บทที่ 2 เกิดใหม่
บทที่ 2 เกิดใหม่
“แค่ก...แค่ก...” เสียงไอดังขึ้นในช่วงย่ำรุ่ง แสงแรกของวันยังไม่ทันสาดส่องส่งผลให้ทั่วห้องยังคงดูมืดสลัว ความเงียบสงัดทำให้เสียงดังกล่าวดังขึ้นมากระทบโสตประสาทของเสี่ยวม่าน ส่งผลให้นางสะดุ้งตื่นขึ้นทันที เสี่ยวม่านรีบขยับตัวมองหาต้นเสียงด้วยหัวใจที่เต้นระรัว น้ำเสียงที่คุ้นเคยราวกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นทำให้นางรีบสำรวจร่างของฮวาอิงหลงอีกครั้ง ขณะที่เสียงไอยังดังต่อเนื่องจากร่างของฮวาอิงหลงไม่หยุด
เมื่อคืนเสี่ยวม่านร้องไห้จนกระทั่งเผลอหลับไป น้ำตายังคงไหลไม่หยุดเนื่องจากความเสียใจต่อการสูญเสียคุณหนูของนาง ทั้งคืนเสี่ยวม่านยังคงประคองกอดร่างของฮวาอิงหลงไว้แนบหน้าอก เธอหวังว่าความอบอุ่นจากกายของตนจะสามารถช่วยปลอบประโลมดวงวิญญาณที่น่าสงสารของฮวาอิงหลงได้บ้าง
“คุณหนู...คุณหนูยังไม่ตาย คุณหนูฟื้นแล้ว” เสี่ยวม่านร้องดีใจอย่างลนลาน พร้อมรีบประคองฮวาอิงหลงลงนอนราบ นางลูบไล้ใบหน้าของฮวาอิงหลงอย่างไม่อาจเชื่อสายตาตัวเอง
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เนตรดาวกลับต้องแปลกประหลาดในใจ เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย ห้องที่ทั้งคับแคบและมืดมิดจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แถมทั่วห้องยังอับชื้นจนได้กลิ่นสาบที่ฉุนแรงจนเตะจมูกของเธอ ร่างกายของเธออ่อนแรงและปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัว เนตรดาวพยายามพยุงตัวลุกขึ้นแต่เพราะร่างกายอ่อนแอเกินไปทำให้เธอต้องล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ยังดีที่ได้เสี่ยวม่านเข้าช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว นางค่อย ๆ ประคองร่างกายอันบอบบางของเนตรดาวอย่างทะนุถนอม จนในที่สุดเนตรดาวก็สามารถหยัดตัวขึ้นนั่งได้สำเร็จ
“ข้า...อยู่ที่ไหน...” เสียงแหบพร่าของเนตรดาวดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ร่างกายร้อนระอุดั่งเปลวไฟที่สุมอยู่ภายใน ทำเธอรู้สึกปวดร้าวไปทั่วร่าง
“คุณหนูท่านเป็นอย่างไรบ้าง” เสี่ยวม่านร้องออกมาอย่างดีใจ มือทั้งสองกอบกุมมือบางเอาไว้ด้วยความปีติ
เนตรดาวจ้องมองหน้าหญิงสาวด้วยความรู้สึกประหลาดใจและสงสัย เธอกะพริบตาไปมา พร้อมสอดส่ายสายตาไปมองรอบ ๆ บริเวณอย่างใช้ความคิด
หัวสมองของเนตรดาวรู้สึกหนักอึ้งราวกับมีก้อนหินขนาดใหญ่กดทับ ฉับพลันความทรงจำต่าง ๆ ของร่างเดิมก็พรั่งพรูเข้ามาราวกับสายน้ำหลาก เนตรดาวถึงกับต้องยกมือขึ้นกุมศีรษะเอาไว้แน่น เธอรู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก
เสี้ยวนาทีถัดมา เนตรดาวก็ได้ตระหนักว่าเธอไม่ได้อยู่ในร่างเดิมอีกต่อไป ความทรงจำต่าง ๆ แทรกเข้ามาภายใน ฮวาอิงหลงบุตรสาวคนเดียวของขุนนางที่ถูกประหารชีวิต มารดาของนางแขวนคอตายตามสามี ฮวาอิงหลงถูกขายให้เป็นสาวใช้ในจวนของแม่ทัพใหญ่ฟางซินเย่ ชีวิตสาวใช้ที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก การกดขี่ข่มเหงทำให้ชีวิตของฮวาอิงหลงและเสี่ยวม่านสาวใช้คนสนิทต้องอยู่อย่างทนทุกข์เป็นเวลานาน
เนตรดาวหลับตาลงอีกครั้ง พร้อมนึกก่นด่าฟ้าในใจ คนอื่นทะลุมิติมาเกิดใหม่ล้วนแล้วแต่ได้เป็นคุณหนูสูงศักดิ์หรือคนมีฐานะสูง แต่เธอกลับกลายเป็นสาวใช้ที่ต้องมีชีวิตตกยาก ช่างไม่ยุติธรรมเสียเหลือเกิน
หลังจากทำใจให้สงบลง เนตรดาวลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมมองหน้าเสี่ยวม่านตาไม่กะพริบ นับว่ายังเป็นโชคดีที่เธอมีสาวรับใช้ที่ซื่อสัตย์อย่างยากที่จะหาพบได้โดยง่าย
“เสี่ยวม่าน ขอบใจเจ้ามากนะที่อยู่เคียงข้างข้า บุญคุณของเจ้า ข้าจะไม่มีวันลืม” เนตรดาวเอ่ยออกมาด้วยความจริงใจ แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงและมีผู้คนรายล้อมมากมาย แต่ในชีวิตเธอกลับยากที่จะพบคนที่จริงใจที่เธอจะสามารถพึ่งพาได้โดยแท้จริง เนตรดาวยิ้มกว้างออกมาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ
“คุณหนู ท่านอย่าพูดเช่นนั้นเลย ข้าเป็นเพียงหญิงต่ำต้อย หากชีวิตข้าไม่ได้คุณหนูเมตตา ป่านนี้ข้าคงยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นเป็นแน่” เสี่ยวม่านเอ่ยด้วยความจริงใจ นางเกิดในครอบครัวยากจน พ่อของนางติดการพนันอย่างหนัก จนสุดท้ายพ่อของนางได้พานางไปขายยังหอคณิกาทั้งที่นางเพิ่งอายุได้สิบปี โชคดีที่ฮวาอิงหลงไปเจอเข้า นางจึงถูกซื้อตัวเข้ามาเป็นบ่าวรับใช้ภายในจวน ตลอดเวลาที่อาศัยในจวน ฮวาอิงหลงก็เอ็นดูนางเป็นพิเศษและปฏิบัติต่อนางด้วยความเมตตาอยู่เสมอ ทำให้นางรู้สึกสำนึกในบุญคุณที่นายหญิงมีให้กับตนยิ่งนัก เสี่ยวม่านจึงสาบานกับตนเองว่าจะภักดีและปกป้องนายหญิงของตนจนชีวิตจะหาไม่
เนตรดาวยิ้มอย่างนึกเอ็นดู ความซื่อสัตย์และจริงใจของเสี่ยวม่านปรากฏอยู่ภายในดวงตาสว่างใสทำเอาเธอนึกมีกำลังใจขึ้นมาอย่างมากทีเดียว
“คุณหนูรอข้าสักครู่ ข้าจะไปต้มยาให้ท่านก่อน” เสี่ยวม่านพูดขึ้นเมื่อนางนึกขึ้นได้ว่าฮวาอิงหลงยังคงป่วยหนักอยู่
“เจ้าออกไปเถอะ ข้าจะนอนพักอีกสักครู่” เนตรดาวพยักหน้ารับ ก่อนจะค่อย ๆ เอนกายลงนอนอีกครั้ง
เสี่ยวม่านดูแลจัดการนางเป็นที่เรียบร้อยจึงรีบลุกขึ้นออกไปภายนอกในทันที
เนตรดาวจ้องมองตามหลังร่างบางของเสี่ยวม่านที่เดินออกไปจนกระทั่งลับสายตา เธอถอนหายใจเบา ๆ และปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง พยายามรวบรวมความคิดและทำความเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน ตอนนี้เธออยู่ในร่างของฮวาอิงหลงแล้ว ไม่มีเนตรดาวคนเดิมที่เคยเฉิดฉายอยู่บนพรมแดง ไม่มีชื่อเสียงหรือผู้คนมากมายที่ล้อมหน้าล้อมหลังเธออีกต่อไป ความหรูหราและความสำเร็จในชีวิตเดิมเป็นเพียงความทรงจำที่ห่างไกลออกไปทุกที
เนตรดาวลืมตาขึ้นอีกครั้งอย่างยอมรับความจริง เธอสัญญากับตัวเองเป็นมั่นเป็นเหมาะ ต่อไปนี้เธอจะเป็นฮวาอิงหลงอย่างแท้จริง เธอจะไม่มีวันยอมแพ้ต่อโชคชะตาอันโหดร้ายเช่นนี้ และเธอจะต้องกลับมายืนหยัดอย่างสง่างามให้ได้อีกครั้งเป็นแน่
เนตรดาวหลับลงไปอีกครั้ง พร้อมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับตนเอง ขอเวลาเธอพักสักหน่อย เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอค่อยคิดแผนการในการจัดการอนาคตของตนเองและเสี่ยวม่านอีกครั้ง เธอจะหาวิธีในการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น และยืนหยัดอย่างสง่างามในโลกใหม่ที่เธออยู่ในขณะนี้ให้จงได้
