บทที่ 3【2】
[ใครน่ะ... สวยเชียว]
[จะใครก็ไม่ต้องเสือก! รีบ ๆ มารักษากู!]
[เงินมางานเดิน... สองแสนโอนมา!]
[มึงกะเอาให้กูเจ๊งไปเลยใช่ไหม!]
[ก็แล้วแต่ทิเลย... กิตไม่ติดนะ กิตกลับบ้านได้]
[กูเพื่อนมึงนะเว้ย! ไอ้กิต ไอ้เวร]
[ลดให้แสนหนึ่ง โอนมา! ถ้ามึงช้า กูไปละน้า...]
[ไอ้กิต ถ้าไอ้พัดกับไอ้ฟิวมันเป็นหมอแบบมึง มันไม่เก็บกูแพงเท่ามึงหรอก ไอ้เลว!]
[ห้าหมื่น ขาดตัว! เอ๋... หรือกูจะเดินไปทักมึงตอนนี้ดีนะ ว่าแต่คนนี้ไม่แนะนำให้เพื่อนรู้จักหน่อยเหรอ ขาวสูงสเปกกูเลย]
[Read....] ทิติยะอ่านแต่ไม่ตอบ
[อย่าเงียบกูใจคอไม่ดี ติ๊ง!]
[รับการโอนเงินจากบัญชี 27367XXX 100,000 บาท]
[ก็แค่นี้ รอตรงนั้น!]
หญิงสาวมองไปยังชายหนุ่มที่กดโทรศัพท์ไม่เลิก สรุปจะหาหมอไหมเนี่ย! และมันใช่เวลาโอนเงินไหมตอนนี้ เห็นเลขเยอะ ๆ น่าจะเป็นแสนอยู่ นี่ง้อผู้หญิงแบบนี้เองเหรอคงเป็นแม่วัวนมตอนเช้านั่นแน่ ๆ
“สวัสดีครับ คุณทิ” ผู้ชายหน้าตาหล่อตี๋เดินมาทักเขา
“เอ๊า! สวัสดีครับคุณหมอกิต” แสงเทียนถึงบางอ้อ หมอกิตนี่เอง เธอก้มศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายคุณหมอ ก่อนพยาบาลจะยื่นเอกสารที่เป็นของทิติยะให้กับหญิงสาว
“ไปตรวจกันเถอะค่ะ คุณหมอคะ...” และหญิงสาวก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณหมอฟัง
“อุบัติเหตุ...” เมื่อกิตรับฟังเรื่องราวจากปากของหญิงสาวตรงหน้าจบแล้ว เขาก็เข้าใจทุกอย่างในทันที
ห้องตรวจ
หมอกิตนั่งประจำที่ โดยมีทิติยะนั่งอยู่บนรถเข็นเช่นเดิม ก็มันไม่ยอมลุกออกจากรถเข็น บุรุษพยาบาลก็จำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่มีสิทธิ์บังคับคนไข้
หมอหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรจริง ๆ ถ้าจะให้ถูกคือไม่รู้จะตรวจอะไรต่างหาก! เพราะมันป่วยการเมือง!!
กิตเงยหน้าขึ้นมองคนเจ็บนิดหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปจับตามเนื้อตามตัวของทิติยะ ชายหนุ่มที่โดนตรวจส่งสัญญาณว่าแขนที่เจ็บคือข้างขวา กิตเลิกคิ้วขึ้นและจิ้มที่แขนขวาไปทีหนึ่ง
“โอ๊ย!” กิตเงยหน้ามองไปทางหญิงสาวที่ยืนจ้องมองเราทั้งคู่
ดวงตาคมเข้มของหมอหนุ่มทอดมองใบหน้าเพื่อน และเราก็ส่งสัญญาณกันผ่านทางสายตาแทน...
“ไหนยกแขนขวาครับ” ทิติยะค่อย ๆ ยกแขนขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง
“น่าจะ... หักนะครับ” ทิติยะแทบตกเก้าอี้!! ถลึงตาใส่มันอย่างเคียดแค้น แขนหักมันหนักไปไหม!!
“เขาเจ็บหน้าอกด้วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยแทรกขึ้นมาและเดินก้าวเข้ามาใกล้รถเข็น ทิติยะถึงกับพูดไม่ออก
“ซี่โครงน่าจะร้าวครับ ต้องแอดมิต” คนเจ็บยังคงช็อกต่อเนื่อง ได้แต่ขยับปากพะงาบ ๆ บอกเพื่อนว่าซี่โครงไม่เกี่ยว!!
“จากที่ผมตรวจเบื้องต้น ซี่โครงไม่น่าร้าวไม่ต้องแอดมิตครับ แต่แขนหักแน่ ๆ” ทิติยะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน
นี่แขนกูจะต้องหักสินะ มึงเป็นหมอได้ไงโง่ขนาดนี้!!
ห้องรับยา
ทิติยะมองแขนตัวเองที่เข้าเฝือกอ่อนชูขึ้นและพลิกไปพลิกมา ก่อนจะเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ในมือเธอถือกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ของเขา กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธอลอยมาแตะจมูกจนจิตใจชายหนุ่มกระเจิดกระเจิงไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
“คุณทิติยะ วัฒนาพรพล เชิญรับยาช่องหมายเลข 2 ค่ะ” หญิงสาวพอได้ยินเสียงประกาศ เธอก็เดินตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ก่อนจะขยับไปที่เคาน์เตอร์รับยา
ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวร่างบางระหง ผมดำขลับรวบตึงมัดโบสีขาว สะโพกผึ่งผายช่างรับกับขาเรียวยาวของเธอเสียจริง ยิ่งเธอใส่ส้นสูงแบบนี้ ดูดีไปทุกท่วงท่าของการเดิน ผู้คนรอบข้างล้วนจับตามองรวมถึงเขาด้วยเช่นกัน
“เดี๋ยวเราไปหาข้าวทาน คุณจะได้ทานยา ตกลงอะไรกันนิดหน่อย และฉันจะไปส่งคุณที่บ้าน” เธอพูดพร้อมกับขยับรถเข็นแต่มันไม่เคลื่อนไปไหน ทิติยะจึงลุกขึ้นยืนแทน
“ผมเดินน่าจะดีกว่านั่งนานเมื่อย” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและยื่นแขนให้เธอเกาะ
แสงเทียนเพียงแค่ปรายมองท่อนแขนที่ยื่นมา... เธอไม่สนใจ และเลือกจะเดินผ่านหน้าเขาไป
