ตอนที่ 3
และเมื่อวันงานมาถึง กอบัวก็แต่งตัวชุดเจ้าสาวเพื่อเข้าพิธีแต่งงานทั้งที่ก่อนหน้านั้นอิศราไม่ยอมมาหา เขาไปลองชุดเจ้าบ่าวตามความต้องการของพ่อกับแม่และถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับกอบัวด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ทุกอย่างผ่านพ้นไปแต่กอบัวก็รู้ดีว่าเขาไม่เต็มใจเพราะดูจากสีหน้าท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาเย็นชากับเธอแค่ไหน การแจกการ์ดเธอก็ไปกับครอบครัวโดยว่าที่เจ้าบ่าวอ้างว่าเขาติดภาระงานที่โรงพยาบาลแต่เพื่อนครูด้วยกันกลับกระซิบบอกเธอหลายครั้งว่าเห็นอิศราไปทานอาหารกับผู้หญิงอีกคน หากเธอก็ยังไม่เคยเห็นภาพนั้นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
ครูสาวผู้แสนเรียบร้อยอย่างกอบัวจึงต้องทนแบกรับแรงกดดัน ทั้งจากว่าที่เจ้าบ่าวที่ไม่เคยสนใจและเสียงจากคนรอบข้างทั้งที่ได้ยินและไม่ได้ยิน พูดง่าย ๆ ว่ามีเสียงนินทาว่าเจ้าบ่าวไม่เคยสนใจว่าที่เจ้าสาวอย่างเธอแม้แต่น้อย รับรู้แม้กระทั่งว่ามีคนสันนิษฐานต่าง ๆ นานาว่าผู้หญิงอีกคนของคุณหมออิศราเป็นผู้หญิงสวย เปรี้ยวเฉี่ยวแตกต่างจากกอบัวที่เป็นเพียงครูสาว ถึงสวยน่ารักแต่ก็ไร้เสน่ห์เพราะเธอช่างจืดชืดสิ้นดี แต่กอบัวก็ไม่เคยแสดงให้ใครเห็นว่าเธอกำลังทุกข์ใจขนาดไหน อย่างน้อยเธอก็ยังมีกำลังใจจากคนในครอบครัว ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน วันแต่งงานที่จัดในโรงแรมหรู หลังขึ้นเวทีพูดต้อนรับแขกเหรื่อแล้วกอบัวก็ไปนั่งพักที่มุมหนึ่งซึ่งเป็นซุ้มดอกไม้จัดไว้ให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาว แต่หลังเดินทักทายแขกตามโต๊ะในห้องจัดเลี้ยงอิศราก็หายตัวไป ปรียา มารดาของกอบัวเข้าไปหาลูกสาวที่นั่งอยู่เพียงลำพังและเอ่ยถามขึ้นว่า
“บัว...ทำไมมานั่งคนเดียวตรงนี้ล่ะลูก แล้วอิศหายไปไหน”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแม่ บัวก็เพิ่งมานั่งเนี่ยล่ะค่ะ”
หญิงสาวตอบกลับไป แต่หน้าตาของเธอยังดูเรียบเฉยทั้งที่ใจหนึ่งก็เริ่มรู้สึกไม่ดีที่ไม่รู้ว่าจู่ ๆ เจ้าบ่าวหายไปไหน หลังเดินทักทายแขกเหรื่อกอบัวก็แค่รู้สึกเหนื่อย ๆ เธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าอิศราเดินไปทางใดก่อนมานั่งพักที่ซุ้มดอกไม้หน้าห้องจัดเลี้ยง ปรียาเข้ามานั่งข้าง ๆ และยกมือขึ้นลูบแก้มบุตรสาวเบาๆ
“วันนี้บัวสวยมากเลยนะลูก เหนื่อยมากไหม?”
“ก็เหนื่อยค่ะแม่ แค่มานั่งสักพักเดี๋ยวจะกลับเข้าไปที่งานค่ะ”
“พี่อิศเขาเป็นไงบ้าง เขาตื่นเต้นเหมือนกันใช่ไหมที่ได้เป็นเจ้าบ่าววันนี้”
ปรียากล่าวอย่างอารมณ์ดี กอบัวได้ฟังและสะเทือนใจเพราะหล่อนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวที่รู้ว่าแท้จริงอิศราคิดอะไรอยู่ หล่อนยิ้มกับมารดากลบเกลื่อนความทุกข์ที่กำลังประดังเข้ามา
“พี่อิศเขาก็โอเคค่ะแม่”
“เขาต้องโอเคอยู่แล้วล่ะ เพราะงานนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นถึงความเหมาะสม แม่ต้องขอโทษบัวด้วยนะที่ไม่ได้บอกเรื่องที่ผู้ใหญ่ฝ่ายเรากับฝ่ายของอิศราเคยตกลงกันว่าจะให้ลูกของเราแต่งงานกัน พ่อของอิศกับพ่อของลูกเป็นเพื่อนสนิทและเคยสัญญากันว่าถ้ามีลูกชายกับลูกสาวก็จะให้แต่งงานกัน แม่ดีใจอย่างหนึ่งนะว่าลูกสาวของแม่ไม่ดื้อและยอมรับการแต่งงานครั้งนี้”
ทั้งที่อิศราไม่ได้เห็นดีด้วยแม้แต่น้อย...กอบัวนึกในใจอย่างเจ็บปวด ตลอดเวลาก่อนงานแต่งมีแต่หล่อนเท่านั้นที่เห็นว่าเจ้าบ่าวไม่เคยแสดงความอนาทรร้อนใจอะไรเลย นับแต่วันที่เขาไปหาเธอที่โรงเรียนก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังดำดิ่งสู่ความเลวร้าย อิศราไม่ยอมติดต่อมาหา ไม่สนใจ แม้แต่วันถ่ายภาพคู่ในชุดแต่งงานเขาก็แทบไม่ปริปากพูดกับเธอสักคำ และวันนี้ก็เช่นกัน คนอื่นมีสีหน้าระรื่นมีความสุขแต่เธอกลับต้องฝืนใจลึก ๆ และไม่อยากมองหน้าเจ้าบ่าวที่สีหน้าของเขาเรียบเฉยเกินกว่าจะเรียกได้ว่ามีความสุขอย่างเช่นคนอื่น สักครู่ปรียาก็เอ่ยขึ้น
“ถ้าเหนื่อยจะนั่งพักตรงนี้ก่อนก็ได้นะบัว เดี๋ยวแม่เข้าไปดูในงานสักหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง อีกเดี๋ยวแขกคงเริ่มทยอยกลับ ลูกค่อยเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงอีกครั้งก็ได้”
