บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 ศัตรูแรกพบ

ตอนที่ 1

ศัตรูแรกพบ

ธามเม้มปากแน่นเมื่อเห็นสภาพรถของตัวเองในเวลานี้ นอกจากมันจะสกปรกแล้วยังส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ทุกคนที่เห็นต่างก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีคนเล่นพิเรนทร์แบบนี้

ธามอาจจะเป็นตัวร้ายในละคร แต่ถ้าตัดเรื่องการเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยหรือเรื่องไม่ถูกกับนักข่าวออกไป ผู้ชายคนนี้เป็นคนดีมากคนหนึ่ง เขามีน้ำใจกับทุกคนในกองถ่ายและตั้งใจในการทำงานมาก คนในวงการรู้ดีว่านักแสดงหนุ่มคอยช่วยเหลือเพื่อนดาราที่ยากไร้ด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

“เดี๋ยวพี่ให้เด็กๆ ช่วยกันล้างรถให้นะ ธาม” ปกรณ์ ผู้จัดหนุ่มใหญ่พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนยืนเงียบกันไปหมด

“ขอบคุณนะครับ พี่กร” ธามหันมาขอบคุณจากใจ

“ใครกล้าเล่นแบบนี้นะ” ผู้จัดละครบ่นพึมพำ

“ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมไม่เคยมีศัตรูที่ไหน คนในกองนี้ก็ทำงานกันอย่างพี่น้อง ไม่เคยมีปัญหากัน หรือว่า...” นักแสดงหนุ่มนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“คิดว่าเป็นใครเหรอ”

“ไม่ครับ พี่กร” ธามส่ายหน้า แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้!

เพชรพันปียิ้มออกเมื่อรู้ว่ารถกระบะขนของที่ใช้อยู่นั้นต้องเปลี่ยนเพียงแค่แบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว หญิงสาวจ่ายเงินค่าซ่อมแล้วเดินสำรวจรอบรถ

“อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะนังหนู ขอเวลาอีกนิดจะแปลงโฉมให้สวยเลย” หญิงสาวพูดเสียงหวาน

“เพชร ทางที่ดีลุงแนะนำว่าให้ยกเครื่องใหม่หมดเลยจะดีกว่า ปล่อยไว้นานกว่านี้มันจะต้องซ่อมบ่อยขึ้น ตอนนี้เครื่องหลวมและเจอปัญหาหลายอย่าง” ช่างเจ้าของอู่ที่รู้จักกันกับบิดาของเธอพูดอย่างเป็นการเป็นงาน รถคันที่เพชรพันปีใช้อยู่มันเก่ามากแล้ว และควรที่จะจัดการยกเครื่องใหม่เสียที

“ลุงเก๋งคะ ขอเวลาอีกนิด เพชรเองก็อยากจะยกเครื่องเหมือนกัน แต่ตอนนี้ต้องทนใช้นังหนูไปก่อน ตอนนี้ต้องรอให้รถคันใหม่ทำหลังคากระบะเสร็จ แล้วก็รอคิวเอาไปให้พระเจิมอีก”

“ที่บ้านมีรถตั้งสามคันไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ค่ะ แต่ว่าเตี่ยใช้หนึ่งคัน พี่เพหนึ่งคันแล้วก็คนงานอีก ส่วนหนูก็ต้องใช้แม่คู่บุญไปก่อน” หญิงสาวให้เหตุผล

“ถ้าอย่างนั้นก็ใช้มันไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแต่พรุ่งนี้วันหยุดจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า” ชายวัยกลางคนเปลี่ยนเรื่องถาม หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“ไม่ได้กลับค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปขายของที่งานในเมืองทองแต่เช้า แล้วก็ต้องทำปิ่นโตไปส่งตามออร์เดอร์ที่สั่งมาด้วย”

กิจการอาหารปิ่นโตเดิมทีเป็นของทับทิมสยามผู้เป็นพี่สาวคนรอง ซึ่งแต่งงานกับชายหนุ่มแสนดีและย้ายตามสามีไปอยู่ที่เยอรมัน ด้วยความเสียดายอีกทั้งกิจการของพี่สาวกำลังไปได้สวย เพชรพันปีเลยรับช่วงต่อ

“เป็นยังไงบ้าง สนุกไหม”

“สนุกค่ะ พี่ทับทิมมีลูกค้าที่ผูกปิ่นโตด้วยหลายเจ้า มันสนุกตอนที่ได้คิดเมนูให้ลูกค้า”

“งั้นที่บ้านก็เหลือแต่เจ้าเพสินะ”

“ใช่ค่ะ ตอนนี้พี่เพรับหน้าที่หลักเลย น้ำพริกที่เอามาวางขายในกรุงเทพฯ พี่เพเป็นคนเอามาให้แล้วเพชรก็กระจายอีกที” ตอนนี้กิจการของครอบครัวนอกจากมีพ่อกับแม่แล้ว ยังมีรัตนเพทายพี่ชายคนโตเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก

“ขยันกันจริงคนบ้านนี้ แต่ลุงแนะนำนะว่าไม่ควรใช้เจ้านี่เกินหนึ่งอาทิตย์ หนูควรเอามันไปยกเครื่องได้แล้ว” เจ้าของอู่รถวกกลับมาเรื่องรถอีกครั้ง

“หนูก็คิดแบบนั้นค่ะ ได้ยินที่บ้านคุยกันว่าอาทิตย์หน้าจะเอารถใหม่มาให้และเอานังหนูไปเก็บค่ะ หนูไปก่อนนะคะลุงเก๋ง มีส่งน้ำพริกให้กับเพื่อนของแม่ที่โรงพยาบาลอีกค่ะ”

หญิงสาวยกมือไหว้เจ้าของอู่ แล้วขึ้นมานั่งบนรถคู่ใจเพื่อไปทำงานต่อ เจ้าของอู่ใจดีพยักหน้ารับยิ้มให้เธอด้วยความเอ็นดูและมองหญิงสาวขับรถจากไปจนลับตา

ที่จอดรถของโรงพยาบาลเต็มหมดทุกที่ ขับวนหาที่จอดอยู่สามรอบจนในที่สุดก็เห็นว่ามีที่ว่างที่หนึ่ง ซึ่งถูกกันไว้ไม่ให้รถคันอื่นเข้าไปจอด หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองอีก ครั้งเห็นว่ามันได้เวลานัดบวกกับไม่มีใครมาบอกว่าห้ามจอดจึงตัดสินใจจะจอดตรงนั้น เพชรพันปีเดินไปเอาที่กั้นออกแล้วเคลื่อนรถเข้าไปยังที่หมายแบบไม่รอช้า

“จอดไม่ได้นะครับคุณ” พนักงานรีบเดินเข้ามาบอก เมื่อเห็นว่าเธอจอดรถตรงจุดที่กันเอาไว้

“ขอจอดไม่ถึงสิบนาทีค่ะ ฉันขอไปส่งของสักครู่” เพชรพันปีเอ่ยเสียงหวาน

“ไม่ได้ครับ นี่เป็นที่จอดประจำของลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลครับ” เจ้าหน้าที่ให้เหตุผล

“แต่เขายังไม่มานี่คะ นะคะ ฉันขอร้องใช้เวลาไม่นานจะรีบไปเลยค่ะ” หญิงสาวออดอ้อนเสียงหวานพร้อมทั้งทำหน้าเศร้า

“ฉันต้องส่งของให้ทัน ถ้าส่งช้าก็อาจจะถูกว่าหรือเก็บเงินไม่ได้ เพราะว่าสโลแกนของร้านก็คือส่งช้าจะไม่คิดเงิน ดังนั้นถ้าช้าแม้แต่วินาทีเดียวก็จะไม่ได้เงิน แล้วฉันก็ต้องเลี้ยงคนทั้งบ้านนะคะ” หญิงสาวทำน้ำตาคลอจนยามอีกฝ่ายเห็นใจ

“ก็ได้ แต่ต้องรีบนะคุณ” เจ้าหน้าที่หันซ้ายหันขวาแล้วเปิดทางให้ในที่สุด

เพชรพันปียิ้มหวานและยกมือไหว้เป็นการใหญ่ รีบหยิบของจากด้านหลังรถวิ่งตรงเข้าไปด้านใน เพื่อนำของไปให้ร้านค้าที่ขายอาหารด้านในโรงพยาบาลทันที

ธามหงุดหงิดเมื่อพบว่าที่จอดรถประจำมีรถคันอื่นมาจอด เจ้าหน้าที่ที่ดูแลก็ไม่อยู่เสียด้วย แถมตอนนี้ที่จอดรถของโรงพยาบาลเต็มหมดแล้ว สิ่งที่ทำได้คือการรอ รอให้เจ้าของรถกระบะโกโรโกโสคันนี้มาเอามันออกไปเสียที

“เสร็จเสียที” เพชรพันปีเดินกลับมายังที่จอดรถ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีรถยนต์คันหนึ่งจอดขวางรถอยู่ เธอจำได้ดีว่ารถคันนั้นเป็นรถของใคร ธามมองคนที่ยืนตกใจด้วยสายตาดุดัน ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว

“แอบตามมาเอาเรื่องฉันเหรอ” หญิงสาวพูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นเจ้าของรถยืนอยู่ไม่ไกลนัก

“อย่าบอกนะว่าไอ้เศษเหล็กนี่เป็นรถของคุณ ให้ตายสิ โลกนี้มันกลมเสียจริง กล้าดียังไงเอาขยะแบบนี้มาจอดในที่ของผม” นักแสดงหนุ่มเสียงเข้ม

“ทำไมโลกแคบลงแบบนี้นะ” เพชรพันปีแกล้งบ่นลอยๆ เดาว่าผู้ชายคนนี้คงเป็นลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งนี้เป็นแน่

“เอามันออกไปจากที่จอดรถของผมเดี๋ยวนี้ กล้าดียังไงมาจอดที่นี่ ยามไม่ได้บอกเหรอว่ามันมีเจ้าของ”

“บอก แต่นี่มันที่จอดรถของโรงพยาบาลนะคนอื่นควรใช้ได้”

“แต่ไม่ใช่ตรงนี้ ที่นี่มันเป็นที่ส่วนตัวของผม”

“ฉี่แสดงอาณาเขตไว้เหรอ” หญิงสาวแกล้งพูดลอยๆ ธามเม้มปากแน่น นึกอยากเอาอะไรยัดปากแม่สาวตรงหน้าเสียเหลือเกิน

“คุณว่าผมเป็นหมาอีกแล้วนะ ดีเลยไหนๆ ก็เจอแล้ว เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง” ชายหนุ่มเดินมาขวางหน้าคู่กรณีไว้

“เรื่องอะไร” หญิงสาวทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“คุณใช่ไหมที่เอาน้ำปลาร้าไปละเลงรถผม” ชายหนุ่มถามตรงไปตรงมา

“ตายจริง ใครทำคุณน่ะ” เพชรพันปียกมือทาบอกทำหน้าตกใจ

“อย่ามาทำเสียงดัดจริตเล่นใหญ่ แสบมากนักนะ แม่ตัวดี” ธามมั่นใจเลยว่าเป็นฝีมือเธอแน่ๆ

“อย่ามากล่าวหาถ้าไม่มีหลักฐาน แล้วกล้าดียังไงมาว่าฉันดัดจริต ผู้ชายอะไรปากร้ายที่สุด” หญิงสาวเริ่มจะโมโหที่เขาใช้วาจาไม่สุภาพด้วย

“จะดูกล้องวงจรปิดไหม” ชายหนุ่มแกล้งขู่

“แถวนั้นมีกล้องเหรอ” เพชรพันปีหน้าซีดทันที ธามได้ทีจึงข่มขู่ต่อไปว่า

“แน่นอน”

“เออ ฉันทำเอง มีอะไรไหม” หญิงสาวยอมรับตามตรง คนอย่างเพชรพันปีกล้าทำก็กล้ารับ

“นี่ถ้าผมไม่แกล้งบอกว่ามีกล้อง คุณก็คงไม่ยอมรับซินะ”

“คุณหลอกฉัน” เพชรพันปีรู้ตัวว่าเสียท่าเขาแล้ว

“ถ้าไม่ทำแบบนั้นคุณจะยอมรับเหรอ เอาเป็นว่าครั้งนี้ผมจะไม่เอาเรื่อง เพราะถือว่าไม่ควรกัดกับหมาบ้า แต่ทางที่ดีควรจะอยู่ห่างๆ จะดีกว่า” ธามยิ้มพอใจเมื่อฝ่ายตรงข้ามหลงกลได้

“คุณว่าฉันอีกแล้วนะ รู้ตัวไหมว่าคุณเป็นผู้ชายที่ปากร้ายที่สุด คนอื่นทนร่วมงานกับคุณได้ยังไงนะ” เพชรพันปีโมโหที่ถูกหลอกด่าอีกแล้ว

“ผมไม่ได้ปากร้าย แล้วปกติก็ไม่เคยทำกับใครแบบนี้” ชายหนุ่มอมยิ้ม รู้สึกสะใจจริงๆ ที่ทำให้เจ้าหล่อนโมโหจนตัวสั่น

“ตั้งแต่เจอกัน คุณด่าว่าฉันเป็นหมามากี่คำแล้วเคยนับไหม ไอ้บ้า” หญิงสาวยืนเท้าเอวต่อว่าอย่างไม่ยอมแพ้

“ผมไม่ได้ด่าว่าคุณเป็นหมา แต่ผมบอกว่าคุณปากหมา ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่ผมว่าก็ไม่ต้องเดือดร้อนสิ แล้วจะยืนเถียงอีกนานไหมเอารถออกไปจากที่ของผมได้แล้ว ให้ตายสิ ทำไมผมจะต้องมาเสียเวลากับคนบ้าด้วยนะ”

เพชรพันปีเม้มปากเจ็บใจที่เสียท่า แต่ตอนนี้เธอไม่อยากเถียงแล้วเพราะอยากจะรีบกลับไปพักผ่อน เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องส่งของและต้องรีบไปเปิดร้านที่งานแสดงสินค้าให้พี่ชายต่อ

“คิดว่าอยากจะคุยด้วยนักหรือไง” หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ จากนั้นก็เดินเข้าไปนั่งในรถของตัวเองอย่างหงุดหงิด

ธามยืนมองหญิงสาวสตาร์ตเครื่องยนต์อยู่พักใหญ่ ดูเหมือนว่ารถกำลังมีปัญหาเพราะมันไม่ยอมติด

“นังหนูอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะลูก ให้พ้นสองสามวันนี้ไปก่อน แม่จะพาเข้าอู่แปลงโฉมศัลยกรรมให้เหมือนใหม่เลย” เพชรพันปีอ้อนวอนขอ ส่วนธามนั้นได้แต่ยืนมองแล้วกลอกตาไปมา

“ท่าทางรถจะเสียนะ” ชายหนุ่มเอ่ยเมื่อเพชรพันปีลงจากรถที่สตาร์ตไม่ติด

“ใช่” หญิงสาวเอ่ยเสียงห้วน ธามส่ายหน้าแล้วถามกลับไปว่า

“ให้ช่วยอะไรไหม”

“ท่าทางคุณหนูขนาดนี้จะซ่อมรถเป็นเหรอ”

“ผมพอรู้เรื่องเครื่องยนต์บ้าง จะดูให้เอาไหม”

“คิดจะมาพังรถฉันหรือไง” หญิงสาวถามอย่างระแวง

ธามถอนหายใจดังๆ แล้วใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่ไหล่ของเธอ ออกแรงนิดหน่อยเหมือนเป็นการผลักให้หลีกทางแบบรังเกียจ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรกับอีก แต่ตรงไปเปิดกระโปรงรถและดูเครื่องยนต์เองเงียบๆ

“ผมอยากจะแนะนำอะไรสักอย่าง”

“อะไร”

“ดูจากสภาพรถแล้ว คุณควรเอาไอ้เศษเหล็กนี่ไปทิ้งซะ อาการมันเหมือนคนป่วยใกล้จะตายภายในไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง” ธามบอกหลังจากที่ขยับชิ้นส่วนเครื่องยนต์บางอย่างมาสักพัก

“จะบ้าเหรอ ลูกสาวฉันยังไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก”

“ลูกสาวคุณอาการไม่ไหวแล้ว”

“ไม่ใช่ช่างอย่ามาทำเป็นรู้ดี”

“แต่คนที่ดูเครื่องไม่เป็นดีแต่ขับ ก็ไม่ควรเถียงคนที่มีความรู้มากกว่าเหมือนกัน จะเอายังไงต่อ ผมต้องการที่จอดรถคืนเพราะผมจะต้องเข้าไปข้างใน”

“ขอลองสตาร์ตอีกนิดนะ ถ้าไม่ได้จะให้อู่มาลากไป” คราวนี้เพชรพันปีเสียงอ่อนลง ธามขยับรถของตัวเองออกจากนั้นก็ลงมายืนดูอีกครั้ง และในที่สุด

“สุดยอดนังหนู” หญิงสาวยิ้มพอใจลงจากรถและเดินมาหา เพื่อบอกให้อีกฝ่ายขยับรถ

“ติดแล้วก็ออกไปซะอย่ามาชักช้า คุณทำให้ผมเสียเวลามากเกินไปแล้ว”

“รู้แล้ว”

“หวังว่าคงจะไม่เจออีกนะ ผู้หญิงแบบคุณเจอแค่วันเดียวก็ไม่อยากจะเจออีก ถึงแม้ว่าหน้าตาบุคลิกผิวพรรณดูน่ามองแต่ไม่น่าคบหา”

“คุณ!” เพชรพันปีอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าจะมีคนพูดแบบนี้ใส่หน้า

“เออ มีอีกเรื่องที่อยากจะบอก” ธามหมั่นไส้ผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน

“อะไรอีก”

“ผมเห็นผู้หญิงเปลือยมาหลายคนนะ บางคนหุ่นไม่ได้ดีมากแต่ประทับใจ ส่วนคุณถึงหน้าอกจะเล็กไปหน่อยมองภาพรวมมันก็โออยู่ แต่ไม่ได้สร้างความประทับใจให้ผมเลยสักนิด คราวหลังอย่าไปแก้ผ้าให้ใครดูอีกนะ มันไม่ดี” น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนจะราบเรียบ แต่แววตากึ่งขบขันกึ่งล้อเลียนปนดูแคลนของอีกฝ่ายทำให้เพชรพันปีอยากจะกรี๊ดดังๆ

“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต กล้าดียังไงมาวิจารณ์ร่างกายฉันแบบนี้”แม่ค้าสาวหน้าแดงเพราะความอาย อยากจะบ้าตายที่อยู่ดีๆ ก็ถูกวิจารณ์เรื่องรูปร่าง

“ไปได้แล้ว หวังว่าคงไม่เจออีกนะ” เขาเอ่ยปากไล่

“ฉันไปแน่คิดว่าอยากจะคุยกับคุณมากนักหรือไง เจอคุณไม่ถึงวันฉันซวยตลอด” เพชรพันปีเม้มปากแน่น

“คุณคิดว่าผมไม่ซวยหรือไง แค่เห็นคุณแก้ผ้านี่ผมไม่รู้ว่าต้องหาน้ำมนต์วัดไหนมาล้างตา ภาพที่น่ากลัวมันจะได้หลุดออก”

“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต”

เพชรพันปีไม่รู้จะต่อว่าคำไหน ทำได้แค่สะบัดหน้าหันหลังเดินหนีแต่แล้วก็ดันสะดุดขาตัวเองทำท่าจะล้ม ดีที่ธามเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน เลยกลายเป็นว่าเธอตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“นอกจากปากร้ายแล้วยังซุ่มซ่ามอีก ผมคิดว่าคุณควรจะระวังมากกว่านี้” ชายหนุ่มเตือน

“อย่ามาสอนจะซุ่มซ่ามมันก็เรื่องของฉัน คุณไม่เกี่ยว” เพชรพันปีดันตัวออกจากอ้อมกอดนั้นให้เร็วที่สุด

“คุณควรจะขอบคุณผมนะ” ธามเอ่ยขึ้น

“คุณช่วยคนหวังผลเหรอ” หญิงสาวย้อนถามด้วยความหมั่นไส้

“ใช่” เขายอมรับหน้าตาเฉย

“เออ ขอบคุณ” เพชรพันปีจำเป็นต้องกล่าวคำขอบคุณ แม้ว่าใจจริงแล้วเรื่องน่าโมโหของเขามีมากกว่าคำขอบคุณก็ตามที

“ขอโทษผมด้วย” พอได้ทีธามก็เอาอีก

“อะไรนะ” หญิงสาวชะงักมองหน้าเป็นเชิงถาม

“ขอโทษผม ขอโทษที่ทำกับรถของผมแบบนั้น” เขาเอ่ยชัดทุกถ้อยคำ

“ถ้าอยากให้ขอโทษ คุณก็ต้องขอโทษฉันก่อน เพราะคุณดูถูกน้ำพริกของฉันเหมือนกัน” เพชรพันปีไม่ยอมแพ้

“ทำไมผมต้องขอโทษคุณด้วย”

“คุณดูถูกน้ำพริกของฉันทั้งๆ ที่คุณไม่เคยกินมันเลย คุณด่าว่ามันเป็นน้ำพริกห่าเหว ทั้งที่พ่อแม่ฉันทำมันกับมือ และคำพูดของคุณมันก็ไร้มารยาทมากๆ แล้วไหนจะเรื่องที่คุณเปิดประตูไปเจอฉันอีก คุณต้องขอโทษฉันก่อน” เพชรพันปีไม่ยอมแพ้ ถ้าจะให้เธอขอโทษผู้ชายคนนี้ต้องขอโทษเธอก่อน ไม่อย่างนั้นอย่าหวัง

“ไม่” ธามยืนยันเสียงแข็ง

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหวังจะได้ยินคำขอโทษจากฉัน” เพชรพันปีปฏิเสธบ้าง

“อย่ามาเบี่ยงประเด็น ขอโทษมา” ธามเอ่ยเสียงห้วน

“ไม่” เพชรพันปีปฏิเสธหนักแน่นอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อว่า

“และเราก็อย่าเจอกันอีกเลย”

“เออ” ธามตอบกลับสั้นๆ เพราะคิดไปคิดมามันเสียเวลามากที่ต้องมายืนเถียงกับผู้หญิงคนนี้ เพชรพันปีเม้มปากเดินกลับเข้าไปในรถ เหยียบคันเร่งและออกรถไปโดยที่ไม่หันมาสนใจเขาอีก

ธามยืนมองรถกระบะคันเก่าไปจนลับตา ส่ายหน้าช้าๆ ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะต้องมาต่อปากต่อคำกับผู้หญิงที่พูดไม่รู้เรื่องและเพิ่งเจอกันวันเดียว

“คนบ้าอะไร คุยด้วยไม่นานก็ปวดหัวแล้ว หวังว่าคงไม่เจอกันอีกนะ ยัยตัวแสบ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel