บทที่ 4【1】
“คุณหิวไหม ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย” ระหว่างที่ออกมาจากโรงพยาบาล
“หิวมาก”
“งั้นคุณอยากทานอาหารแบบไหน ไทย จีน ฟิวชั่น ญี่ปุ่น”
“ไปแถวพระราม 7 มีร้านน่านั่งอยู่ร้านหนึ่ง เป็นร้านโปรดของผมบรรยากาศดีอาหารอร่อย” กิตบอกอย่างกระตือรือร้น
“ร้าน XXX น่ะเหรอ” แสงเทียนหันไปถามชายหนุ่ม
“คุณรู้จักด้วยเหรอ... ร้านไม่ค่อยดังนะ แต่สเต๊กอร่อย และไวน์รสเลิศ” เธอทำหน้านิ่งไม่ตอบอะไร พร้อมกับเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันเดินเข้าเซเว่นฯ ออกมาพร้อมกับขนมถุงใหญ่
“หาอะไรรองท้องก่อน ถ้าจะไปร้านนั้นคุณต้องทานยา”
“คุณจะพาผมไปหรือคุณจะให้ผมนั่งรถแท็กซี่ไปเอง” ชายหนุ่มขู่เธอหรือเรียกว่าพูดให้น่าสงสารจะดีกว่า
“ฉันจะพาคุณไป ถ้าคุณอยากไป” ทิติยะยิ้มกว้างพร้อมกับรับแซนวิชแฮมที่เธอยื่นมาให้
เราสองคนจัดการอาหารว่าง ที่เรียกว่าอาหารว่างเพราะไม่ว่ากี่กล่องก็เกลี้ยงหมด
“ทานยาด้วย” ชายหนุ่มมองยาในมือ ไอ้กิตมันจะหลอกเขาไหมว่ายานี่มันคือแป้งธรรมดา ไม่ใช่กินไปกัดกระเพาะ
“กว่าจะถึงร้านน่าจะไม่เกิน 2 ทุ่ม คุณพักก่อนก็ได้เพราะกว่าจะถึง คุณคงหิวพอดี” หญิงสาวเอ่ยบอกเขา
ระหว่างทางทิติยะลอบมองเธอเป็นระยะ หญิงสาวขับรถนิ่มมาก ดูกระฉับกระเฉง แมน ๆ ลุย ๆ แต่เวลายิ้มโลกจะสดใสขึ้นมาทันใด
ติดที่ว่าเธอไม่ค่อยยิ้มนี่สิ มองเผิน ๆ ดูเหมือนจะหยิ่ง แต่พอได้พูดคุยหญิงสาวเป็นคนมีเสน่ห์ ทันคน ทันโลก รู้รับ รู้ถอย
ทิติยะยิ่งมองก็ถูกใจ ยิ่งได้รู้จักได้พูดคุย ยิ่งชอบไปใหญ่ เพราะเขาชอบผู้หญิงแบบนี้
“คุณจะไม่ถามชื่อผมหน่อยเหรอ”
“ทิติยะ วัฒนาพรพล ชื่อเล่น ทิ คาสโนว่าตัวพ่อ”
“ว้าว! รู้จักผมด้วย!”
“...” แสงเทียนโคลงศีรษะเบา ๆ การที่เธอรู้จักเขามันน่าดีใจตรงไหน ไม่ได้น่ายินดีด้วยซ้ำ
“ทำไมคุณถึงไม่ชอบตอบคำถาม คุณเป็นคนแบบนี้หรือเป็นแบบนี้เฉพาะกับผม?” ทิติยะถามด้วยความสงสัย
แสงเทียนดูวางเฉย และมีกำแพงให้กับชายหนุ่ม บางครั้งก็เหมือนเปิดรับแต่สุดท้ายก็ปิดประตูใส่
“...” เมื่อเธอไม่ตอบ สรุปว่าเธอเป็นเฉพาะกับเขาสินะ
“ผมไม่หิวแล้ว กลับบ้านเลยก็ได้” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
ความรู้สึกน้อยใจ และเสียความรู้สึกวิ่งแทรกเข้ามา ปกติมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา เธอเป็นคนแรกที่มีท่าทีเมินเฉยเย็นชาใส่ ทำเหมือนเขาไร้ตัวตันเช่นนี้ ‘พอกันที ไม่เอาแล้ว’ เพราะจริง ๆ เขาไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้
“แวะร้านข้างหน้าก็ได้ บรรยากาศดีเหมือนกันไวน์ก็อร่อย”
“โอเค ผมกินร้านนี้” พอโดนหญิงสาวชวนเข้าหน่อยคนที่มีอาการน้อยใจเมื่อครู่ก็หายไปทันที
ถ้ามองไม่ผิดชายหนุ่มเห็นเธอยกริมฝีปากขึ้นยิ้มนิดหนึ่งตอนที่เขาตอบ ร้านนี้เคยเห็นแต่ไม่เคยลองแวะสักที เพราะคนเยอะ และที่จอดรถก็ไม่ค่อยมี
วันนี้ถือว่าเป็นวันดีอีกหนึ่งวัน... ได้รู้จักเธอ แม้จะซ่อมรถอีกเป็นล้านก็ตาม
“คุณเทียน สวัสดีค่ะ”
“อืม ถ้าพิมพ์ใจมาบอกว่ารถฉันนะสีขาวคันนั้น” หญิงสาวเดินเข้ามาในร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังของเพื่อนสนิท
มันเป็นทางผ่านที่จะไปพระราม 7 กับเขานี่แหละ ตอนแรกว่าจะล้มเลิก แต่พอเห็นแขนเขาแล้วก็จำใจพามาให้เรื่องมันจบ ๆ เพราะเธอก็ทำเขาเจ็บตัวขนาดนั้น
พาไปหาหมอดูแลค่าใช้จ่าย พามาเลี้ยงอาหารเพื่อขอโทษ และทำข้อตกลงนิดหน่อยก่อนแยกย้ายกลับบ้าน
ระหว่างที่เรากำลังรออาหาร แสงเทียนอดที่จะเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามไม่ได้ เขาเป็นผู้ชายที่ตัวสูง ผิวขาว หน้าตาสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลา รวม ๆ แล้วคือดูดี เหมาะกับฉายาคาสโนว่าตัวพ่อ
หญิงสาวไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แต่เธอเดินไปเข้าห้องน้ำและบังเอิญได้ยินผู้หญิงในห้องน้ำพูดถึง ‘ทิติยะ’ พอออกมาจ่ายเงินรับยาให้เขาก็ถึงบางอ้อในทันใด
คาสโนว่าตัวพ่อ เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องระวังเขาให้มาก ปกติหญิงสาวจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับผู้ชายประเภทนี้เลย เพราะเธอเชื่อเสมอว่าเราอยู่ในสังคมแบบไหน เราก็จะเจอคนแบบนั้น
อยากจะเจอผู้ชายที่ดี ต้องเลือกจากคนที่ประวัติดี ๆ เสียก่อน!
“ขอปี 1997 หรือ 2000 ก็ได้ค่ะ”
“คุณจะดื่มทั้งที่ขับรถกลับเนี่ยนะ”
“เปล่า... ฉันจะนั่งรถไปส่งคุณที่บ้าน แล้วจะนั่งรถกลับ”
“ผมไม่เข้าใจ”
“...” แสงเทียนไม่อธิบายเพิ่ม เธอมองบริกรมาเปิดขวดไวน์แทนที่จะตอบคำถามเขา
