1 ตัวภาระ (4)
“ข้าเบื่อ ขี้เกียจฟังท่านผู้เฒ่าพูดซ้ำ เลยหาเรื่องออกนอกกระโจม ขอโทษทีนะ ข้าไม่มีเจตนาแกล้งเจ้า”
คามีเลียกลอกตาไปมากับเหตุผลที่นางถูกแกล้ง แต่ท้องเจ้ากรรมกลับส่งเสียงร้องขออาหาร ฮาซันหันมาหัวเราะ เด็กหญิงรีบเอามือปิดท้องทันที
“ท้องของเจ้าร้องเสียงดังมาก”
คามีเลียรีบหันหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความอับอาย ก็แน่ล่ะ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย... น้าเขยพาเพื่อนนักพนันมาบ้าน คนผู้นั้นกินอาหารในส่วนของนางจนหมดเกลี้ยง นางจึงดื่มน้ำปะทังความหิวก่อนมาเรียนหนังสือเท่านั้น และตอนนี้นางก็หิวจนแสบไส้
“เราไปหาของกินอร่อย ๆ กันเถอะ”
“ข้าไม่มีเงิน” เด็กหญิงอ้อมแอ้มเสียงแผ่ว
“แต่ข้ามี” ฮาซันยิ้มฟันขาว พลางตบถุงเงินใบโตที่ซ่อนไว้ใต้เสื้อคลุม “ข้าเลี้ยงเจ้าเอง”
“แต่... ท่านผู้เฒ่าจะทำโทษพวกเราเพิ่มหากเราไปจากตรงนี้”
“ถ้าข้าบอกท่านพ่อ ก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้ทั้งนั้น”
คามีเลียเงียบไปอีก... ใช่ ไม่มีใครทำอะไรฮาซันผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่นางเล่าจะมีใครคอยคุ้มกะลาหัว
“ข้าไปกับเจ้าไม่ได้”
“ทำไมล่ะ?” ฮาซันย่นคิ้วเข้าหากัน
“ข้าไม่มีพ่อ...”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าเจ้าเป็นเพื่อนกับข้า ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเจ้าทั้งนั้น”
คามีเลียชั่งใจอีกครั้ง แต่เมื่อความหิวเล่นงานจนลมตีขึ้นมา นางจึงพยักหน้ารับ และแอบย่องหนีไปจากหน้ากระโจมดื้อ ๆ
ตลาดคือสถานที่ตื่นตาตื่นใจและแปลกใหม่สำหรับคามีเลีย นี่เป็นครั้งแรกที่นางออกจากบ้านมาไกลมากขนาดนี้ เพราะปกติน้าโมน่าจะห้ามไม่ให้นางได้ไปไหนไกล ๆ
พออิ่มท้องกับอาหารแสนอร่อยที่ฮาซันซื้อให้กินจนพุงกางแล้ว เด็กชายในวัยไล่เลี่ยจึงพานางเดินเล่นดูสินค้าสวยงามที่นางไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน
นอกจากอาหารหลากหลายชนิดชวนให้น้ำลายสอแล้ว ยังมีสินค้าพื้นเมือง ทั้งผ้าหลากสี พรมลายวิจิตร และเครื่องประดับชิ้นงามซึ่งมีอัญมณีหลากสีระยิบระยับติดอยู่
แสงที่ตกกระทบกับวัตถุสะท้อนเข้าตา คือสิ่งล่อตาล่อใจนัก คามีเลียยืนมองอยู่นานทั้งชอบและอยากได้ แต่นางก็ไม่มีเงินมากมายที่จะซื้อหาของเหล่านี้
“ข้าไม่เคยเห็นอะไรที่งดงามเช่นนี้มาก่อนเลยฮาซัน”
“นั่นคือเครื่องประดับของสตรี ไปเถอะ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก” ฮาซันก้าวยาว ๆ นำทางไปทันที คามีเลียจึงตัดใจจากสิ่งที่ต้องตาต้องใจ
ตลาดยามบ่ายมีคนออกมาเดินจับจ่ายใช้สอยไม่มาก แต่ยังมีพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้า...
มีพ่อค้าบางรายปูผ้ากับพื้นทรายได้อาศัยเงาของต้นปาล์มเอนหลังนอนหลับพักผ่อนในช่วงกลางวันแสก ๆ ทางเดินแคบ ๆ มีรถม้าวิ่งผ่านไปผ่านมา
ฝุ่นทรายที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยับฟุ้งกระจายคล้ายควันสีแดงในอากาศ สักพักเม็ดทรายเหล่านั้นจึงทิ้งตัวลงกับพื้นตามเดิม
ฮาซันเดินดูอาวุธที่ชื่นชอบ ซึ่งคามีเลียมิได้ใส่ใจสิ่งนี้เลย จากนั้นผู้นำทางจึงแวะซื้อทับทิมและแบ่งให้คามีเลียหนึ่งผล
“ข้าชอบทับทิมที่สุด หวังว่าเจ้าจะชอบมันเหมือนกับข้า”
คามีเลียมองผิวสีชมพูของผลทับทิมอย่างตื่นเต้น...
นางเคยเห็นน้าเขยกินผลไม้ชนิดนี้ และทิ้งเปลือกกับเมล็ดเล็ก ๆ ใส่ไว้ในชามไม้ นางไม่เคยได้แตะต้องลิ้มรสผลไม้ชนิดนี้สักครั้ง นอกจากเก็บซ่อนความรู้สึกอยากกินเอาไว้เท่านั้น พอได้รับผลทับทิมจากฮาซัน ความดีใจจึงบังเกิดขึ้น
“ขอบใจเจ้ามากนะฮาซัน”
ฮาซันยิ้ม “เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก”
“ทำไมเจ้าถึงดีกับข้าล่ะ? ในเมื่อเจ้าเพิ่งแกล้งข้า” คามีเลียมองฮาซันตาแป๋ว
“ก็แค่หาเรื่องออกมาเที่ยวข้างนอกเท่านั้น” ฮาซันไหวไหล่วางมาดเหมือนผู้ใหญ่ “อันที่จริงเราสองคนแค่มีอะไรคล้าย ๆ กัน”
“เหมือนยังไง?” คามีเลียย่นคิ้วเข้าหากันจนคิ้วเกือบชนกัน “เจ้าดูเหมือนพวกลูกขุนนาง ส่วนข้า... แทบไม่ต่างจากขอทาน” เด็กหญิงเสียงแผ่วลงเมื่อก้มมองสภาพของตัวเอง
