บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

นางไม่อาจจะบอกความจริงได้ว่านางไม่ใช่พี่สาวของเขา นางเป็นเพียงวิญญาณที่มาอาศัยร่างของพี่สาวหนิงเฉิงและนางได้ตายไปแล้ว หากนางพูดออกไปเช่นนี้นางคงได้โดนเผาทั้งเป็น

"พี่ไม่เป็นอันใดแล้วเจ้าอย่าได้ร้องไห้อีกเลย" จือลู่ลูบหลังปลอบหนิงเฉิง

"วันนี้ขึ้นเขากันดีหรือไม่" นางเปลี่ยนไปเรื่องขึ้นเขาหาของป่าแทนเพื่อให้หนิงเฉิงลืมเรื่องที่นางวิญญาณหลุดออกจากร่าง

"ได้ท่านพี่ ท่านเก็บกล่องของท่านให้ดี อย่าให้ผู้ใดพบเห็นเข้า" หนิงเฉิงพูดกับจือลู่อย่างจริงจัง

"ได้ได้ ข้าจะเก็บประเดี๋ยวนี้" แต่ก่อนที่นางจะเก็บ นางนำของกินและน้ำออกมาอีกเพื่อนำไปเป็นเสบียงช่วงขึ้นเขา

หนิงเฉิงที่รอบคอบกว่าจือลู่ก็นำของออกจากถุงและใส่ลงไปในห่อผ้าแทน ถุงขยะและขวดน้ำ จือลู่ลองใส่กลับเข้าไปในกล่องปรากฏว่าของที่เป็นขยะจะหายไป และเปลี่ยนเป็นของชิ้นใหม่ขึ้นมาแทน นางจึงไม่ต้องกังวลเรื่องของกินอีก แต่จะให้กินเพียงของไม่กี่อย่าง คงไม่นานได้เบื่อแน่ และนางก็ไม่คิดจะหวังพึ่งเพียงของกินในกล่องเท่านั้น

สองพี่น้องแบกตะกร้าขึ้นหลังในตะกร้านอกจากของกินแล้วยังมีมีดพร้าและของที่ไว้ขุดหาผักป่าได้อีกด้วย ทั้งคู่มุ่งหน้าขึ้นเขา ก็พบเจอชาวบ้านที่ออกมาทำไร่และหาของป่าเช่นเดียวกับทั้งคู่

"ลู่เออร์หายดีแล้วหรือ" เมื่อเห็นว่านางจะขึ้นเขาพร้อมหนิงเฉิงทุกคนต่างก็สอบถามทั้งคู่อย่างเป็นห่วงแล้วยังกำชับให้หนิงเฉิงดูแลพี่สาวที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บให้ดีด้วย ทั้งคู่กล่าวขอบคุณไปตลอดทาง

เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน จือลู่มองดูก็ไม่พบผักป่าหรือสิ่งใดให้นางเก็บได้ นางจึงชวนหนิงเฉิงแยกไปอีกทางที่ไม่มีชาวบ้านเดินเข้าไปมากนัก

"ท่านพี่ ฟากนั้นไม่มีใครไปกันนักขอรับ" หนิงเฉิงเอ่ยเตือนอย่างกังวลใจ เพราะพรานป่ามักจะบอกว่าด้านนั้นมีเสือ มีหมีป่า จึงไม่มีใครกล้าเข้าไป

"เข้าไปไม่ลึกนัก หากเดินไปทางที่ชาวบ้านคนอื่นเดินเจ้าก็ไม่พบของมีค่าหรือของที่กินได้แล้ว" จือลู่กล่าวแย้งและแยกตัวเดินนำไปอีกทาง

หนิงเฉิงที่ไม่อาจไม่เดินตามพี่สาวได้ก็รีบเร่งฝีเท้าตามจือลู่ไปอย่างรวดเร็ว ป่าอีกฟากเพราะไม่มีชาวบ้านเข้ามาหาของป่าจึงทำให้มีผักป่า ผลไม้ป่ามากว่าอีกด้าน หนิงเฉิงรีบเข้าไปเก็บอย่างดีใจ แต่จือลู่ดึงตัวเขาไว้เสียก่อน

"เดินเข้าไปอีกหน่อยเถิด หากไม่พบอะไรค่อยออกมาเก็บก็ยังได้" ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครมาแย่งพวกนาง หนิงเฉิงที่เห็นของป่ามากมายก็ใจกล้าขึ้น เดินตามจือลู่เข้าไปในส่วนที่ลึกขึ้น

อากาศในภูเขาเริ่มเย็นมากกว่าด้านนอก ป่าที่รกทึบทำให้แสงแดดส่องเข้ามาไม่ถึง จือลู่ใช้ไม้ที่นางหาได้เขี่ยไปตามพื้นดิน หากพบสมุนไพรมีค่าของนำไปขายได้เงินมากกว่าผักป่าหรือผลไม้ป่า

แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างสองพี่น้อง เดินมาจนแทบจะหมดแรงแต่ก็ยังไม่พบสิ่งใดที่มีค่านอกจาก ไข่ไก่ป่าสี่ห้าฟองเท่านั้น ต่อให้เจอไก่ป่าทั้งคู่ก็ไม่อาจจับได้ จือลู่ถอนหายใจอย่างสิ้นความหวัง

"พักกินอะไรเสียก่อนเถิด" นางบอกหนิงเฉิงที่ก้มๆเงยๆหาของป่าอยู่

ทั้งคู่นั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะหยิบของในตะกร้าออกมาแล้วแบ่งกันกิน หนิงเฉิงที่ไม่เคยกินของเหล่านี้มาก่อนก็กินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งคุกกี้ ขนมปัง หนิงเฉิงกินไปมากกว่าจือลู่เสียอีก

จือลู่ก็เริ่มจะเก็บของกลับลงตะกร้าเพื่อจะเดินย้อนกลับไปทางเดิม มือของนางก็กิ่งไม้เล็กๆที่โผล่ขึ้นมาจากดินเข้า เมื่อนางลองใช้มือแหวกกองใบไม้ออกก็พบถังเช่าที่อยู่ด้านใต้ จือลู่ที่ยังไม่แน่ใจก็หยิบเครื่องมือที่อยู่ในตะกร้าออกมาขุดดินรอบๆทันที

"เฉิงเออร์ พวกเรารอดตายแล้ว" นางชูสิ่งที่อยู่ในมือขึ้นแล้วร้องออกมาอย่างดีใจ

"กิ่งไม้เล็กเพียงนี้ ท่านจะนำไปทำอันใด" หนิงเฉิงที่ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในมืองของจือลู่ล่ำค่าเพียงใดก็เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย

"นี่คือสมุนไพร เรียกว่าหญ้าหนอน" จือลู่อธิบายให้น้องชายฟัง ว่าราคาแพงกว่าโสมเสียอีก

หนิงเฉิงที่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในมือพี่สาวแพงกว่าโสมก็รีบช่วยนางขุดหาอย่างรวดเร็ว จือลู่สอนให้หนิงเฉิงขุดขึ้นมาอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ถังเช่าได้รับความเสียหาย ถังเช่าที่นางพบมีขนาดใหญ่กว่าที่นางเคยเห็นในภพของนางเสียอีก จึงทำให้ขุดได้ง่ายกว่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel