บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

สนามบินดอนเมืองในตอนเช้ามืดยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ต้องออกบินในไฟลต์ใกล้รุ่งอย่างเดียวกับที่หล่อนต้องเดินทาง สายป่านลากกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กของตัวเองมาพบกับเพื่อนสาวเงียบๆ ขณะที่อีกฝ่ายมีกระเป๋าใบใหญ่สองสามใบ ด้านในบรรจุเสื้อผ้าและอุปกรณ์ประกอบสำหรับการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งไว้อย่างพรั่งพร้อม

“ไม่ลืมอะไรแล้วใช่ไหม... แหวนล่ะ เอามาครบหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้วจ้ะป่าน”

“แล้วพี่ช่างกล้องคนใหม่ของนิล่ะ... มาหรือยัง”

“เขาบอกว่ากำลังมา ใกล้จะถึงแล้ว”

“แล้วใครจองตั๋วเครื่องบินให้เขา... นิหรือเปล่า หรือพี่ช่างกล้องคนเก่าเขารับผิดชอบให้”

“เห็นเขาบอกว่าเขาจะจองเองนะ คงไปเคลียร์กันแล้ว หรือไม่ก็ค่อยเคลียร์ทีหลัง พี่เขามีน้ำใจเหมือนกันนะป่าน อุตส่าห์มาช่วยแทนเพื่อนแบบฉุกเฉินขนาดนี้” นิรมลลดเสียงลงด้วยความเห็นใจ เช่นเดียวกับภาคภูมิที่ช่วยเสริม

“ได้ข่าวว่าจริงๆ เขาไม่รับงานพรีเวดดิ้ง แต่นี่มาช่วยเพราะเพื่อนป่วย ถ้าจ้างจริงคงจะราคาแพงกว่าคนเก่ามาก ถือว่าเป็นโชคดีของเราแล้วกัน พี่เข้าไปดูรูปตัวอย่างที่เขาส่งลิงก์ให้ดูแล้ว สวยอลังการมาก นิกับป่านไม่น่าจะผิดหวัง”

“ยังไงก็ได้ค่ะพี่ภูมิ... ให้นิเขาแฮปปี้ก็พอแล้ว”

เสียงโทรศัพท์ของภาคภูมิดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะกดรับ พยักพเยิดบอก

“นั่นไงเขามาแล้ว”

สายป่านหันกลับไปมองตามเสียงบอกของว่าที่เจ้าบ่าวของเพื่อนสนิท ในคลองจักษุหล่อนเห็นชายร่างสูงผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าอันคุ้นเคย ครั้นพอเห็นชัดถนัด หล่อนก็รู้สึกเหมือนชาวาบตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า

“คุณวิน”

น้ำเสียงนั้นอาจจะเบาหวิวมากในความรู้สึก และคนรอบข้างต่างไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำถึงสีหน้าที่ซีดลงของหญิงสาว สายป่านมองผู้ชายตรงหน้าซ้ำอีก หลับตา และลืมตาขึ้นมาใหม่เพื่อรับรู้ความจริง

อาชวิน...

เจ้าของชื่อนั้นเลิกคิ้วเรียวขึ้นเพียงนิดคล้ายว่าประหลาดใจ... แต่ไม่มากเมื่อเห็นหญิงสาว ดวงตาคู่คมดูกึ่งว่างเปล่ากึ่งไม่ใส่ใจ ริมฝีปากคลี่ยิ้มให้ว่าที่บ่าวสาวที่ทักทายด้วยความดีใจเท่านั้น

“สวัสดีค่ะคุณช่างกล้อง... มาแทนพี่คนเก่าใช่ไหมคะ”

“ครับ” เขาตอบสั้นๆ วางกระเป๋าล้อลากและหยิบพาสปอร์ตขึ้นมาเตรียมพร้อม “ผมชื่ออาชวิน หรือคุณจะเรียกวินก็ได้... ผมมาทำงานแทนกอล์ฟที่ป่วย เขาขอให้มาช่วยแทน”

“ตั๋วเครื่องบินคุณเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ ฉุกละหุกมาก ไม่มีเวลาช่วยเช็กให้เลย”

“เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ต้องกังวล... ถ้าทางคุณนิรมลพร้อมแล้ว เราเข้าไปเช็กอินกันเลยก็ได้ ผมมีกระเป๋ากล้องต้องโหลดนิดหน่อย”

“ค่ะ... ไปสิคะ”

เขาเดินนำหน้าไปก่อน เข้าแถวที่มีคนต่อคิวอยู่น้อยสุดจนนิรมลหันมากระซิบกระซาบ

“นี่คุณช่างกล้องเขาจองบิสสิเนสคลาสเลยเหรอ... สงสัยจะร่ำรวยน่าดู ท่าทางมีมาดยังไงก็ไม่รู้ ไอ้เราก็นึกว่าแนวเซอร์ๆ เขาเป็นช่างกล้องแนวไหนเหรอ อยากรู้ขึ้นมาทันที”

“ฉันรู้” สายป่านพึมพำ ดวงตายังคงหันเหไปจากแผ่นหลังกว้างของชายที่ยืนต่อคิวอยู่ในแถวชั้นธุรกิจไม่ได้ “เขาเป็นช่างกล้องสายแลนด์สเคปให้เนชั่นแนล จีโอกราฟิก ที่อเมริกา”

“ป่านรู้จักเขามาก่อนเหรอ” นิรมลหันมาทำตาโต “ไม่เห็นเคยบอกเลยว่ารู้จักกับช่างกล้องฝีมือดีขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นจะได้ขอจ้างตั้งแต่แรก นี่ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไร ทำไมดูเขาไม่เห็นทักทายป่านเลย หรือว่ารู้จักเขาอยู่ฝ่ายเดียว เป็นแฟนนิตยสารของเขาเหรอ”

ไม่มีคำตอบจากเพื่อนสาว... สายป่านหลุบตา ลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองเข้าไปในแถวของผู้โดยสารชั้นประหยัด แว่บหนึ่งที่หล่อนเห็นเจ้าของร่างสูงที่ยืนอยู่มองมา แต่ก็เพียงชั่วเสี้ยววินาทีเท่านั้นก่อนที่เขาจะหันกลับไปเหมือนไม่เห็นร่างของหล่อนเป็นสสารตรงนั้นเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel