บท
ตั้งค่า

ตอนที่7

“ไม่ได้แกล้ง ก็หญิงน้อยใจจริงๆ นี่นา”

“น้อยใจเรื่องอะไรอีกล่ะ”

“ก็ที่น้าแหววชมคนอื่นซะเลิศลอย แต่กับหลานที่แซ๊น... จะน่ารัก! กลับหาว่าถูกคนรอบข้างตามใจจนเหลิง”

“ก็หรือไม่จริง?”

“ไม่จริงสักนี้ด-นึง”

วัลลีมองหน้าเนียนใสแทบจะไม่มีแม้รอยแป้งฝุ่นแล้วก็ต้องถอนใจ

“น้าแหววถอนใจทำไมคะ หรือชักจะเบื่อหลานที่น่าสงสารคนนี้อีกคน”

“อย่ามาหาความน้าหน่อยเลย น้าไม่ทะเลาะกับหญิงหรอกนะ บอกซะก่อน”

“น่าจะทะเลาะสักนิดนะคะ หญิงจะได้ลับฝีปาก”

“นั่นไง พูดหยกๆ เอาเข้าแล้วไหมล่ะ! หญิงนี่ยังไงนะ สงสัยน้าต้องโทรไปทูลท่านชายให้มาพาลูกสาวของท่านกลับวังเสียแล้ว ขืนปล่อยให้อยู่ที่นี่ต่อไปคงกลายเป็นหัวโจกพาเด็กๆ แถวบ้านสวนกลายเป็นนักเลงประจำคลองไปหมด”

เรียวปากบางอิ่มแย้มสดใส

“เด็กพวกนั้นน่ารักออกค่ะ ซื่อบริสุทธิ์ คิดยังไงพูดยังงั้น แล้วก็ไม่โง่ด้วยนะคะ หญิงสอนอะไรไปจำได้หมด ตั้งแต่หญิงมาช่วยสอนพิเศษให้ ครูที่โรงเรียนยังชมกับหญิงเลย ว่าแต่ละคนทำคะแนนดีขึ้นมาก ที่เคยเฉียดตกก็ผ่าน และที่เฉียดผ่าน คะแนนก็ขยับขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ดี”

“เรื่องที่หญิงได้เที่ยวท่อมๆ ไปสอนหนังสือเด็กๆ ที่บางคนขาดพ่อ บางคนไม่มีแม่ บางคนก็ไม่มีทั้งพ่อและแม่ อยู่กับตาหรือยายตามลำพังนี้ น้าก็ว่าจะพูดกับหญิงอยู่เหมือนกัน”

“ทำไมคะ หรือน้าแหววไม่ชอบ ที่หญิงรู้จักทำตัวเป็นประโยชน์บ้าง ไม่ใช่เอาแต่กิน เที่ยว ผลาญสมบัติที่บุพการีทำมาหาไว้ให้ไปวันๆ อย่างลูกคนมีเงินบางราย”

“เรื่องหญิงรู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ทำตัวเป็นประโยชน์กับสังคมกับคนอื่นที่ด้อยโอกาสน้าก็ชอบอยู่หรอกจ้ะแต่...”

“แต่...”

คุณหญิงดุจตะวันเลิกคิ้ว เมื่อผู้เป็นน้าสาวแท้ๆ เงียบไปเฉยๆ ซะงั้น

“น้าไม่อยากให้หญิงไปยุ่งกับเด็กในชุมชนแออัดแถวคลองวังตะเคียน”

คุณหญิงก้มหน้าหลบสายตาคมอย่างเอาจริงที่มองมา ปากบางอ่อนช้อยเม้มอยู่ครู่หนึ่งก่อนเงยหน้าขึ้นถาม

“น้าแหววรู้ได้ยังไงคะว่าหญิง... ไปที่นั่น หญิงไม่คิดว่าน้าแหววจะเคยไปที่นั่นด้วยซ้ำ”

“ก็ไม่เคยไปจริงๆ น่ะแหละ แต่น้ามีเพื่อน เขาเป็นครู สอนอยู่ที่โรงเรียนแถวนั้น”

“แต่หญิงไม่ได้...”

“น้ารู้ หญิงไม่ได้ไปแบบเปิดเผยฐานะที่แท้จริง เผอิญเพื่อนน้าคนนี้ เขาสนิทกับน้า เคยรู้จักพี่สาวของน้า ซึ่งก็คือแม่ของหญิง เขาจำหญิงได้ เพราะเคยเห็นรูปของหญิงที่หญิงถ่ายกับน้าที่บ้านสวนเมื่อเร็วๆ นี้ แต่เขาก็ไม่ได้บอกใครหรอกนะว่าหนึ่งในกลุ่มนักพัฒนาและครูอาสาที่คนแถวคลองวังตะเคียนพากันเรียกครูตะวัน แท้ที่จริงคือหม่อมราชวงศ์หญิง ดุจตะวัน ธิดาคนเดียวของท่านชาย รังสิมันต์ อติวัณณ์”

คุณหญิงเมินหน้าหนีสีหน้าติดจะเครียดขรึม บอกลักษณะเริ่มเอาจริงของผู้เป็นน้าสาว

“น้าไม่เคยขออะไรหญิง แต่ครั้งนี้ น้าคงต้องขอ .... เลิกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชาวบ้านในชุมชนแออัดที่คลองวังตะเคียนซะเถอะหลาน”

หน้าเมินๆ หันกลับมา คิ้วเรียวดูยุ่งๆ

“หญิงไม่...”

“ที่นั่น...” วัลลีกล่าวติดต่อกันไป ไม่เปิดโอกาสให้หลานสาวผู้มีศักดิ์สูงตามเชื้อสายข้างฝ่ายบิดาได้แย้ง“ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่ง เพราะรู้ว่าขืนยุ่งด้วยก็ไม่ต่างอะไรกับการเอามือไปซุกหีบ รังแต่จะเจ็บตัวซะเปล่าๆ หญิงอาจจะไม่รู้ ชุมชนแออัดที่คลองวังตะเคียน มีทั้งนักเลงหัวไม้ ทั้งมิจฉาชีพ ล้วนแต่เป็นมือเป็นตีนของพวกค้ายาเสพย์ติดที่มีอิทธิพลคุมอยู่ แม้แต่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ยังไม่กล้าแตะ อาจจะเข้าไปดูๆ แลๆ แต่ก็แค่นั้น เวลามีคนฆ่ากันตาย เป็นที่รู้กันว่าสาเหตุมาจากการขัดผลประโยชน์ของพวกค้าสิ่งผิดกฎหมายตำรวจยังไม่เคยจับมือใครดมได้สักราย”

“หญิงไม่ได้คิดจะเข้าไปขัดผลประโยชน์ใครนี่คะ”

“ที่หญิงเข้าไปให้ความรู้พวกเด็กๆ พยายามพูดให้ชาวบ้านเล็งเห็นโทษของสิ่งเสพย์ติด รวมไปถึงการพนันที่ชาวบ้านติดกันงอมแงม ยิ่งกว่าไปขวางทางการหาประโยชน์ของพวกมาเฟียแถวนั้นเสียอีกไม่รู้หรอกหรือ?”

“น้าแหวจะให้หญิงทำไงคะ? ปล่อยเด็กตาดำๆ ที่บริสุทธิ์ หรือแม้จะกระดำกระด่างไปบ้างก็พอขัดเกลาได้ถ้าเขาได้รับความรู้ มีคนคอยช่วยเหลือให้กำลังใจเวลาเขามีปัญหา ให้ตกไปอยู่ภายใต้การครอบงำของพวกคนเลว เห็นแก่ได้ จนเขาถอนตัวไม่ขึ้น กลายเป็นกากเดนสังคมไปในที่สุดอย่างนั้นหรือคะ?”

สุ้มเสียงเอาจริงแม้กระทั่งสีหน้าแววตาก็ไม่ลดราวาศอก ทำเอาวัลลีถึงกับอึ้ง

“ที่น้าแหววพูดมาทั้งหมด” เสียงหนักแน่นมั่นคงกล่าวต่อ“หญิงรู้มานานแล้ว รู้กระทั่งว่า คุณครูอุ่น ที่พึ่งของเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เคยถูกพวกคนพาลขู่จะเอาชีวิต เมื่อท่านเข้าไปช่วยเด็กคนหนึ่ง ที่กำลังจะถูกปล่อยให้ตาย เพราะลงแดง หลังจากติดยางอมแงม แล้วหาเงินไปซื้อยามาเสพย์ไม่ได้”

“ตายแล้ว! อย่างนี้ไม่ได้นะ ยิ่งรู้อย่างนี้น้ายิ่งไม่ยอมให้หญิงเข้าไปที่นั่นอีกเป็นอันขาด!”

คุณหญิงดุจตะวันยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่คนเป็นน้าเห็นแล้วใจคอหาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel