บท
ตั้งค่า

คู่เรียง(ไม่)เคียงหมอน-2

“โน้ตเอง”

ไฟในห้องสว่างวาบ ชวินทร์ยืนข้างเธอ เขาสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงลายสก็อต

“นอนไม่หลับเหรอ ให้ไปนอนเป็นเพื่อนไหม”

ชวินทร์กลับเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์อีกแล้ว

“ทะลึ่ง นายรับปากว่าจะไม่ทำอะไรฉัน”

“คร๊าบๆ ผมเป็นสุภาพบุรุษต้องรักษาสัญญา เพื่อให้ได้รับความเชื่อใจจากสุภาพสตรี”

เขาล้อ ก่อนเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำรินใส่แก้ว

เนตราหันหลังให้เขา กลับไปสนใจวิวแม่น้ำเหมือนเดิม

ชวินทร์ยักไหล่ กลับไปห้อง แต่ภาพเนตราหลับไม่รู้เรื่องเมื่อช่วงเย็นรบกวนใจเขา เหมือนวันที่เขาพาเธอไปโรงพยาบาลในสภาพศีรษะโชกเลือด เนตราสะดุ้งนิดๆ เมื่อเจ้าของห้องกลับมายืนใกล้ๆ

“เวลาผมนอนไม่หลับก็ชอบมาดูวิวตรงนี้เหมือนกัน”

“นายยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้นอนไม่หลับอีกเหรอ”

“ก็เรื่องดาวไง”

“เรื่องฉันเนี่ยนะ” นิ้วยกขึ้นชี้ตัวเอง

“ผมห่วงเรื่องดาวความจำเสื่อม สมองกระทบกระเทือน”

ในอกเนตราพองฟูอย่างที่สุด คุ้มแล้ว เกิดมาชาตินี้มีผู้ชายหล่อๆ มาห่วงใย ไม่ใช่ฐานะเพื่อนเสียด้วย

“ขอบใจที่ห่วง”

เธอพยายามบังคับเสียงให้เป็นปรกติที่สุด ด้วยกลัวมันจะสั่นเพราะความดีใจ

“เล่าเรื่องตัวฉันในปัจจุบันให้ฟังหน่อยสิ”

“อย่าเพิ่งเลย เดี๋ยวจะปวดหัว”

“เถอะน่า... นะ ไม่งั้นฉันจะยิ่งนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นยังไงหลังจากผ่านมาหกปี”

ชวินทร์สูงกว่าเธอเป็นคืบ เวลามองเขา เธอคิดว่าตัวเองแหงน แต่ชวินทร์กลับเห็นเป็นช้อนตามอง

“ดาวทำงานเป็นเลขาฯให้บริษัทหนึ่ง”

“แล้วลางานหลายวัน ฉันไม่โดนเจ้านายว่าแย่เหรอ”

ทีแรกคิดว่าตัวเองเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดา ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ใกล้เจ้านายขนาดเป็นเลขาฯ

“คุณลาออกแล้ว อยู่ในช่วงหางานใหม่”

“ทำไมถึงลาออกล่ะ”

“ดาวไม่ยอมบอกผม นั่นอาจเป็นสาเหตุให้ใจลอยจนเกิดอุบัติเหตุ”

เธอยกมือแตะศีรษะ ทำท่าจะปวดอีกรอบ

“เห็นไหม ได้ฟังแล้วดาวก็ไม่สบายใจ”

“เปล่าเสียหน่อย”

“หน้าดาวฟ้อง”

เนตราเถียงไม่ออก เธอกำลังไม่สบายใจจริงๆ ความจำเสื่อม แถมยังตกงาน มีอะไรจะโชคร้ายกว่านี้ไหม

“ไปนอนได้แล้ว ถ้าไม่หลับก็กินยา หมอให้มาด้วยไม่ใช่เหรอ”

“ฉันขอคิดอะไรหน่อย นายนอนก่อนเถอะ”

เขามองเธอสักพักแล้วเดินลับหายไปในห้อง ชวินทร์กลับมาใหม่พร้อมหมอนและผ้าห่มในมือ

“ผมจะอยู่เป็นเพื่อน ดาวอยากนอนเมื่อไรก็นอนเลย”

มือใหญ่เรียงหมอนบนพื้น

“นายไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก”

“ผมยินดีทำ”

เธอนั่งลงใกล้ แต่รักษาระยะห่าง คืนนี้พระจันทร์สวย วิวก็ดี คนข้างกายคือหนุ่มที่พึงใจ เนตรากำลังคิดหาเรื่องคุย

“เล่าเรื่องนายให้ฉันฟังหน่อยสิ อย่างงานที่ทำอยู่ตอนนี้”

“จะมาสอบประวัติผมกลางดึกเนี่ยนะ” เขาร้อง

“ก็ฉันจำอะไรไม่ได้เลยนี่ เราต้องทำความรู้จักกันใหม่” เธอให้เหตุผล

“เรารู้จักกันตั้งสี่ปีในมหาวิทยาลัยแล้วนะ”

“นั่นไม่นับ ฉันหมายถึงปัจจุบันตอนเราเป็นแฟนกัน”

“ผมกลับมาช่วยที่บ้านบริหารบริษัทครอบครัว กิจการไปด้วยดี”

เธอจำได้ ครอบครัวชวินทร์ทำกิจการเกี่ยวกับเหล็ก

“แค่นี้เหรอ”

“ใช่ แค่นี้ล่ะ” ข้อมูลที่เขาให้ไม่ได้ช่วยเธอสักเท่าใดเลย

“เล่าอะไรมากกว่านี้สิ”

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” ชวินทร์เริ่มกวน

“ไม่ใช่ให้เล่านิทาน” เนตราเสียงเขียว

“แล้วอะไรล่ะที่คุณอยากรู้”

“ไม่รู้สิ ฉันเหมือนอยู่ในความฝัน มันงงจนจับต้นชนปลายไม่ถูก”

“ถ้าเป็นความฝัน อย่างเดียวที่จะทำได้คือหลับอีกครั้ง เพื่อให้ตื่น”

แต่ฝันนี้เธอก็ไม่อยากตื่นเหมือนกันน่ะสิ

“ถ้านอนไม่หลับ โน้ตร้องเพลงกล่อมไหม”

“ฉันไม่ใช่เด็กนะ”

“ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ทำใจให้สบายๆ นอนเถอะ มานี่” ชวินทร์ดึงแขนเธอ จนหน้าชิดแนบอก

“เฮ้ย!”

เนตราเสียงหลง ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด

“ทำใจให้สบายเถอะนะ อยู่กับโน้ตแล้วจะปลอดภัย”

“ฉันอึดอัด” เขาคลายวงแขนออก

“สบายขึ้นไหม”

“ปล่อยก่อนสิ”

“ถ้าดาวไม่นอนอย่างนี้ ผมก็ไม่สบายใจ” ลมหายใจเขารินรดกระหม่อมเธอ

“แต่นายกอดไว้อย่างนี้ ฉันก็นอนไม่หลับเหมือนกัน”

“เอ... หรือต้องหากิจกรรมทำให้ดาวเหนื่อยก่อน” เธอตัวแข็ง

“ลามก”

“คิดไปถึงไหนเนี่ย แค่พาออกกำลังกายนะ” เขาหัวเราะชอบใจที่หยอกสำเร็จ

“ก็ได้ นอนก็นอน ปล่อยฉันสิ”

เนตรารีบขยับหมอนให้ห่างทันทีหลังจากชวินทร์ปล่อยตัว เธอข่มตาหลับ พยายามนับแกะ หูฟังเสียงหายใจสม่ำเสมอของเขา ดังเป็นดนตรีเห่กล่อมจนหลับไป

"ตื่นได้แล้วคนขี้เซา"

เนตราปรือตาง่วงงุน จมูกได้กลิ่นอาหาร ไข่ดาวสุกใหม่ๆ ทำน้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงาน

“เช็ดน้ำลายแล้วมากินข้าว”

เธอทะลึ่งพรวดขึ้นจากพื้น หน้าเหรอหรายกหลังมือปาดแก้ม ชวินทร์เทไข่จากกระทะใส่จาน พอดีกับที่ปิ้งขนมปังร้องดังติ๊ง

“ผมล้อเล่นดาวไม่ได้นอนน้ำลายไหลหรอก” เขาหัวเราะร่วนเมื่อเห็นอาการ

“แค่กรนดังเท่านั้นเอง”

เธอค้อน คร้านจะเถียง มีแต่จะเข้าตัวเสียเปล่าๆ มาอาศัยห้องเขาอยู่ นอนก็นอนบนเตียงเขา ทนๆ เอาหน่อยก็แล้วกัน

“ฉันอยากได้โทรศัพท์ ช่วยพาไปซื้อหน่อย”

ชวินทร์อ่านข่าวในไอแพดแทนหนังสือพิมพ์

“ไม่ต้องรีบใช้ก็ได้ ดาวยังไม่หายดี”

“ถ้าได้มือถือฉันจะได้ติดต่อเพื่อนๆ บางทีความทรงจำจะกลับมาเร็วยิ่งขึ้น”

“ทุกคนจะยิ่งเป็นห่วงดาวล่ะไม่ว่า ทำคนอื่นลำบากเปล่าๆ” เธอหรี่ตา ฉุนกับคำกล่าวหานั้น

“นายพูดเหมือนไม่อยากให้ฉันไปเจอใคร”

“ผมเปล่า”

“งั้นพาฉันไปซื้อมือถือสิ ฉันจะไม่กวนนายอีกเลย”

เนตราเชิดหน้า กอดอกต่อต้าน

“ก็ได้ๆ”

เขายอมแพ้แบบรำคาญ แต่ยังเล่นแง่นั่งดูรายการโทรทัศน์จนเกือบสิบโมง

“รอเวลาห้างเปิด” เขาให้เหตุผลที่เถียงยากเสียงด้วยสิ

ชวินทร์พามาห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ คอนโด เนตราทึ่งในความหรูหรา และความสามารถของเจ้าของที่อุตส่าห์หาพื้นที่มาทำห้างได้ ท่ามกลางความแออัดของเมืองหลวงแบบนี้

เขาพาเธอดูมือถือหลายร้าน แต่ไม่มีเครื่องไหนถูกใจเลย บางเครื่องเขาว่ากล้องก็ไม่ชัด บางเครื่องยี่ห้อไม่ดัง บางเครื่องฟังก์ชันเยอะจัด ชวินทร์ให้เหตุผลว่ากลัวเธอใช้ไม่หมด

หนักเข้าก็บอกว่าจะเลือกจากร้านในอินเทอร์เน็ตให้ เนตราเดินตามเขาจนเมื่อยขาไปหมด จึงขอตัวไปห้องน้ำ

หลังเสร็จกิจ กำลังเดินออกมา เธอคิดจะหักคอเขา ซื้อโทรศัพท์ร้านแรกที่เห็น โดยไม่สนใจความเห็นเขา ตั้งใจเลือกให้จบๆ ไปเสียที

“ดาว... หายไปไหนหลายวัน ทุกคนเป็นห่วง ตามหากันทั่วไปหมด”

สาวผมบ็อบเสมอหู ในชุดแบบสาวออฟฟิศจับแขนเนตราพร้อมทัก ในสมองหมุนติ้ว เหมือนใครเอาลูกข่างใส่ไว้ บางช่วงบางตอนภาพก็หยุดนิ่ง เป็นกิจกรรมที่เธอเคยทำกับผู้หญิงคนนี้

“พี่ต้องโทรบอกคุณแปงหน่อย”

แล้วเจ้าหล่อนก็ล้วงกระเป๋าสะพาย

“ดาว”

“คุณโน้ต” สาวคนนั้นตาโต ยกมือถือค้าง

“คุณจำคนผิดแล้วละครับ”

ชวินทร์ดึงมือเนตรา สาวเท้าเร็วจนเธอเกือบต้องวิ่งตาม

“โน้ตหยุดก่อน” เขาพาลงลิฟต์ไปลานจอดรถ

“ผู้หญิงคนเมื่อกี้นี้ใคร แล้วคุณแปงที่เขาพูดถึงล่ะ”

เขาหน้าเครียดขึ้ง แบบที่เธอเคยเห็นในเช้าหลังจากคืนนั้น

“ครอบครัวผมไม่เห็นด้วยที่เราเป็นแฟนกัน”

ลิฟต์เลื่อนลงเร็ว แต่ใจคนฟังเร็วกว่า ตอนนี้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

“แปงคือญาติผม เจ้านายคุณ”

พล็อตละครหลังข่าวผุดขึ้นในสมอง เนตรานึกอยู่แล้วว่าคนอย่างเขาจะมาเป็นแฟนเธอได้ยังไง เห็นไหมล่ะ ครอบครัวเขาเองก็ไม่ยอมรับ

“เขาเป็นสาเหตุที่ฉันลาออกจากงานหรือเปล่า”

“อาจะมีส่วน” ลิฟต์พาทั้งสองมาถึงที่หมาย ชวินทร์รุนหลังเนตราเข้ารถทันที เมื่อกลับถึงคอนโด เขาบอกเธอเก็บของ ให้เหตุผล

“เราจะไปอยู่ต่างจังหวัดสักพัก”

“แล้วงานนายล่ะ”

เธอยืนงงกลางห้องในท่าทีที่เปลี่ยนไปกระทันหันของเขา

“มีอินเตอร์เน็ตผมก็ทำงานได้แล้ว”

ชวินทร์เข้าห้องนอนตัวเอง กางกระเป๋าเดินทาง เก็บเสื้อผ้าอย่างเร็ว

“ทำไมเราต้องไปต่างหวัดด้วย ฉันอยากอยู่กรุงเทพฯ” ชวินทร์ทำตัวน่าสงสัยมากขึ้นทุกที

“ถ้าเราอยู่ที่นี่จะวุ่นวายไม่รู้จบ”

“จากใคร ครอบครัวนายเหรอ”

“จากทุกคนนั่นแหละ”

เขาละมือจากการเก็บของ ยกมือเท้าสะเอวหันมาเผชิญหน้าเธอ เวลาเขาทำอย่างนี้เนตรารู้สึกตัวเล็กไปถนัดใจ

“จะไปเก็บของดีๆ หรือจะให้ผมทำให้ ผมไม่มีเวลามาเล่นตอบยี่สิบคำถามนะ”

“นายกำลังบังคับฉัน” เธอใจดีสู้เสือ แม้ในอกชักกลัวตุ้มๆ ต่อมๆ

“ผมทำได้มากกว่านี้ ถ้าเป็นเรื่องของดาว”

ชวินทร์ย่างเท้าเข้าใกล้ เนตราผงะจนหลังชนกรอบประตู

“ให้เวลายี่สิบนาที ไม่อย่างนั้นผมจะมัดคุณไปในรถ”

เนตราวิ่งกลับไปห้องตัวเองโดยพลัน นี่แหละ! ใช่เลย ตัวจริงของชวินทร์ โฉมหน้าที่เธอได้เห็นในเช้าวันนั้น!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel