บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

สมบัติที่ติดตัวท่านแม่มาจากเมืองหลวงสองพี่น้องไม่หวังว่าจะได้คืน เพราะพวกเขาคิดว่าท่านลุงกับท่านป้าสะใภ้คงนำไปขายหมดแล้ว

นางกงซื่อที่ไม่ยินยอมแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะต้าอู๋ที่หวาดกลัวทางการจำต้องยอมคืนเครื่องเรือนและเงินทั้งหมดให้หลานทั้งสอง

ชาวบ้านที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากบิดามารดาของจือลู่ก็ช่วยกันขนของและพาสองพี่น้องกลับเรือนเดิม ถึงจะเป็นเรือนที่อยู่ท้ายหมู่บ้านแต่เพราะสองพี่น้องเพิ่งย้ายไปไม่นาน ทั้งคู่ยังกลับมาทำความสะอาดอยู่เสมอ จึงไม่ต้องทำสิ่งใดเพิ่มเพียงนำของเข้าไปเก็บทีก็สามารถเข้าพักได้เลย

เมื่อทุกอย่างเข้าที่ สองพี่น้องกล่าวขอบคุณผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านที่มาช่วยอย่างซาบซึ้งใจ ท่านป้าชุยภรรยาท่านผู้นำหมู่บ้านอาสาอยู่เป็นเพื่อนจือลู่ตอนที่หนิงเฉิงไปรับยาที่บ้านท่านหมอหวง

จือลู่ที่หมดเรี่ยวแรงนางล้มตัวนอนก็หลับไปทันที หนิงเฉิงกลับมาถึงก็รีบต้มยาให้พี่สาว ชาวบ้านที่มีน้ำใจยังแบ่งแป้ง ปลายข้าวและผักป่ามาให้ทั้งคู่ได้กินประทังชีวิตไปก่อนในวันนี้

หนิงเฉิงนำยา และข้าวต้มมาให้พี่สาว และเรียกนางที่ยังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้น "พี่หญิงลุกขึ้นกินข้าว กินยาเสียก่อนขอรับ" หนิงเฉิงช่วยประคองนางขึ้น

"เฉิงเออร์เจ้ากินแล้วหรือยัง" นางถามน้องชายเพราะเห็นข้าวต้มเพียงแค่ถ้วยเดียว จือลู่เห็นแววตาของน้องชายก็รู้ว่าเขายังไม่ได้กิน นางจึงวางช้อนลง

"หากเจ้าไม่กินพร้อมข้า ข้าก็ไม่กิน" หนิงเฉิงจึงต้องลุกขึ้นไปตักข้าวมากินพร้อมพี่สาว

จือลู่ที่นอนคิดทั้งคืนว่าจะหาเงินได้อย่างไรก็คิดจนนอนหลับไป เพราะนางไม่รู้จะทำยังไงให้ได้เงิน หากจะขึ้นเขาหาของป่าก็คงต้องรักษาตัวให้หายเสียก่อน

จือลู่รักษาตัวอยู่เกือบสิบวัน ถึงจะลุกขึ้นมาเดินอย่างปกติได้ ในช่วงแรกนางก็ลุกขึ้นมาช่วยทำงานบ้านได้แล้ว เพียงแต่ยังคงเจ็บตัวอยู่จึงไม่อาจช่วยหนิงเฉิงได้มากนัก เงินที่ได้มาจากต้าอู๋ก็มีเพียงห้าตำลึงเท่านั้น ถึงจะพอให้ทั้งคู่กินใช้ไปได้หลายเดือน แต่ก็ไม่อาจจะนอนอยู่เฉยๆได้แล้ว

นางคิดจะขึ้นเขาหาของป่าจึงได้ลุกขึ้นเตรียมตัวแต่ฟ้ายังไม่สว่าง จือลู่เดินสะดุดกล่องอะไรไม่รู้ที่อยู่ข้างเตียงจนนางเกือบล้มลง

"โอ๊ย" เสียงร้องของนางทำให้หนิงเฉิงที่เพิ่งตื่นก็รีบร้อนมาที่ห้องของนางอย่างรวดเร็ว

"พี่หญิงท่านเป็นอันใด" หนิงเฉิงจุดเทียนแล้วรีบเข้ามาภายในห้อง

สองพี่น้องยืนนิ่งมองกล่องรูปร่างแปลกๆที่อยู่ข้างเตียงของจือลู่ แต่จือลู่ย่อมรู้ดีว่ากล่องที่นางเห็นคือกล่องเครื่องสำอางของนาง เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำตามนางมาได้อย่างไร

สองพี่น้องนั่งลงที่ข้างกล่องใบใหญ่ จือลู่เปิดกล่องออกดูก็พบว่าของทั้งหมดของนางยังอยู่ภายในกล่องอย่างดี ของกินเล่นที่นางมักจะซื้อแล้วโยนไว้ภายในกล่องเครื่องสำอางก็ยังคงมีอยู่

หนิงเฉิงมองของต่างๆอย่างแปลกใจ เขาไม่เข้าใจว่าภายในกล่องที่เห็นคือสิ่งใด จือลู่ส่งแฮมเบอร์เกอร์ที่นางชอบซื้อระหว่างทางติดไว้ เพราะกินสะดวกส่งให้หนิงเฉิง เมื่อหยิบออกไปหนึ่งอย่าง ภายในกล่องก็ปรากฏของสิ่งเดิมขึ้นมาทดแทน

จือลู่หันไปสบตาของน้องชายอย่างตกใจ เพราะนางไม่คิดว่าจะเป็นเช่นที่เห็น ของกินไม่ได้มีเพียงแฮมเบอร์เกอร์เท่านั้น เพราะนางต้องวิ่งงานถึงสองงานในวันที่เกิดอุบัติเหตุจึงมีอาหารสำเร็จรูปอยู่หลายอย่าง ที่สามารถกินได้เลยหรือนำไปอุ่นก็กินได้ทันที

"กินก่อนเดี๋ยวค่อยคุย" จือลู่บอกน้องชายเมื่อเห็นสายตาของน้องชายมองมาที่นางเหมือนอยากจะถามสิ่งใด

จือสู่หยิบซอสออกมาเทราดไปที่แฮมเบอร์เกอร์และกินเป็นตัวอย่างให้น้องชายดู หนิงเฉิงบอกพี่สาวอย่างอึ้งๆ เพราะจือลู่กำลังอ้าปากกว้างกัดลงไปที่ของกินคำโต หนิงเฉิงจึงลองทำตาม

คำแรกที่เข้าปาก รสชาติของเนื้อที่ไม่ได้ลิ้มลองมานาน ความกรอบของผัก ที่มีความเผ็ดเปรี้ยวของซอสที่ใส่ลงไป เพียงไม่นานสองพี่น้องก็กินหมดลงอย่างรวดเร็ว

จือลู่ส่งน้ำเปล่าให้หนิงเฉิงหนึ่งขวดและเปิดฝาน้ำให้เขาด้วย ทุกการกระทำของจือลู่ทำให้หนิงเฉิงอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เหมือนสิ่งที่พี่สาวเขาทำเป็นสิ่งที่นางทำเป็นประจำ

"พี่หญิงท่านจะเล่าให้ข้าฟังได้หรือยัง" หนิงเฉิงที่ดื่มน้ำลงได้ครึ่งขวด ก็จ้องมองขวดน้ำอย่างสงสัย จึงได้เอ่ยถามพี่สาวขึ้น

"เจ้าฟังแล้วอย่าตกใจเล่า" จือลู่เอ่ยเตือนน้องชายไว้ก่อน

จือลู่แต่งเรื่องแล้วเล่าให้หนิงเฉิงฟังว่า ช่วงที่นางโดนทุบตีนั้นวิญญาณของนางหลุดไปอีกมิติหนึ่ง นางได้ใช้ชีวิตร่ำเรียนจนอายุได้ยี่สิบหกหนาวและเกิดอุบัติเหตุขึ้น จือลู่บอกว่านางได้ทำอาชีพที่เรียกว่าช่างแต่งหน้า ที่หนิงเฉิงเห็นคือเครื่องมือที่นางใช้แต่งหน้าให้ลูกค้าที่มาจ้างงาน

"พี่หญิง" หนิงเฉิงจับมือพี่สาวแล้วร่ำไห้ออกมา จือลู่กล่าวขอโทษอยู่ภายในใจที่ต้องโกหกเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel