#05#
นวินสะพายกระเป๋าขึ้นหลัง ถือหนังสือเล่มหนาเดินออกไปด้านนอก ที่ใต้ร่มหูกวาง โต๊ะหินอ่อนเต็มไปด้วยคนในชมรมกำลังพูดคุยกันอยู่ พอเธอเดินเข้าไปทุกคนก็หยุดการสนทนาแล้วหันมามองที่เธอกันเป็นตาเดียว
“เฮ้ยนวิน พี่จะให้เรามาโหวตเสียงน่ะ เรื่องไปเที่ยวช่วงปิดเทอมนี้ ตอนนี้คะแนนเสมอกันอยู่” เธอทำหน้าเฉย ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรนักเมื่อพี่ป่าน ประธานชมรมแจ้งเหตุที่ต้องไปตามเธอมาจากการปลีกวิเวก
“นวินจ๊ะ เราคิดกันไว้สองที่ นวินจะออกเสียงให้ข้างไหน” เสียงหวานๆของพี่ปัดเอ่ยขึ้น หล่อนลุกขึ้นมายืนข้างๆและเกี่ยวแขนเธอเอาไว้ นวินเหลือบมองใบหน้าของรุ่นพี่สาวสวยคนนี้ หล่อนไม่เคยปิดบังเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเธอเลยสักนิด สิ่งเหล่านี้ดำเนินเกิดขึ้นมาจนร่วมเทอมแล้ว จนพี่ชายของหล่อนที่เป็นประธานชมรม หรือใครๆในนี้เค้าก็เริ่มพูดกันทั่ว ว่ารองประธานมีใจให้กับเธอเป็นพิเศษ นวินถอนหายใจ เธออยากอยู่เฉยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับอยากจะขัดขวางโต้แย้งไม่ขอเข้าร่วมโครงการเที่ยวปิดเทอมของคนพวกนี้
“พี่ป่านแล้วกัน” เธอตอบออกไป เสียงกลุ่มผู้ชายที่มีอยู่เกือบสิบคนโห่ร้องกันใหญ่ รวมถึงปัดด้วย
“เราจะไปเที่ยวที่บ้านญาติของพี่น่ะ นวินต้องชอบแน่ๆเลย อากาศดีมากๆ” พี่ปัดร้องบอกอย่างดีใจ ถือโอกาสสวมกอดฉลองความยินดีที่ตกลงกันเรื่องที่เที่ยวได้เสียที
“เอาล่ะ ไปที่ลานกัน”
“นวินไม่ไปนะ จะอ่านหนังสือ” เธอขอตัวเรื่องการจะไปเล่นดนตรีที่ลานอเนกประสงค์ของโรงเรียน ซึ่งทางชมรมจะทำเป็นประจำทุกสัปดาห์แต่ว่าช่วงสอบจะงด นวินไม่อยากถามว่าทำไมสัปดาห์นี้จะต้องไปเล่น เธอตอบเลี่ยงเรื่องนี้เพราะไม่อยากไปก็เท่านั้น
“ไม่ไปดูไอ้ต้นมันหน่อยเหรอ เทอมหน้ามันก็ไม่อยู่แล้วนะนวิน”
“พี่ต้นจะไปไหน” เป็นอย่างแรกที่เธอร้องถามในวันนี้ คนที่ไปตามเธอที่ห้องชมรมนั่นไงพี่ต้น เขาเป็นมือเซียนอีกคนในชมรมนี้
“ไปเมืองนอก นี่เป็นการเล่นครั้งสุดท้ายของมันที่โรงเรียนนะ อย่าใจร้ายน่า”
“นะจ๊ะนวิน ไปเถอะ” ปฏิเสธไม่ได้ เพราะยังไม่ทันพูดอะไร มือของพี่ปัดก็จับจูงเธอเดินลิ่วออกไปที่ลานของโรงเรียนเสียแล้ว
กระเป๋าเป้ใบใหญ่ถูกรื้อออกมาวางที่หน้าเตียง เธอเก็บเสื้อผ้าง่ายๆโดยพันม้วนๆยัดเข้าใส่ในกระเป๋า พรุ่งนี้เธอและชมรมจะออกเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่บ้านของญาติพี่ป่านและพี่ปัด พี่น้องฝาแฝดเจ้าของชมรมดนตรี นวินดามองเลยไปที่กีต้าร์โปร่งตัวเก่า ก่อนจะยัดมันใส่ซองหนังเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้
เสียงเคาะเล็กๆดังขึ้นที่หน้าประตู เธอเดินทอดน่องไปที่หน้าห้อง แง้มดูว่าเป็นใคร
“มีคนมาหาพี่นวินค่ะ” หนูตัวเล็กวิ่งขึ้นมาตามอีกเช่นเคย เมื่อพูดจบก็วิ่งตื๋อลงไปโดยไม่บอกอะไรต่อ นวินขยับเท้าก้าวตามลงมาด้านล่าง ที่ห้องนั่งเล่นเธอพบพี่ปัดนั่งรออยู่
“ขอโทษด้วยนะนวิน ที่มาไม่บอก”
“ไม่เป็นไร”
“คือพี่อยากแน่ใจว่า นวินจะไปกับเราแน่น่ะ ก็เลยแวะมาถามดู เห็นนวินเงียบไปเลย”
“จัดกระเป๋าอยู่ คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” เธอตอบด้วยน้ำเสียงชาเฉย พี่ปัดดูแปลกตาไปด้วยทรงผมปล่อยยาวไม่ได้รวบตึงเหมือนเวลาอยู่ที่โรงเรียน หล่อนดูมีเสน่ห์ภายใต้เครื่องสำอางค์อ่อนๆ พวงแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ
“แล้วก็ พี่เอาหนังสือขออนุญาตมาให้น่ะ เหมือนนวินจะลืม” ปัดยื่นซองกระดาษในมือให้ เป็นหนังสือที่ทางโรงเรียนออกให้กับชมรมเรื่องการพาสมาชิกไปเที่ยวในครั้งนี้ นวินรับกระดาษแผ่นนั้นมาไว้ในมือ มองผ่านๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
“สอบเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
“ก็ดีค่ะ ดี”
“อย่างนวินคงไม่มีปัญหาอยู่แล้วล่ะเนอะ หัวดีออก” นวินยังคงนั่งคุยแบบถามคำตอบคำ อันเป็นปกตินิสัย ปัดยังคงชวนคุยไม่ซ้ำเรื่อง สำหรับเธอการที่ได้อยู่ใกล้ๆนวินดาก็ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษมากๆแล้ว เรื่องของการเก็บตัวและปิดกั้นความรู้สึกนั้นเป็นที่โจษขานกันในโรงเรียนดีว่าไม่มีใครเท่านวินคนนี้ เค้าดูเรียบเฉย นิ่งงัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้บุคลิกที่ดูดีเตะตาของเค้าเสื่อมความนิยมไปได้เลย
“วันหยุดอย่างนี้ ไม่ออกไปไหนเหรอจ้ะ”
“ก็จัดกระเป๋า แล้วก็ไม่รู้จะไปไหนด้วย พี่ปัดล่ะ ไปไหนมา” ปัดแทบน้ำตาซึมเมื่อเป็นฝ่ายที่ถูกถามเสียบ้าง
“พี่ว่าจะไปดูหนังนะ นวินไปด้วยกันมั้ย” เธอเอ่ยชวน ในใจเริ่มมีความหวัง นวินดายังคงวางหน้าเฉย แม่ของตัวเล็กถือถาดขนมเดินเข้ามาพอดีทันได้ยินที่ปัดเอ่ยชวนจึงผสมโรงสนับสนุนใหญ่
“ออกไปเที่ยวบ้างก็ดีนะนวิน เพิ่งสอบเสร็จ จะได้หายเครียด” หญิงสาวยังคงไม่ตอบ ทำท่าถอนหายใจ หยิบคุกกี้ชิ้นเล็กโยนใส่ปาก
“พี่ก็..ลองชวนดูน่ะจ้ะ พอดีว่าพี่เองก็ไปคนเดียวเหมือนกัน”
“พี่ปัดรอเดี๋ยว ไปเปลี่ยนชุดก่อน” นวินลุกขึ้นยืนช้าๆ สายตานิ่งๆมองผ่านคนในห้องไปเสียหมด พาร่างสูงโปร่งเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน ปัดที่นั่งลุ้นอยู่ถึงกับยิ้มแก้มปริเมื่อนวินตกลงจะออกไปข้างนอกด้วย
