บทที่ 5 อย่าริอาจขัดคำสั่ง [1]
ชาลิดาเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย ทั้งๆ ที่เธอพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่กลับกลายเป็นว่าบิดากำลังเข้าใจผิด ตัดสินโดยไม่คิดถามไถ่และเป็นห่วงเลยสักนิดว่าการต้องอยู่ที่นี่เธอมีความสุขดีหรือเปล่า
“ไปไหนมาน้ำตาล?” เสียงเข้มที่ดังขึ้นระหว่างทางที่สองเท้ากำลังจะเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองทำให้ร่างบางหันกลับไปมองทางต้นเสียงด้วยอาการตกใจ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“เอ่อ...น้ำตาลไป”
“ไปไหน?” เสียงตะคอกถามดังขึ้นอีกครั้งทำเอาร่างบางสะดุ้ง
“น้ำตาลออกไปเดินเล่นมาค่ะ”
“เดินเล่นเหรอ ฉันบอกแล้วไงว่าเธอโกหกไม่เก่ง” โรมานี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มต่ำลงเรื่อยๆ
“น้ำตาลไม่ได้โกหกนะคะ” ชาลิดาพูดทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเปอร์เซ็นต์ที่ทำให้อีกฝ่ายเชื่อจะน้อยนิดก็ตาม แต่จะบอกยังไงว่าออกไปหาบิดามาทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาห้ามแล้ว
“เธอน่าจะรู้ว่าถ้าขัดคำสั่งฉันจะเป็นยังไง”
“น้ำตาล” เธออึกอัก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“หยุดแก้ตัวได้แล้วน้ำตาล ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้เธอไปเหยียบที่นั่นอีก”
“น้ำตาลไม่ได้อยากขัดคำสั่งคุณโรมนะคะ น้ำตาลแค่...น้ำตาลแค่คิดถึงพ่อค่ะ” เด็กสาวอธิบายเสียงสั่น ไม่หวังให้เขายกโทษให้ แต่ต้องการให้เข้าใจบ้างว่าเธอคิดถึงบิดามากจริงๆ
“ในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วสินะว่าออกไปไหนมา ทำไมน้ำตาล ทั้งๆ ที่ฉันอุตส่าห์ไว้ใจ แต่เธอกลับทำลายความไว้ใจนั้นลง”
ความโกรธเริ่มเข้ามาครอบงำ เธอมองข้ามความไว้ใจก็เท่ากับมองไม่เห็นหัวกัน
“น้ำตาลรู้ค่ะว่าน้ำตาลผิดที่ขัดคำสั่ง แต่คุณโรมเคยอนุญาตน้ำตาลแล้วนี่คะว่าจะให้น้ำตาลกลับไปหาพ่อได้”
“ยอกย้อนนักนะน้ำตาล ใช่! ฉันเคยพูดแบบนั้น แต่ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าต้องมีฉันไปด้วย” เด็กอวดดี เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ
“แล้วคุณโรมจะให้น้ำตาลทำยังไง น้ำตาลไม่อยากนั่ง ๆ นอนๆ อยู่ที่นี่” ชาลิดาเปิดเปลือยความรู้สึก เธอแค่เหงาเข้าใจกันบ้างไหม
“ทำไม อยู่กับฉันมันเบื่อมากนักเหรอ อยากจะกลับไปอ่อยไอ้พวกลูกค้าเส็งเคร็งในบ่อนของพ่อเธอหรือไง หา!” สิ้นเสียงโรมานี่ก็ตรงเข้าไปบีบไหล่กลมมนเต็มแรงจนเจ้าตัวถึงกับนิ่วหน้า
“น้ำตาลไม่ได้คิดแบบนั้นเลยค่ะ” เธอกัดฟันข่มความเจ็บเอาไว้ข้างใน
“ยิ่งเธอเบื่อฉันก็ยิ่งกักขังเธอ มานี่” พูดจบคนไร้เหตุผลก็กระชากร่างบางให้เดินตามขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบนโดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากแม่บ้านสูงวัยที่ร้องห้ามเสียงหลงเมื่อเห็นสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายกระทำ
ปัง!
เสียงกระแทกประตูปิดดังสนั่นตามมาพร้อมกับร่างบางที่ถูกเหวี่ยงลงไปบนพื้น แรงกระแทกทำให้ชาลิดาถึงกับจุกแต่ก็ยังกัดฟันมองหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาตัดพ้อ ที่เคยชื่นชมว่าเขาเป็นคนดี บัดนี้มันกำลังจะทำให้เธอเปลี่ยนความคิดลงเพราะการกระทำอันป่าเถื่อน
“ทำไมน้ำตาล ฉันขอแค่นี้ทำไมทำไม่ได้”
“แล้วทีน้ำตาลล่ะคะ ขอแค่กลับไปหาพ่อบ้างทำไมคุณโรมถึงต้องห้ามด้วย” เด็กสาวโต้กลับไปบ้าง
“ที่ฉันห้ามก็เพราะไม่ต้องการให้เธอไปอยู่ในที่แบบนั้น แต่ถ้าเธอไม่ฟัง เห็นทีฉันคงต้องจัดการกับเธอขั้นเด็ดขาด”
“คุณโรมจะทำอะไร” เธอถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ผีห่าซาตานตนไหนเข้าสิงเขาถึงได้พูดจาร้ายกาจแบบนี้
“ฉันก็จะทำโทษที่เธอไม่เชื่อฟังคำสั่ง” คำพูดและแววตาที่มองมาทำให้ร่างบางพยายามกระถดกายหนีโดยอัตโนมัติ สายตาของเขาบ่งบอกให้รู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น
“คุณโรม”
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรรุนแรงกับเธอหรอก”
“น้ำตาลผิดไปแล้ว น้ำตาลขอโทษค่ะ ต่อไปนี้ถ้าคุณโรมไม่อนุญาตน้ำตาลก็จะไม่ไป”
เธออ้อนวอนด้วยแววตาน่าสงสาร หยาดน้ำใสที่เอ่อคลออยู่บนดวงตากลมไม่ได้ทำให้คนมองใจอ่อนลงสักนิด ต้องสั่งสอนให้รู้จักหลาบจำเสียบ้าง
“ขอโทษทำไม ทีตอนทำไม่รู้จักคิด”
“น้ำตาลผิดด้วยหรือคะที่คิดถึงพ่อมาก” เด็กสาวพ้อด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น
“แล้วทำไมเธอต้องโกหกน้ำตาล” เขาถามต่อพลางจ้องหน้าเด็กขี้แยอย่างรอคำตอบ และก็หวังว่ามันจะเป็นคำตอบที่น่าฟังที่สุด
“ถ้าไม่โกหกคุณโรมก็ไม่ยอมให้ไป”
“คนอย่างฉันไม่ได้โง่ให้เธอปั่นหัวเล่นหรอกนะ เธอไม่คิดบ้างเหรอที่ฉันไม่โอนเงินให้พ่อด้วยตัวเองทั้งๆ ที่ทำได้ เพราะฉันอยากเห็นว่าเธอมีความจริงใจแค่ไหน”
น้ำเสียงที่เปล่งออกมายังเต็มไปด้วยโทสะ ชาลิดารู้สึกว่าต่อให้พูดหรืออธิบายแค่ไหนก็ยังคงเป็นผู้หญิงปลิ้นปล้อนในสายตาเขาอยู่ดี
“แล้วคุณโรมรู้ได้ยังไงคะว่าน้ำตาลไปหาพ่อ”
“ฉันเป็นห่วงเธอฉันถึงได้ให้ไอ้จิมมี่ตามไป แต่สิ่งที่ฉันรู้มันกลับทำให้ฉันผิดหวัง” น้ำเสียงทุ้มเต็มไปด้วยความผิดหวังแบบที่พูดมาไม่มีผิดเพี้ยน
“คุณโรมกลัวว่าน้ำตาลจะหนีเหรอคะ?”
“คนอย่างเธอจะหนีไปไหนรอด ที่ฉันทำก็เพราะอยากจะลองใจเธอ”
“น้ำตาลถามจริงๆ นะคะ ตกลงว่าคุณโรมเป็นห่วงหรือกลัวว่าน้ำตาลจะหนีไปกันแน่”
เสียงหวานถามอย่างไม่เข้าใจ ยิ่งมาเจออารมณ์โมโหร้ายก็ยิ่งทำให้อดน้อยใจไม่ได้ จะมีใครบ้างที่รักเธอและเป็นห่วงเธอ
“ถามทำไม”
“น้ำตาลแค่อยากรู้ว่ายังมีคนที่รักน้ำตาลบ้างหรือเปล่า” อาการน้อยใจอัดแน่นอยู่ข้างใน แต่คนไร้เหตุผลหาได้ใส่ใจไม่ แม้แต่ความสงสารสักนิดก็ไม่มี
“ฝันไปหรือเปล่า ฉันน่ะเหรอจะรักลูกหนี้ขัดดอกอย่างเธอ ถ้าฉันเบื่อเมื่อไหร่เธอได้กลับบ้านสมใจแน่”
สิ้นเสียงชายหนุ่มก็เดินออกไป ปล่อยให้ลูกหนี้ขัดดอกได้แต่นั่งร้องไห้กับโชคชะตาอันแสนโหดร้ายของตน
ผ่านไปเกือบชั่วโมงหลังจากที่ร้องไห้จนหนำใจ ร่างบางก็ตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อจะลงไปยังชั้นล่าง แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อพบว่าประตูห้องนอนถูกล็อกจากทางด้านนอก
“ทำไมคุณโรมต้องทำกับน้ำตาลขนาดนี้ด้วย คนใจร้าย” ชาลิดาพึมพำก่อนจะเดินกลับมานั่งชันเข่าอยู่บริเวณข้างเตียงด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว แม้กระทั่งผู้ชายที่ได้ทั้งร่างกายและจิตใจไปครอบครองยังทำร้ายเธอได้ลงคอ
