Ep.3
“ไม่ว่าจะวันไหน ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงนอกสายตาของเขาวันยังค่ำ เฮ้อ...” คนที่แอบรักคนอื่นข้างเดียวมาโดยตลอดทำท่าทอดถอนใจอย่างท้อแท้ แต่ก็ยังไม่ถึงกับท้อถอย
“กล้าๆ หน่อยสิเพื่อน พรุ่งนี้ถ้าแกโชคดีได้รางวัลที่สามก็ไปสารภาพรักกับเขาเสียสิ หลังจากนั้น แกก็ชวนเขาไปเที่ยวเวนิสด้วยกัน ถ้าแกไม่กล้า ฉันจะพูดให้ก็ได้นะเอาไหม” คนอยากทำตัวเป็นกามเทพสื่อรักรีบยุยงส่งเสริมด้วยสีหน้าแววตาเหมือนลุ้นเต็มที่ อยากให้เพื่อนรักสมหวังในรักสักที
“ฉัน...ฉันว่ารอให้เขาประกาศรางวัลก่อนดีกว่า ฉันยังไม่อยากคิดไปไกลน่ะ เรารีบไปทานข้าวกันเถอะ เหลือเวลาอีกยี่สิบนาที ป๊ะ...อิ๋ว ฉันหิวแล้ว”
อัญชันลากแขนเพื่อนรักไปยังโซนห้องอาหารที่บริการฟรีสำหรับลูกค้าที่เข้ามาพักกับพนักงานทุกคนในโรงแรมทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้คนช่างยุได้พูดอะไรต่ออีก
พอพูดเข้าตัวทีไรอัญชันสาวน้อยขี้อายก็จะหาทางหลีกเลี่ยงเบี่ยงเบนความสนใจไปยังเรื่องอื่นทุกที พวงผกาที่รู้ทันอมยิ้มเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าไปมาด้วยความระอาใจกับนิสัยที่ชอบเก็บงำความรู้สึกของตนเองของเพื่อนรัก ที่ไม่ยอมบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้เสียที ถ้าเป็นเธอคงไม่ทนเป็นคนนอกสายตามาจนถึงป่านนี้หรอก แต่พวงผกาก็นับถือในความอดทนของเพื่อนสาวคนนี้จริงๆ ที่อัญชันมั่นคงต่อผู้ชายที่ตนเองแอบหลงรักอยู่ฝ่ายเดียวมานานตั้งสองสามปี
ห้องอาหารหรูเวลานี้ไม่ค่อยมีแขกหรือพนักงานมานั่งทานอาหารกันมากสักเท่าไร เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดนั่นเอง และหลายคนก็ไปทำสวยทำหล่อพร้อมทั้งไปหาซื้อหรือเช่าชุดแฟนตาซีและหน้ากากสวยๆ เพื่อเตรียมตัวมาร่วมงานเต้นรำสวมหน้ากาก คาร์นิวัลที่ทางโรงแรมจะจัดขึ้นในคืนพรุ่งนี้
“นี่เธอ คืนพรุ่งนี้เห็นเขาบอกว่าเจ้าของโรงแรมจะมาปรากฏตัวให้พวกเราเห็นในงานเพื่อมอบรางวัลให้กับพนักงานดีเด่นด้วยล่ะ” เสียงแหลมเกินชายเอ่ยขึ้น
“ใช่ๆ ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน เขาบอกว่าเจ้าของโรงแรมคนนี้รวยมาก... หล่อมาก...แถมยังโสดอีกต่างหาก” สาวร่างอวบอีกคนเห็นด้วยพร้อมขยายความต่อด้วยท่าทางเหมือนสาวน้อยช่างฝัน
“จริงหรือ ฉันชักอยากจะให้ถึงคืนพรุ่งนี้ไวๆ แล้วสิ คืนพรุ่งนี้ฉันจะแต่งตัวให้สวยที่สุด ฉันจะแต่งชุดผู้ดีอังกฤษย้อนยุคสวมหน้ากากแฟนตาซีแค่ครึ่งหน้าก็พอ แล้วก็ไปขอเต้นรำกับเขา” พนักงานสาวผอมเพรียวอีกคนเสริมขึ้นด้วยสายตาเคลิ้มฝันเหม่อลอย
“แหวะ ถ้าเขารู้ว่าแกเป็นแค่พนักงานต้อนรับกระจอกๆ ที่มีหน้าตาแบบบ้านๆ อย่างแก จ้างให้เขาก็ไม่ลดตัวลงมาเต้นรำกับหล่อนหรอกย่ะ” พนักงานสาวในร่างชายคนแรกเบะปากราวกับหมั่นไส้คนฝันเกินตัวของเพื่อนสาวข้างๆ แต่ก็ไม่จริงจังมากนัก แค่แว้งกัดพอหอมปากหอมคอ
“แหมๆ ฉันไม่ใช่นางงามสิบแปดมงกฏที่หน้าตาสามสิบหก หน้าอกอนุบาลแบบหล่อนนี่ยะ ที่สำคัญที่เห็นเนี่ยของปลอมทั้งนั้น” คนที่ถูกแว้งกัดเอาคืนแบบเจ็บๆ คันๆ จนคนที่ถูกกัดตอบเกือบจะส่งเสียงกรี๊ดออกมาถ้าไม่ถูกเพื่อนร่างอวบแทรกขึ้นมาก่อน
“โอ๊ย ฉันว่าพวกหล่อนสองคนอย่ามัวแต่กัดกันอยู่เลย ใกล้ได้เวลาทำงานแล้วรีบไปกันเถอะ”
จบประโยคของสาวร่างอวบทั้งสามสาวขั้วเดียวกันก็ลุกขึ้นเก็บข้าวของบนโต๊ะจนเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไป แต่คำพูดของเพื่อนพนักงานแผนกเดียวกันเมื่อครู่ได้ลอยมาเข้าหูสองสาวที่นั่งโต๊ะติดกันตลอดเวลา พวงผกาที่นั่งฟังตลอดจึงหันมาถามเพื่อนรักด้วยความอยากรู้บ้างขณะที่กำลังเดินตามเพื่อนร่วมแผนกไปในระยะห่างๆ พอที่จะคุยกันโดยไม่มีใครได้ยิน
“อัญ” พวงผกาเรียกชื่อเพื่อนสาวเบาๆ ก่อนจะถาม
อัญชันหันหน้ามามองคนข้างๆ เลิกคิ้วเรียวสวยเล็กน้อย ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มขณะที่ถามเพื่อนรักด้วยสายตา
“แกไม่อยากรู้หรือว่าเจ้าของโรงแรมเป็นใคร” เจ้าของร่างเพรียวระหงเรียบร้อยโคลงศีรษะไปมาแทนคำตอบ
“แต่ฉันอยากรู้อ่ะ และอยากจะรู้ด้วยว่าข่าวลือที่แม่พวกนั้นคุยกันเมื่อกี้ว่าเจ้าของโรงแรมของเราทั้งหล่อ ทั้งรวย และแถมยังโสดน่ะ จะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ฉันว่าไอ้เรื่องความหล่อคงสู้พ่อไอรอนหวานใจของแกไม่ได้หรอก เชื่อฉันสิ” พวงผกาพูดเองเออเองสรุปเองเสร็จสรรพ ส่วนอัญชันได้แต่อมยิ้มนึกไปถึงใบหน้าหล่อเข้มคมสันของชายหนุ่มในดวงใจที่เพื่อนสาวกำลังพูดถึงในใจเงียบๆ โดยไม่สนใจจะต่อบทสนทนาด้วย
สาวน้อยช่างฝันกำลังเร่งเวลาในใจเพื่อให้ถึงวันพรุ่งนี้ไวๆ อยากจะรู้ว่าตนเองจะจับฉลากได้รางวัลอะไร จะได้ไปเวนิสเมืองในฝันที่หวังไว้หรือเปล่า และเธอจะกล้าพอที่จะขอชายหนุ่มเต้นรำด้วยไหม อัญชันคิดขณะเดินเข้าไปนั่งทำงานบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตนเองด้วยท่าทางเหม่อลอย พวงผกาหันมามองเพื่อนรักของตนเองยิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองไอรอนที่กำลังสนทนากับลูกค้าชาวต่างชาติของโรงแรมด้วยสายตาชื่นชม หากเธอยังไม่มีคนรักก็คงอดไม่ได้ที่จะตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เหมือนกัน
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนเกือบถึงเที่ยงวัน ก็ได้เวลาเลิกงาน บ่ายนี้อัญชันกับพวงผกานัดกันไปเดินห้างเพื่อไปหาเช่าชุดแฟนตาซีสวยๆ พร้อมหน้ากากเก๋ๆ จากนั้นก็จะเข้าร้านสปาผิว ต่อด้วยร้านเสริมสวยเพื่อทำสปาผม เอาแบบว่าให้สวยตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเล็บกันเลยทีเดียวตามที่พวงผกาสาวผู้รักสวยรักงามตั้งใจเอาไว้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานคาร์นิวัลสวมหน้ากากที่หรูเลิศอลังการที่ทางโรงแรมจะจัดขึ้นปีละครั้งในเดือนมกราคมเป็นประจำของทุกปี และงานสวมหน้ากากปีนี้ก็กำลังจะจัดขึ้นในคืนพรุ่งนี้
บ่ายนี้พวงผกาเจ้าแม่จอมเจ้ากี้เจ้าการ ตั้งใจจะจับเพื่อนรักของตนเองขัดสีฉวีวรรณให้งดงามผุดผ่องเป็นยองใยจนใครๆ ก็จำไม่ได้ งานโรแมนติกคืนพรุ่งนี้เธอจะทำให้อัญชันได้เกิดกับเขาเสียที ต่อให้คานสูงแค่ไหน ก็จะพยายามสอยเพื่อนสาวคนนี้ให้ลงมาจากคานทองให้ได้ ไอรอนจะได้มองเห็นความสวยที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวของอัญชันสาวน้อยเฉิ่มเชยคนนี้เสียที แต่ว่างานนี้ทุกคนต้องสวมหน้ากากนี่นา เอาน่า...เห็นความสวยสักครึ่งหน้าพร้อมกับแผ่นหลังขาวเนียนก็ยังดี
ไอรอนในคราบพนักงานรีเซฟชั่น เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ตรงดิ่งไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังห้องผู้ช่วยซีอีโอหนุ่มของโรงแรมทันที เมื่อมาอยู่ในห้องทำงานกันสองคน พนักงานต้อนรับแขกพิเศษสุดหล่อก็ไม่ต้องสวมบทบาทของพนักงานระดับล่างอีกต่อไป และตั้งแต่คืนพรุ่งนี้เป็นต้นไปซีอีโอหนุ่มแห่งล้านนา พาเลซ บีบีไอ โฮเต็ล หรือเจ้าของโรงแรมในเครือคิง พาเลซ เฮอริแกรนด์ กรุ๊ป ที่ครอบคลุมทั้งทางภาคเหนือและภาคอีสานก็ไม่ต้องปิดบังฐานะที่แท้จริงของตนเองอีกต่อไป พนักงานทุกคนจะได้รู้เสียทีว่า แท้จริงแล้ว ไอรอน เป็นใคร
“ไอรอน นายแน่ใจแล้วหรือ ว่าจะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตนเองพรุ่งนี้” เจมส์ผู้ช่วยซีอีโอหนุ่มที่ทำงานในตำแหน่งซีอีโอแทนเพื่อนรักมานานถามผู้บริหารสูงสุดตัวจริงเหมือนยังไม่แน่ใจในการตัดสินใจของเพื่อนรักมากนัก แต่ถ้าจะให้เดามันต้องเกี่ยวข้องกับพีรดาแฟนเก่าที่ไอรอนยังลืมไม่ลงเป็นแน่
