ดวงใจเจ้าเอย

41.0K · จบแล้ว
พวงชมพู
31
บท
10.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“จะไปไหน!” “เอยจะไปขอย้ายกลับไปอยู่ห้องรวมคะ” ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องมายุ่งวุ่นวายกับเธออีก ระหว่างเธอกับเขาตอนนี้ไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกแล้ว แม้จะไม่รู้ว่าเขามาทำอะไรที่นี่ มายุ่งกับเธอทำไม! “ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” เขากำราบเสียงแข็งก่อนจะคว้าต้นแขนที่มีสายน้ำเกลือเอาไว้หลวมๆ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บเอาได้ “เอยจะไป! คุณวรรษไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตของคนอื่นตามอำเภอใจแบบนี้นะคะ!” ยิ่งเป็นเธอ เขายิ่งไม่มีสิทธิ์! จำได้ว่าเธอกับเขาตอนนี้ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว เขาไม่ควรมายุ่งกับเธอ “คนอื่นเหรอ...” “ค่ะ ตอนนี้สำหรับเอยคุณคือคนอื่น!” ไม่มีคำว่า ‘เรา’ อีกแล้ว นับตั้งแต่วินาที ที่เธอตัดสินใจเดินออกมาจากกรงขังของเขาแล้ว นี่คือความจริงที่เขาต้องจำให้ขึ้นใจ!

นิยายรักโรแมนติก

บทนำ

งานฌาปนกิจ ‘อดีต’ มือขวาของนักธุรกิจชื่อดัง อัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย ที่ต่างก็เดินทางมาร่วมอาลัยผู้จากไปกันอย่างเนืองแน่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง หรือแม้แต่คู่ค้าที่เคยร่วมงานด้วย จะมีก็แต่ใครบางคน ที่แม้จะเดินทางมาร่วมงานแต่กลับไม่คิดปรากฏตัวให้ใครเห็น เพราะการปรากฏตัวของเขาอาจทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น!

“นั่นคุณเจ้าเอยครับ น้องสาวนายป้องปราบ” กระทั่งคนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆ เหลือบไปเห็นร่างบอบบางของใครคนหนึ่งเข้า ถึงได้ชี้ให้เจ้านายดู ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำเพียงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ทว่าหากมีใครสักคนสังเกต จะพบว่าสายตาคมเข้มนั้นแทบไม่ยอมละไปจากใบหน้าอ่อนหวานของหญิงสาวที่กำลังยืนรับแขกอยู่บริเวณหน้าศาลาไปไหนเลย

หล่อนสวย...สวยกว่าในรูปที่ ‘อดีตคนสนิท’ เคยหยิบมาอวดมากทีเดียว แต่ความสวยนั้นกลับไม่ได้ช่วยทำให้ ‘วรรษ’ รู้สึกอะไรไปมากกว่าความสงสารปนเห็นใจ ที่พี่ชายของอีกฝ่ายเลือกที่จะปลิดชีวิตตัวมันเอง แทนการเข้าคุกในข้อหาฉ้อโกงบริษัท ทรยศเขา!

นายปราบเคยเป็นหนึ่งในคนสนิท ที่เขาให้ความไว้วางใจที่สุด แต่ความไว้ใจนั้นเอง ที่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายใช้มันเพื่อเล่นงานเขาทีเผลอ ด้วยการแอบยักยอกงบประมาณ ที่เขามอบหมายให้มันดูแล!

กว่าความจริงจะเปิดเผย เขาก็พบว่าตัวเองถูกยักยอกเงินออกไปเกือบห้าล้านบาท และโทษของคนที่มันกล้าทรยศก็มีเพียงสองทาง นั่นคือหาเงินทั้งหมดมาคืน หรือไม่...ก็ไปรับโทษต่อในคุก!

ใครเลยจะไปคิดว่าไอ้บ้านั่นมันจะเลือกทางที่สาม ด้วยการจบชีวิตตัวเอง ทิ้งให้น้องสาวต้องแบกรับภาระหนี้ที่มันก่อไว้ลำพัง!

หากรู้ว่าเรื่องมันจะลงเอยแบบนี้ เขาอาจใจอ่อนยอมให้มันผ่อนผัน แต่ทุกอย่างมันสายไปแล้ว เขาคงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้

อีกด้านหนึ่ง

คืนที่สามของการสวดอภิธรรมศพของผู้ลาลับจบลงไปอย่างเรียบง่าย โดยตลอดทั้งงานนั้นมีเพียงน้องสาว ซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวคอยดูแลแขกที่มาร่วมงาน และหากไม่ได้ใครบางคนคอยช่วย ลำพังแค่ตัวเธอเพียงคนเดียวคงไม่อาจทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้

“ขอบคุณพี่หินมากนะคะ ที่มาช่วยเอยวันนี้”

หากไม่ได้อีกฝ่ายช่วย เธอเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่างานในค่ำคืนนี้จะออกมาดีได้อย่างที่เห็นรึเปล่า หิน หรือสุทัศน์ คือเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนของพี่ชายเธอ เธอมีโอกาสรู้จักกับอีกฝ่ายก็เพราะพี่แนะนำให้รู้จัก ถึงได้นับถือเขาเหมือนพี่ชายอีกคนเรื่อยมานับแต่นั้น

“เรื่องแค่นี้เองเอย มากกว่านี้พี่ก็ยินดีช่วย เอยไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เอยยังมีพี่ ถ้ามีอะไรที่เอยรู้สึกไม่สบายใจ เอยคุยกับพี่ได้ทุกเรื่องเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” เขาไม่ได้พูดผิดไปจากความคิดของตัวเอง สายตาที่เขาใช้มองคนตรงหน้าไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากวันแรกที่เพื่อนพาเธอมาแนะนำให้รู้จักเลย สายตาที่เต็มไปด้วยความรัก และใช่! เขาแอบรักน้องสาวของเพื่อนสนิทตั้งแต่วันแรกที่ได้พบหน้า

ติดแต่เพียงแค่ยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะพูดมันออกไปตรงๆ ถึงได้ทำได้แค่เพียงอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลเธอห่างๆ ตามประสาคนแอบรักข้างเดียวมาโดยตลอด

แต่หลังจากนี้เขาคงต้องรวบรวมความกล้าอีกหน่อย เพราะเจ้าเอยไม่เหลือใครแล้ว เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเพื่อนรักจะกล้าทิ้งน้องสาว ให้ต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวเพียงลำพังแบบนี้ ไม่คิดเลย

“แกพอจะมีเงินสักห้าล้านให้ฉันยืมไหมวะไอ้หิน ฉันสัญญาว่าจะรีบหามาคืนให้! นะเพื่อนนะ ได้โปรดช่วยฉันสักครั้ง ถ้าแกไม่ช่วย ครั้งนี้ฉันคงไม่รอดแน่” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขากับเพื่อนได้พูดคุยกัน และแน่นอนว่าเขาเลือกที่จะบอกปัดเพราะรู้ดี ว่าสาเหตุของการเป็นหนี้ของเพื่อนนั้นมาจากการพนันที่อีกฝ่ายกำลังพัวพันอยู่

ความจริงแล้วเขาเองก็พอจะมีเงินเก็บ ที่ได้มาจากมรดกของพ่ออยู่บ้าง แต่ที่ไม่ยอมให้มันยืม ก็เพราะกลัวว่าจะไม่ได้คืน ไม่นึกเลยว่าเพื่อนรักจะเลิกล้มความพยายามด้วยการฆ่าตัวตาย ถ้าเพียงแต่เขารู้ว่ามันจะเลือกทางนี้ ไม่แน่ว่าบางทีเขาอาจจะยอมช่วยมัน อย่างน้อยๆ ก็ทำเพื่อผู้หญิงน่าสงสารตรงหน้าคนนี้

“แล้วหลังจากนี้เอยคิดไว้รึยัง ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหน” คำถามนั้นสั่นไหวใจคนฟังไม่น้อย เพราะบ้านเช่าที่เคยอยู่กับพี่ชายกำลังจะถูกไล่ที่ สาเหตุก็มาจากพี่ชายของเธอที่ค้างค่าเช่ามานานหลายเดือน เรื่องนี้เธอเองก็เพิ่งรู้จากปากคุณป้าเจ้าของบ้าน เมื่ออีกฝ่ายเดินทางมาร่วมฟังพระสวดในวันนี้ ซ้ำท่านยังใจดีไม่ติดใจเอาความที่พี่ชายของเธอใช้บ้านเช่าของท่านเป็นสถานที่จบชีวิต ทิ้งให้เธอผู้เป็นน้องสาว ต้องเผชิญกับโลกนี้เพียงลำพังพร้อมหนี้สินที่ตนเองไม่ได้เป็นคนก่อ แต่กลับต้องก้มหน้าชดใช้ในฐานะน้องสาวของเขา!

“เอย...ย้ายไปอยู่กับพี่ได้นะ”