5ไม่มีวันนั้นหรอก
บทที่5
"จะ...จะทำอะไรคะ!"
"แล้วคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ ทานตะวัน" คริสยิ้มร้ายมองใบหน้าสวยหวานของคนตรงหน้า เด็กหญิงที่อำพลยอมเสี่ยงชีวิตช่วยในตอนนั้นวันนี้เป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง เธอใบหน้าละม้ายคล้ายมารดาที่จากไปเมื่อสิบปีก่อน
คล้ายกันมาก มากเสียจนเขาคิดว่าได้เจอดาหลาอีกครั้ง ดวงตากลมโตจ้องมองเขาอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าสวยเริ่มซีดเผือดเมื่อถูกเขาจู่โจมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
เธอยังอ่อนต่อโลก... ไร้เดียงสาซะเหลือเกิน...
"ปะ...ปล่อยทานตะวันนะคะ" เธอปากคอสั่นคริสจ้องมองคนร่างเล็ก เธอในตอนนี้สวยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าต่างจากเด็กผอมแห้งเมื่อก่อนมาก ผิวพรรณละเอียดเหมือนงาช้าง ใบหน้ามีเลือดฝาดเป็นธรรมชาติไร้ซึ่งการแต่งแต้มใดๆ แต่มันก็ทำให้ชวนมองอยู่ไม่น้อย
"เธอกลัวเหรอ?" เขาใช้นิ้วเขี่ยที่พวงแก้มเบาๆ
"..."
"เธอต้องกลัวฉันอยู่แล้วแหละจริงไหม?" เขาแค่นหัวเราะ
"..."
"เพราะถ้าเธอไม่กลัว เธอคงไม่หลบหน้าฉันตลอดเวลาหรอก ว่าไหม?"
"ทานตะวันแค่ไม่อยากรู้สึกแย่เท่านั้นเอง ปล่อยค่ะ!"
"ฉันปล่อยเธอมาหลายปีเด็กน้อย ตอนนี้เธอไม่มีไอ้อำพลคุ้มกะลาหัว ฉันจะทำอะไรกับลูกคนที่ฉันเกลียดยังไงก็ได้"
"ท่านเสียไปตั้งหลายปีแล้ว คุณป๋าจะอะไรกับพวกท่านอีก"
"หึ!" คริสบีบที่คางของทานตะวันแรงๆจนเธอต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ "มันตายเร็วเกินไป มันน่าจะลุกมาตายซักร้อยซักพันครั้ง"
"คะ ...คุณป๋า" ทานตะวันรู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อได้ฟังคนตรงหน้าเอ่ย
"รอรับผลกรรมของพ่อแม่เธอที่ทำกับฉันได้เลย" คริสผลักคนร่างเล็กเเรงๆ เป็นจังหวะเดียวที่อำพลวิ่งเข้ามาในห้อง
"นะ ...นาย"
"เออ กูเอง" คริสเหยียดยิ้มแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ มองภาพอำพลประคองลูกสาวคนสารเลวลุกขึ้น ยิ่งเห็นหน้าทานตะวันเขาก็ยิ่งเเค้น มันจะไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่แค้น มันจะไม่มีวันไหนที่เขาจะลืม
"ผมขอล่ะครับ อย่าทำอะไรเธอเลยครับนาย"
"กูยังไม่ได้ทำอะไรมันเลยนะ!" คริสเสียงห้วนจ้องมองอำพลอย่างไม่พอใจ แล้วยื่นมือไปหยิบช้อนตักต้มยำทะเลขึ้นซด
"ผมแค่อยากให้นายเมตตาเธอ อย่างน้อยเธอก็เป็นลูกของดาหลา"
"หึ! ลูกคนสารเลวสองตัวน่ะเหรอ"
"ผมขอนะครับนาย"
"อื้ม อร่อยดีว่ะอาคม มึงลองมากินดู!" คริสไม่ตอบแต่สนใจทานอาหารตรงหน้าต่อ
"ครับนาย" ลูกน้องคนสนิทรีบใช้ช้อนตักอาหารที่ทานตะวันเตรียมเอาไว้ให้อำพล เธอเม้มปากแน่นจ้องมองอย่างไม่พอใจ
"อาหารพวกนั้น ทานตะวันทำให้คุณลุงอำพล"
"แล้วไง?"
"ถ้าคุณป๋าอยากทาน ทานตะวันจะทำใหม่ อาหารบนโต๊ะทานตะวันทำให้คุณลุง"
"ไม่เป็นไรนะทานตะวัน ให้คุณป๋ากินเถอะ"
"แต่ ..."
"อาหารเยอะนะ ลุงทานพร้อมคุณป๋าเลยก็ได้"
"เธอมีปัญหาเหรอทานตะวัน" คริสเอ่ยเสียงแข็ง
"เธอไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ไปนั่งทานอาหารกันดีกว่าทานตะวัน ดูสิอาหารเยอะแยะน่ากินทั้งนั้นเลย"
"เดี๋ยวทานตะวันไปเอาข้าวมาตักให้ทุกคนทานดีกว่านะ"
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวลุงตักเอง"
"แต่ลุงคะ..."
"เถอะน่า ไปนั่งทานอาหารดีกว่าเดี๋ยวลุงจัดการเอง"
"ค่ะ" แม้จะไม่เต็มใจนัก เธอก็เดินไปนั่งลงเก้าอี้แต่โดยดี คริสเหยียดยิ้มเล็กน้อยจ้องคนร่างเล็กที่เสมองอย่างอื่นไปเรื่อยไม่วางตา
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมันเต็มไปด้วยความอึดอัด ทานตะวันได้แต่ก้มหน้าก้มตาทานอาหาร พยายามไม่ใส่ใจคนที่กำลังจ้องมองเธอ
"วันนี้ทานตะวันทำต้มยำทะเลอร่อยมาก"
"อร่อยก็ทานเยอะๆนะคะ เดี๋ยวทานตะวันจะตักกุ้งมังกรกระเทียมให้ด้วย" ว่าจบเธอก็ยื่นมือไปตักอาหารให้อำพล คริสมองการกระทำนั้นด้วยใบหน้าราบเรียบ ยิ่งเขาไม่แสดงสีหน้าอะไรอำพลก็ยิ่งรู้สึก็หนักใจ สิ่งที่เขากลัวมาตลอดว่ามันจะเกิดขึ้น มันกำลังจะเกิดในอีกไม่ช้าเป็นเเน่
อำพลรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง ที่เริ่มคืบคลานเข้ามา สิ่งที่เขาห่วงตอนนี้คือทานตะวัน หญิงสาวที่เขาเลี้ยงดูมา
การมาของนายครั้งนี้ย่อมมีอะไรแอบแฝง เมื่อก่อนเจ้านายของเขาไม่เคยคิดจะขึ้นมาบนบ้านหลังนี้ ทุกปีที่มาก็จะมาวันสองวันจะดูงานแล้วขลุกที่ตึกใหญ่มากกว่า
"ไอ้อำพล!" คริสเอ่ย
"ครับนาย"
"พ่อกูให้มึงไปช่วยงานที่กรุงเทพ กลับไปพร้อมกับกู" คำพูดของคริสทำให้อำพลตกใจไม่น้อย นายใหญ่ไม่เคยให้เขาไปช่วยงานหลายปี ทำไมตอนนี้ถึงอยากให้เขาไปช่วย
"ผมไม่ไปได้ไหมครับ งานที่นี่เยอะมาก ผมอยากทำงานที่นี่"
"แต่งานที่จะให้ไปช่วยมันเป็นงานที่สำคัญมาก"
"ผม...เอ่อ..." อำพลทำท่าทางกระอักกระอ่วนใจ สิ่งที่เขาห่วงตอนนี้คือทานตะวัน
"พ่อมึงก็แก่แล้ว จะไม่ไปช่วยทำงานหน่อยเหรอ?"
"ทานตะวันต้องเรียนมหาวิทยาลัยนะครับนาย ผมอยากจะให้ทุกอย่างเรียบร้อยลงตัวก่อน"
"ก็ปล่อยให้เธอเรียนสิ มึงกลับไปทำงานที่กรุงเทพ"
"ผมห่วงเธอ" อำพลทำหน้าเครียดถ้าเขาต้องกลับไปที่กรุงเทพฯ เขาต้องเอาทานตะวันไปด้วย เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ถ้าเขาไม่อยู่พวกคนงานกักขฬะอาจจะมาทำเรื่องระยำกับเธอก็ได้
"หึ!" คริสแค่นหัวเราะ "ก็แค่เด็กเก็บมาเลี้ยง มึงให้ความสำคัญมันเหลือเกินนะ เรียนไปก็เท่านั้นแหละ ปีนี้ปีหน้าอาจจะพาผัวมาให้มึงก็ได้ เรียนไปก็ไม่มีประโยชน์เด็กนี่อาจจะไปอ้าขาให้ใครแล้วก็ได้"
ทานตะวันเม้มปากตัวเองแน่น นึกขุ่นเคืองคำพูดของบุรุษตรงหน้าอยู่ไม่น้อย เขากักขฬะหยาบคายไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเอาเสียเลย
"ทานตะวันจะไม่มีวันลดศักดิ์ศรีตัวเองไปทำแบบนั้นหรอกค่ะ!"
"หึ!" คริสเหยียดยิ้มสมเพช "ฉันจะคอยดู ว่าเธอจะเป็นแบบที่ฉันพูดไหม?"
"ไม่มีวันนั้นหรอก ทานตะวันไม่มีทางทำตัวต่ำๆแบบนั้น" หญิงสาวพูดแล้วลุกขึ้นเดินเข้าครัว คริสมองตามคนร่างเล็กแล้วยิ้มร้ายออกมา
