข้างหนึ่งปิดตาไว้ครึ่งๆ สายตามองต่ำพบเท้าแข็งแรงวางยันพื้น กางเกงชั้นนอกชั้นในยังคล้องที่ปลายขา
กัญชพรไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปช่วยปลดออก
หล่อนยกเท้าทีละข้างดึงกางเกงที่เจ้าตัวถอดคาไว้ออก นำไปใส่ลงตะกร้าผ้าซักแล้วกลับมายกขายาวระพื้นขึ้นวางบนเตียง ตลอดเวลานี้กัญชพรจำกัดสายตาไม่ให้มองสูงเกินหน้าแข้ง กระทั่งหยิบผ้านวมโยนโปะลงบนร่างไร้สติทั้งหลับตาปี๋ แน่ใจว่าผืนผ้าช่วยปกปิดจุดสำคัญของชายหนุ่มแล้วนั่นแหละ จึงกล้ามองร่างนอนเหยียดยาวเต็มตาพร้อมกับผ่อนลมหายใจที่กลั้นเอาไว้ออกมา
หญิงสาวกำลังจะเดินออกเพื่อกลับห้องตัวเอง หลังจากยืนมองใบหน้าคมสันแดงก่ำตาทั้งคู่ปิดสนิทมองเห็นแผงขนตายาวงอนเป็นแผงทาบทับบริเวณโหนกแก้มด้วยสายตาอ่อนซึ้งอยู่หลายนาที เมื่อได้ยินเสียงร้องอู้อี้มาจากบนเตียง
หล่อนหันกลับ พบว่าร่างที่นอนนิ่งเมื่อสักครู่มีอาการทุทนทุรายของคนตกอยู่ในฝันร้าย
แขนล่ำสันที่หล่อนจับวางไว้บนผ้านวมชูขึ้นขวักไขว่ ปากพร่ำเพ้อฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจับใจความได้ในลักษณะปนมากับเสียงร่ำไห้
“แพม...แพมจ๋า อย่าไป! อย่าทิ้งผม อยู่กับผัวก่อน…แพม...แพม อย่าทิ้งผม กลับมา...”
เสียงคร่ำครวญปนสะอึกสะอื้นทำให้กัญชพรละล้าละลัง ไม่รู้ว่าจะทำประการใดดี ขณะเดียวกันหัวใจของหล่อนเหมือนถูกขยี้ด้วยมือที่มองไม่เห็น ต่อการแสดงออกถึงความอาลัยรักภรรยาที่ตายจากแม้ขณะไร้สติสัมปชัญญะ บ่งบอกความรักความอาลัยที่มีต่อภรรยายอดรัก ที่คงจะไม่มีวันจืดจางไปจากใจชายหนุ่ม
หล่อนสงสารเขา แต่ก็เศร้าใจตัวเองไปพร้อมกันที่ปล่อยใจรักคนที่จะไม่มีวันรักตอบ
“แพม...แพม! กลับมาก่อนโธ่...อย่าทิ้งผมไป แพม...แพมจ๋า ยอดรัก!”
มือไขว่คว้าหาหญิงผู้เป็นยอดดวงใจ น้ำตาที่ไม่เคยไหลรินให้ใครเห็นหยาดเป็นทางเมื่อรับรู้ถึงความสิ้นหวัง เสียงสะอื้นรุนแรงเหมือนจะดังออกมาจากอก ทั้งน่ากลัวและชวนสะเทือนใจ
กัญชพรรู้ว่าหล่อนควรรีบผละไป แต่ความรักความสงสารที่ได้เก็บงำไว้ในใจมาเนิ่นนานที่ตนรู้อยู่คนเดียว ทำให้หล่อนกลับคุกเข่าลงข้างๆ ร่างที่กำลังหอบโยนจากการสะอื้นไห้
หล่อนดึงแขนล่ำสันที่เจ้าตัวเพิ่งปล่อยตกลงปิดใบหน้าออก พูดปลอบเหมือนปลอบเด็ก
“พี่วรรษขา อย่าร้อง ถึงพี่แพมจะไม่อยู่ พี่วรรษก็ยังมีกัญนะคะ”
ไม่รู้ว่าได้ยินคำพูดปลอบโยนของหล่อนหรืออย่างไร แขนตกปิดหน้าจึงค่อยๆ เลื่อนออก เสียงสะอื้นแรงลึกซาลง เว้นระยะห่างออกไปเรื่อยๆ
“หลับเสียคนดีของกัญ”
มือบางยื่นไปปัดปอยผมบนหน้าผากกว้างให้พ้นดวงตาล้อมรอบขนตาดกดำยาวงอนจับกันเป็นกระจุกเพราะเปียกน้ำตา ที่เจ้าตัวหลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัวที่ลืมขึ้นในลักษณะครึ่งหลับครึ่งตื่น
กัญชพรขัดเขินเมื่อสบนัยน์ตาคมสีเข้มในระยะประชิด
