บทที่ 1 เรื่องจริงอันแสนอัปยศ [2]
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
ชายคนดังกล่าวเคาะประตูหน้าห้องและรอจนคนด้านในส่งเสียงอนุญาต
“หมดหน้าที่แกแล้วล่ะจิมมี่” น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้น ทำเอาเด็กสาวขนลุกซู่กับภาพที่ผู้ชายคนนั้นก้มศีรษะให้เจ้าของร่างสูงใหญ่ซึ่งยืนหันหลังอยู่
“ครับนาย”
“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ” ชาลิดากวักมือเรียกชายที่กำลังเดินออกไป แต่ดูท่าจะไร้ประโยชน์เพราะอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
“เธอคงรู้เรื่องทุกอย่างแล้วนะ” คำถามมาพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่หันกลับมาเผชิญหน้า
ผมหยักศกสีดำสนิทเรียบลู่ไปกับศีรษะทุย จมูกโด่งเป็นสันที่บ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่หญิงดึงดูดเด็กสาวอย่างชาลิดามากที่สุดคือนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลลึกยามทอดมองมาดูมีอิทธิพลกับจิตใจแม้เพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก
“ระ...รู้อะไรคะ?” เด็กสาวช้อนสายตามองพร้อมกับคำถาม เวลานี้เธอแทบไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นถ้าทำได้
“อย่ามาทำไร้เดียงสาน่าเด็กดี เธอต้องนอนกับฉัน ขัดดอกให้พ่อเธอไง” โรมานี่ย้ำให้เจ้าหล่อนฟัง เขาพอจะเชื่อท่าทางไร้เดียงสาที่เห็นแต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี
“ตอนนี้เหรอคะ” ชาลิดาทำเสียงสูง เพิ่งเดินทางมาถึงไม่คิดจะให้หายใจหายคอกันบ้างเลยหรือ
“ทำไม เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งหรือห้ามฉัน เพราะฉันเป็นเจ้าหนี้ ส่วนเธอ มาทำหน้าที่ของตัวเองดีกว่านะเด็กน้อย”
ไม่มีซึ่งความอ่อนโยน มีแต่ความหื่นกามในน้ำเสียง คนบ้าอะไรมาชวนขึ้นเตียงทั้งที่เธอยังไม่พร้อมเลยสักนิดเดียว
“คือ...น้ำตาลยังไม่พร้อมค่ะ” ชาลิดาอ้อนวอนจนอีกฝ่ายนึกขำ ทีเมื่อกี้ทำปากเก่ง
“ไม่พร้อมวันนี้สักวันก็ต้องพร้อมอยู่ดี ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวฉันสอนเอง” คำพูดสองแง่สองง่ามทำเอาคนมีสถานะเป็นผู้หญิงขัดดอกแทบกรี๊ด จะร้องก็ร้องไม่ออก
“ขอเวลาน้ำตาลหน่อยสิคะ”
“รู้สึกว่าผู้หญิงขัดดอกอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ร้องขอนะ” คนบ้าอำนาจไม่คิดที่จะปราณีหรือฟังเลยสักนิด กลับยิ่งย่างสามขุมเข้าหา
ชาลิดาตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ก็ยังใจสู้ไม่เดินหนีไปไหน พยายามนึกถึงและยอมรับความจริงในสิ่งที่ผู้ให้กำเนิดเคยบอกไว้ก่อนจะมาถึงที่นี่
“ยะ...อย่าค่ะ” ชาลิดาร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อเริ่มถูกรุกรานบริเวณซอกคอขาวเนียน นี่มันอะไรกัน เธอต้องเสียตัวให้ผู้ชายแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกจริงๆ ใช่ไหม
“ไม่เอาน่า ขอฉันชิมเธอหน่อยเด็กดี” โรมานี่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเมื่อถูกขัดใจ ฝ่ามือหนาไล้ลงมาบนทรวงอกอิ่มที่ยังมีเสื้อยืดตัวเก่าขวางกั้น ถ้าได้เป็นคนปลดเสื้อตัวนี้กับมือเขาจะมีความสุขที่สุด
“คุณคะ...หนู” ถึงแม้ว่าจะกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและรู้ดีว่าไม่ว่าช้าหรือเร็วก็ต้องตกเป็นของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้อยู่ดี อีกฝ่ายรุกหนักจนเธอแทบไม่มีเวลาตั้งตัว
“เธอน่ากินมากเด็กน้อย” ชายหนุ่มส่งเสียงครวญ ให้ตายเถอะ...ไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน ต่อให้ห้ามยังไงก็ไม่มีทางหยุดเขาได้แน่ โรมานี่จัดการดึงเสื้อยืดที่ปิดบังสิ่งสวยงามออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะก้มหน้าลงไปขบเม้มปทุมถันผ่านบราเซียร์สีสดใส
‘ใส่ลายการ์ตูนเสียด้วยเว้ย หวังว่าเธอจะอายุสิบแปดปีจริงๆ หรอกนะไอ้โรม’ ชายหนุ่มพูดกับตัวเองในใจ โดยที่มือหนาอีกข้างยังคงทำหน้าที่เคล้นคลึงหน้าอกเกินอายุ เล่นเอาผู้เป็นเจ้าของบิดกายเร่าๆ เพื่อหลีกหนีความเสียวซ่านที่เริ่มก่อตัว
“อ๊ะ...ปล่อยน้ำตาลนะ” เมื่อเริ่มตั้งสติได้คนถูกเอาเปรียบก็ส่งเสียงประท้วง โรมานี่หาได้ฟังไม่ จัดการช้อนร่างบอบบางขึ้นมาแล้วตรงไปที่ห้องนอนใหญ่ซึ่งเชื่อมติดกันกับห้องทำงาน ชาลิดาผวาเฮือกเมื่อสัมผัสได้ว่าแผ่นหลังแตะเข้ากับความหนานุ่ม
“น้ำตาลหวาน เธอนี่หวานไปทั้งตัวจริงๆ” ดวงตาคมทอดมองไปยังร่างที่ถูกเขาวางลงบนเตียงด้วยไฟแห่งความพิศวาส แต่กลับมองแล้วหื่นในสายตาของชาลิดา นาทีนั้นมือหนาเอื้อมไปกระชากสิ่งที่บดบังความเจริญทางสายตาออกพรวดเดียว คำอุทานในใจจากอาการตกตะลึงก่อเกิดขึ้นมาอีกระลอก
อื้อหื้อ! หน้านี่เด็กประถมก็จริงอยู่ แต่นมนี่สิแม่เจ้า...ไกลไปถึงปริญญาเอก
“น้ำตาลกลัวจริงๆ ค่ะ” เด็กสาวผู้มีหน้าอกที่โกงอายุร้องบอกเสียงเบาหวิว สองมือพยายามยกขึ้นมาปิดหน้าอกของตนเอาไว้แม้จะรู้ดีว่าปิดไม่มิดก็ตาม เธอจะขาดใจเสียให้ได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่ทำให้หมดสิ้นความเป็นตัวเองแบบนี้มาก่อน แม้กระทั่งพวกผีพนันในบ่อนที่มักจะมองมาด้วยสายตาแทะโลม มากกว่านั้นก็ประเภทถึงเนื้อถึงตัวจนเธอรู้สึกขยะแขยง แต่ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้ร่างกายเธอแทบหลอมละลาย
“เธอมีอะไรในใจหรือเปล่า?” ชายหนุ่มเงยหน้าถาม ในขณะที่มือหนายังสาละวนอยู่กับปทุมถันคู่งาม ไล้นิ้วแกร่งไปกับปลายยอดถันจนมันชูชันท้าทายสายตา
แววตาที่ตื่นตระหนกระคนอยากเรียนรู้ทำเอาโรมานี่ขมวดคิ้วสงสัยว่าเธอเคยเจอเหตุการณ์อะไรฝังใจมาก่อน
“น้ำตาลกลัวเวลาที่พวกขาไพ่ในบ่อนมองน้ำตาลเหมือนจะกลืนกิน” ชาลิดาตอบตรงๆ เขาจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณ
“ฉันไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเหยื่อ แต่ฉันอยากครอบครอง อยากอึ๊บเธอ” เสียงแหบพร่ากระซิบบอก ตรงๆ แบบนี้แหละถึงใจดี เขาแทบจะรอต่อไปไม่ไหวแล้ว ให้ตายสิ...ไอ้โรมเอ๋ยรู้ถึงไหนอายถึงนั่น
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเธอ” คำมั่นสัญญาถูกยืนยันให้ฟังอีกครั้ง พร้อมกันกับกางเกงยีนส์ขาสั้นและแพนตี้ตัวน้อยถูกรูดลงมาตามปลีน่องสวยแล้วกองมันไว้ที่ปลายเท้า ลิ้นสวาทจดจ่อลงไปยังกลีบกุหลาบสีสวยด้วยความเสน่หา แล้วค่อยๆ ตวัดผ่านเข้าไปในรอยแยกของเนื้อสาวอย่างชำนิชำนาญ
“อย่า...อ๊า” เสียงร้องห้ามเริ่มขาดหาย กลายเป็นเสียงครวญหวานเข้ามาแทนที่ น่าอายเหลือเกินที่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือสิ่งอื่นใด ร่างบางเริ่มกระถดหนีจนถูกส่งสายตาดุไปให้พร้อมกับกระชากเรียวขากลับมาที่เดิมแล้วใช้มือหนาทั้งสองข้างกดเอาไว้ แทะเล็มไปทั่วเรือนกายสาวชนิดที่เรียกว่า...ทุกซอกทุกมุม
ในยามที่เห็นคนใต้ร่างกำลังมัวเมาในรสสวาทที่มอบให้ โรมานี่ก็จัดการกับเสื้อผ้าบนร่างกายตนเองไปด้วยความรวดเร็ว ความแข็งแกร่งสมชายชาตรีถูกเปิดเผยต่อสายตา ความใหญ่โตดังกล่าวทำเอาสาวเจ้ากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ทำไมมันถึงดูน่ากลัวเหลือเกิน
“เป็นของฉันนะเด็กน้อย แล้วฉันจะลดทั้งต้นทั้งดอกให้กับพ่อเธอ” ชายหนุ่มกระซิบชิดริมใบหูเล็ก จัดการแยกขาเรียวทั้งสองข้างออก จดจ่อแกนกายแข็งแกร่งที่ร้อนดั่งไฟลงทักทายไปมาราวกับต้องการให้คุ้นชิน พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปจูบซับบนริมฝีปากเล็กเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เจอหน้ากันจนชาลิดามึนงงไปชั่วครู่ โรมานี่จึงอาศัยจังหวะนี้ฝังตัวตนเข้าสู่กลีบกุหลาบที่กำลังเอ่อไปด้วยหยาดน้ำค้างพรวดเดียว
“อื้อ...” ชาลิดานิ่วหน้า ส่งเสียงกรีดร้องอู้อี้อยู่ในลำคอเพราะถูกบดจูบไม่ห่าง สองมือเล็กพยายามผลักไสหน้าอกแกร่งไม่ต่างกับกำแพงออกเนื่องจากขนาดไซส์ของเธอและเขาที่ต่างจนเด็กสาวแทบรับมันไม่ไหว
“คุณ...หนูเจ็บ” เด็กสาวส่งเสียงประท้วงเมื่อริมฝีปากถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ ความรู้สึกที่ทั้งเจ็บและเสียวซ่านผสมปนเปกันจนแทบแยกไม่ออก แต่ลึกๆ แล้วเธอก็ยังไม่อยากให้อีกฝ่ายทิ้งไปในตอนนี้
“ฉันขอโทษ สัญญาว่าจะนุ่มนวลที่สุด” โรมานี่กล่าวคำขอโทษด้วยน้ำเสียงปลอบประโลม เจ้าของสะโพกสอบเริ่มเดินหน้าทำตามความต้องการของตนช้าๆ ทว่าหนักแน่น รอจนเด็กสาวปรับตัวได้ ร่างบางเริ่มตอบสนองโดยการยกแขนเล็กขึ้นมาโอบรอบลำคอ บดเบียดสะโพกผายเข้าหาเป็นการเชื้อเชิญโดยไม่รู้ตัว
“ใจเย็นๆ เด็กน้อย” คนถูกยั่วกระซิบบอกเสียงพร่า พร้อมกับขยับสะโพกสอบเข้าหาความนุ่มนิ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาเร่งจังหวะแรงขึ้นและถี่กระชั้นจนปทุมถันสองข้างตรงหน้ากระเพื่อมไหว มือหนาจับเรียวขาข้างหนึ่งไว้รองรับการฝังตัวตนอันร้อนแรงของเขา ในขณะที่มืออีกข้างเคล้นคลึงอยู่บนหน้าอกที่เต็มไม้เต็มมือ
“อ๊า...”
“อ๊า...” เสียงครวญครางที่แทบแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใครดังประสานกันอย่างเป็นจังหวะ จังหวะแห่งความสุขที่มีร่างของชายหญิงเป็นตัวขับเคลื่อน
โรมานี่รู้สึกไม่ผิดหวังจริงๆ แม้จะเป็นความต้องการของบิดาเธอในตอนแรกที่ยืนข้อเสนอมาให้ แต่เขาก็ยินดีรับมันไว้เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มผ่านหน้าจอเครื่องมือสื่อสาร เขาคิดพร้อมๆ กับพาเด็กสาวล่องลอยไปสู่วิมานอันแสนหวานจนส่งเสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่าน ความคับแคบที่ตอดรัดทำเอาเขากัดฟันแน่น โดยเฉพาะเสียงหวานๆ ที่เปล่งออกมายิ่งสร้างแรงกระตุ้นให้ชายหนุ่มถาโถมร่างกายแข็งแกร่งเข้าหาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะถอดถอนตัวตนออกแล้วจับร่างบางคว่ำหน้าลง ฝังกลับลงไปอีกครั้ง กระทั่งเธอและเขาคำรามออกมาพร้อมๆ กันเมื่อพากันแตะสู่วิมานที่วาดฝัน สายธารรักขาวขุ่นถูกปลดปล่อยเข้าสู่กายสาวจนหมดสิ้น ใบหน้าหล่อเหลาซบลงไปบนไหล่กลมกลึงพร้อมเสียงหอบหายใจที่กระซิบดังอยู่ข้างหู
“เธอน่ารักเหลือเกินเด็กดี”
