1 ตัวภาระ (3)
หนึ่งสัปดาห์ผ่านพ้นไปที่คามีเลียถูกนำตัวมาฝากเพื่อเรียนหนังสือกับท่านผู้เฒ่าซาเรฟ ซึ่งเป็นครูประจำหมู่บ้านร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ เด็กหญิงตัวน้อยต้องแบ่งเวลาครึ่งวันสำหรับใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าในวัยไล่เลี่ยกัน
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ความสุขเลย นางเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นไม่ได้สักคน ซ้ำยังถูกเพื่อนแกล้งเป็นประจำ พอนางเอาคืนให้บ้าง กลับถูกท่านผู้เฒ่าซาเรฟทำโทษ ด้วยการให้ยืนขาเดียวนอกกระโจมหลังใหญ่เหมือนในวันนี้
แต่ที่โชคร้ายกว่านั้นก็คือ เพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่เคยคิดว่านางคือเด็กผู้หญิงด้วยซ้ำ ทั้งที่นามของนางบ่งบอกเพศอย่างชัดเจน!
เด็กหญิงยืนร้องเพลงเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิดอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ดีกว่านั้น ทั้งที่เวลานี้นางควรอยู่กับฝูงแพะ อูฐตัวโต เลี้ยงซีร่าลูกสาวคนเล็กของน้าโมน่า หรือไม่ก็นอนกลางวันสักงีบกับกองฟางแห้ง
แต่ตอนนี้ชีวิตของนางเปลี่ยนไปหมด และมันเปลี่ยนตั้งแต่นางถูกน้าสาวพาตัวมาที่นี่ คามีเลียยอมทำตามอย่างว่าง่าย เพราะนี่คือสิ่งที่น้าโมน่าขอร้อง น้าสาวต้องการให้นางรู้หนังสือ แต่เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเด็กทโมนคนอื่น ๆ ซ้ำนางเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นไม่ได้ ความสนุกกับการเรียนรู้จึงหมดไป
คำถามหนึ่งที่ค้างใจในตอนนี้ก็คือ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?!
เหตุใดคนถูกแกล้งอย่างนางจึงต้องรับโทษอยู่ฝ่ายเดียว แต่คนแกล้งกลับหัวเราะชอบอกชอบใจ ความซวยของนางก็ไม่จบแค่นั้น เมื่อท่านผู้เฒ่าซาเรฟที่สอนหนังสือสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มดูรุ่มร่ามราวกับผู้เคร่งศาสนาได้เดินออกมาเท้าสะเอว อีกทั้งทำหน้าดุใส่นาง
“ระหว่างถูกทำโทษ ห้ามร้องเพลงนะแม่หนูน้อย”
เพื่อนร่วมชั้นเรียนต่างพากันหัวเราะชอบใจเมื่อนางถูกตำหนิซ้ำ พอท่านผู้เฒ่าซาเรฟหันไปสอนหนังสือต่อ ลูกหินสีขาวจากในกระโจมได้แหวกอากาศตรงเข้าใส่ศีรษะของนางทันที!
“โอ๊ย” คามีเลียหันขวับมองหาคนแกล้งทันที และพบว่าเป็นฝีมือของ ‘ฮาซัน’ เด็กชายซึ่งเรียนหนังสือเก่งที่สุด อีกทั้งร่ำรวยที่สุดในชั้นเรียน
คนทำหัวเราะชอบอกชอบใจ ซ้ำยังปาลูกหินเม็ดต่อไปใส่นางอีก
“หน็อยแน่!” เด็กหญิงกัดฟันด้วยความเจ็บใจเพราะฮาซันแลบลิ้นปลิ้นตาใส่นางด้วยความสะใจ
คามีเลียรีบเก็บลูกหินแล้วปาลูกหินใส่ฮาซันทันที แต่ความแม่นยำไม่เคยมีสำหรับนางงามตัวน้อยเลย นางทำพลาด ลูกหินลอยไปถูกเพื่อนนักเรียนคนอื่น เท่านั้นสงครามลูกหินจึงเกิดขึ้น และลุกลามใหญ่โตกลายเป็นความวุ่นวายในชั้นเรียนไป
“หยุด!! ข้าสั่งให้เจ้าทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้”
พอท่านผู้เฒ่าซาเรฟหันมาดุด้วยน้ำเสียงดังกังวานและจริงจัง เด็กน้อยทั้งหมดจึงหยุดชะงัก ความวุ่นวายค่อย ๆ คลี่คลายและกลับสู่ความสงบ หากเป็นความสงบเพียงชั่วคราวเท่านั้น
“บอกข้ามา ใครเป็นคนเริ่ม?”
เด็กน้อยชี้นิ้วโทษกันไปมา แต่ใครคนหนึ่งลุกขึ้นยืน “ข้าเห็นคามีเลียเป็นคนทำขอรับท่านผู้เฒ่า”
“ซวยแล้วไง” เด็กหญิงพึมพำเสียงแผ่ว รีบโยนลูกหินในมือไปไกลตัวเมื่อทุกสายตามองมานอกกระโจม
“ฝีมือเจ้าอีกแล้วรึ คามีเลีย!” ท่านผู้เฒ่าทำเสียงดุ หน้าตาขมึงกว่าเมื่อครู่ ก่อนเดินตรงดิ่งเข้าไปหา
“มีคนแกล้งข้าก่อน” คามีเลียอ้อมแอ้มตอบ หน้าจ๋อยลง
“เพื่อนเจ้าบอกว่าเห็นเจ้าก่อเรื่อง”
เด็กหญิงหน้าตามอมแมมเงยหน้าขึ้นสบสายตากับผู้เฒ่าของหมู่บ้าน “ข้าถูกแกล้ง ข้าแค่ปกป้องตัวเอง ฮาซันเป็นผู้หาเรื่องข้าก่อน เขาปาลูกหินใส่ข้า”
ท่านผู้เฒ่าซาเรฟหันมาหาฮาซัน เด็กชายที่ฉลาดที่สุดในห้อง และเป็นถึงบุตรชายของคหบดีผู้มั่งคั่งของหมู่บ้าน
“ว่าอย่างไรฮาซัน?”
คนถูกถามเงียบไป แต่สายตายังหยุดที่คามีเลีย
“พูดกับข้า... บอกความจริงกับทุกคน ลูกผู้ชายที่กล่าวคำเท็จ ถือว่าเป็นผู้เสื่อมเกียรติ”
“กระผมแกล้งคามีเลียเองขอรับ” ฮาซันยืดอกยอมรับ
ท่านผู้เฒ่าส่ายหน้าไปมา รู้สึกผิดหวังในตัวเด็กชาย “เช่นนั้นเจ้าจงไปยืนข้างคามีเลีย”
เด็กชายทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ดูจะพอใจด้วยซ้ำเมื่อได้ออกมายืนนอกกระโจม อีกทั้งยิ้มทะเล้นให้เด็กหญิงผมสั้นซึ่งดูเหมือนเด็กผู้ชาย
“เจ้าปาหินใส่ข้าทำไม?” คามีเลียถามเสียงห้วนทันทีเมื่ออยู่ลำพังกับฮาซันหน้ากระโจม
