เพราะคุณหนูถึงตาบอด
บทที่2 ก็เพราะคุณไง หนูถึงตาบอด!
โรงพยาบาล
" ไม่ใช่ญาติรอด้านนอกนะคะ "
" เอ่อ..แต่ผม "
" รอด้านนอกนะคะ "
" ครับ...ก็ได้ "
หลังจากหายอาการตกใจแล้ว เจ้าสมุทรก็ต้องสติให้ดี.... และนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ ตัวเองมีประชุม พอดูนาฬิกาจากข้อมือแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา ยาว ๆ เพราะนี่มันเลยเวลา มามากกว่า 30 นาทีแล้ว
" เห้อ... "
ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่าย ใครจะไปคิดรู้ล่วงหน้าล่ะว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ .... ไม่ช้าเจ้าสมุทรก็ต่อสายไปหา พล.. เพื่อนสนิท ที่บริหารร่วมกัน ว่าสถานนะการณ์ในห้องประชุมตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
-บทสนทนาในสาย-
พลพล-
[ " ฮัลโหล... ว่าไงคุณสมุทร ? " ]
[ " 10 นาทีไหนมึง ใช้นาฬิกาประเทศอะไร ?"]
" มึงอย่าพึ่งบ่นได้ไหมวะ "
[ "ไม่ให้กูบ่น แล้วจะให้กูทำไงตอนนี้.. ไหนมึงพูดมาสิ "]
[ " อธิบายมา " ]
" กูขับรถชนคนบาดเจ็บ "
[ " อ้าง ไอ้เหี้ย ม้อหญิงอยู่ก็บอกกูมาเถอะ ไม่โกรธ " ]
" ม้อที่หน้า กูขับรถชนคนจริง ๆ "
[ " อมเจ้าอาวาสมาพูดกูก็ไม่เชื่อหรอกนะ " ]
[ " มึงกับกูเป็นเพื่อนกันมากี่ปีวะ อย่ามาโกหกกันสะให้ยาก " ]
" กูไม่เล่น ไอ้เหี้ยพล "
[ " กูไม่เชื่อครับแน่จริงก็เรียกหมอมาคุยกับกู "]
" พ่อมึงดิ ใครจะทำ "
" เดี๋ยวมึงถือสายรอแปป "
ไม่ได้บ้ายอนะ แต่ เขาขี้เกียจที่จะอธิบายต่อเลยบอกให้เพื่อน สนิทถือสายรอสักครู่ แล้วตัวเองก็เดินไปหา พยาบาลผู้ช่วยที่ดูใบหน้า ท่าจะใจดี ให้ช่วยพูดกับเพื่อนให้เชื่อใจหน่อย
" หมอครับ รบกวนอะไรสักครู่ได้ไหมครับ? "
" ค่ะ... มีอะไรหรอคะ "
" ช่วยบอกผมทีว่าผมอยู่โรงพยาบาลจริงไหม "
" เอ่อ... "
" นะครับ ...มันไม่เชื่อผม "
" งั้น ก็ได้ค่ะ "
ผู้ช่วยพยาบาลสาวรับโทรศัทพ์มาจากมือของชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยปากพูดคุยกับคนในปลายสายให้เข้าใจ ...จนในที่สุดแล้ว เพื่อนสนิทอย่าง พลก็ยอมเชื่อสักที
บทสนทนาในสาย
พลพล-
" เชื่อยังล่ะ "
[ " เออ! เชื่อก็ได้ "]
[ " กูจัดการให้มึงทุกอย่างล่ะ .... ยกเลิกประชุมไปตั้งแต่ 5นาทีแรกแล้วเพราะกูรู้ว่ายังไงมึงคงมาไม่ทันแน่ๆ " ]
" กูไม่ได้อยากเห็นแก่ตัวแบบนี้นะเว้ย และยิ่งวันนี้ ต้องคุยเรื่องสำคัญกันด้วย .... กู รู้สึกผิดว่ะ "
" ขอโทษนะเว้ย ... ที่กูขาดความรับผิดชอบแบบนี้ "
{ " คิดมาก ... ใครมันจะอยากให้เกิดอะไรแบบนี้ล่ะ ...แล้วมึงเป็นไรมากไหม ? " }
" หึ ไม่อ่ะ กูไม่เป็นไรแต่ยัยเด็กคนนั้นน่าจะเจ็บหนัก "
{ " อะไรนะ ?? เด็ก มึงชนเด็กหรอ!!!" }
{ " ชั่วจริง ๆ !! " }
" ฟังให้จบแล้วค่อยด่ากูเนาะ .... กูหมายถึง เด็กคนนั้นน่าจะอายุไม่ถึง25หรอก หรืออาจจะไม่ถึง20 กูเดา ๆ นะ เพราะหน้ายังเด็ก "
{ " น่าสงสารว่ะ ถ้าจะเจ็บเยอะ " }
" พอควร กระจกฝั่งนึงกูถึงกับร้าว .... กูรอหมอออกมาบอกว่าผลเป็นไร กูจะได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลจะได้จบ ๆ เรื่องกันไปสักที มันเสียเวลางานกู "
( " เห้ย นี่มึงขับรถชนคนนะเว้ยพูดแบบนี้ได้ยังไง " )
" ถ้ากูรู้ล่วงหน้ากูคงไม่ขับเร็วหรอก "
( " ประมาทชิปหาย " )
" พอ ๆ ถ้าจะด่ากูซ้ำเติมก็วางไปเลย "
ตื้ด!!
" โถ่เว้ย! "
เจ้าสมุทร สบถออกมานิดหน่อยเพราะเพื่อนตัวดีนั้นเริ่มพูดไม่เข้าหู ก่อนจะไล่ความหงุดหงิดนั้นออกไปและเดินไปที่ ช่องกรอกประวัติของผู้ป่วยเพื่อถามไถ่หาญาติพี่น้อง จะได้จ่ายค่ารักษาพยายาลให้กับมือ
" ขอโทษนะครับ พอดีผมเป็นคนขับรถ ผู้หญิงคนนั้น อยากทราบว่า ญาติเขาจะมาตอนไหน "
" เอ่อ... สักครู่นะคะ"
"....."
ชายหนุ่ม ยืนรออยู่สักพักก็ได้ยินผู้ช่วยพยาบาลกดแป้นพิมพ์คอมเพียงไม่นานก็รู้เรื่องราวประวัติของผู้หญิงคนนั้น
" คนไข้เคยมีประวัติมาในโรงพยาบาลนี้ครั้งนึงค่ะ แต่เป็นแค่คนให้ข้อมูล กับผู้ป่วยเท่านั้น "
" พ่อแม่บุญธรรมของเธอเสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว "
" ....ว่าไงนะครับ "
" เธอไม่มีญาติพี่น้อง ค่ะ "
" พ่อแม่บุญธรรมหรอ ? "
มันจะมีอะไรน่าตกใจมากกว่านี้ไหม แล้วพ่อแม่แท้ ๆ เธอไปไหน แล้วทีนี้เขาจะชดเชยค่าเสียหายยังไงล่ะ
" เธออยู่ตัวคนเดียวหรอครับ ? "
เจ้าสมุทรทำด้วยความสงสัย เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนั้นจะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง
" อันนี้ หมอก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ..."
ใจของชายหนุ่ม ก็เริ่มที่จะมีความคิดมากขึ้นมาได้แต่ภาวนาให้ผู้หญิงคนนั้นไม่เป็นอะไรมาแล้วกัน
---ห้องพักคนไข้--
เจ้าสมุทรจ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้ หญิงสาวให้มารักษาอยู่ห้องดี ๆ ตอนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น ชายหนุ่มเลยขอตัวลงไปหาอะไรลองท้องก่อน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องตัวเองก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย.... พอทานอะไรเสร็จตัวเองก็รีบขึ้นลิฟท์มาเพื่อจะมาดูอาการหญิงสาวว่าฟื้นแล้วหรือยัง .... แต่เหมือนทุกอย่างมันถูกกำหนดให้เขาได้ยินในสิ่งที่ หมอพูดทั้งหมด
" คนไข้มีภาวะตาบอดชั่วคราวครับ... เหตุเกิดจากที่ว่า เยื้อนัยต์ของคุณ กระทบกระเทือนอย่างหนัก จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งสองข้าง "
" ฮึกก.... แล้วหนูจะกลับมามองเห็นได้เมื่อไหร่คะ "
หญิงสาวเอามือจับไปที่ผ้าก็อตที่ปิดตาอยู่ เนื้อตัวสั่นเทาเพราะเกิดจากอาการตกใจ... ใบหน้าของหญิงสาวเขียวช้ำจากรอยกระแทก บริเวณศรีษะก็ยังมีผ้าพันแผล พันอยู่รอบหัว ชายหนุ่มที่แอบยืนดูอยู่ตรงช่องประตู ก็นึกสงสาร ได้แต่ตำหนิตัวเองอยู่ภายในใจ
" ใจเย็น ๆ นะครับ "
" หมอยังบอกไม่ได้ว่าคุณจะกลับมามองเห็นได้วันไหน.. มันอาจจะนานหลายวัน หลายเดือน..หรืออาจจะเป็นปี "
" ฮึกกก...แล้วหนูจะใช้ชีวิตอยู่ ยะ!! ยังไงล่ะคะ...ฮืออ "
ไม่เลยว่าตัวเองจะมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นแม้แต่แสงรำไร มันดำไปหมด เรื่องมันเกิดอะไรขึ้นเธอเองก็ยังเรียบเรียงหรือจับใจความไม่ได้เลย ตื่นมา ก็รู้ว่าตัวเองอยู่บนเตียง พอจะลืมตาขึ้นดูว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แต่แล้ว ทุก ๆ อย่างกับมืดมิดสนิท....
แกร็ก~
พอได้ยินแบบนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็ยืนฟังอยู่หน้าประตูไม่ไหว... มันยิ่งแล้วไปกว่านั้นคือหญิงสาวไม่ได้บาดเจ็บธรรมดาแต่กลับตาบอด
" ว่ายังไงนะครับ.. !? เธอตาบอดหรอ "
"..คะ... คุณคือญาติผู้ป่วยหรอครับ ? "
" ไม่ใช่ ... ผมคือคนที่ขับรถชนเธอ "
" ฮึกก.. อะ...อะไรนะคะ? "
ถึงไม่ได้ เห็นหน้าคราตาได้ฟังแต่ น้ำเสียงของผู้ชายคนนี้ก็ดู ขึงขัง .... ไม่มีความรู้สึกผิดเอาเสียเลย... สองมือเล็กกำเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธ เธออยากจะด่าผู้ชายคนนี้เหลือเกิน
" เดี๋ยวเชิญคุณออกมาคุยกับหมอด้านนอกทีนะครับ "
หมอ ธนินเดินนำออกไป...ก่อนที่เจ้าสมุทรจะหันมามองหญิงสาวเพียงครู่ และเดินออกไปตามหมอธนิน
" อะไรนะครับหมอ ? เธอตาบอด...ได้ยังไง "
" ครับ แต่ไม่ต้องตกใจไป เธอมีโอกาสหาย แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็ว "
" เยื้อของเส้นเลือดในตาเกิดแตกทำให้ ประสาทตาใช้งานไม่ได้ "
" แต่ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น "
เจ้าสมุทร นั่งฟังหมออธิบายอย่างตั้งใจ
" แล้วมีวิธีรักษายังไงบ้าง ที่จะให้มันหายเร็ว ๆ "
" วิธีรักษามันมีครับ ... แต่ที่หน้าเห็นใจเลยคือ คนไข้ ไม่มีญาติเลยสักคน จะลำบากตรงที่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงในแต่ละวันนี่ สิครับ "
"... เธอไม่มีพ่อแม่จริง ๆ หรอ หรือพวกท่านตาย ? "
" หมอรู้มาแค่ว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า น่ะครับ แต่เรื่องเป็นมายังไง หมอไม่สามารถรู้ได้ ห่วงแค่ว่าเธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ทั้ง ๆ ที่เธอตาบอดแบบนี้ "
" .... "
เรื่องราวของหญิงสาวที่ได้รู้มาแค่เพียงเสี้ยวเดียว ก็ทำให้ผู้ชายอย่างเจ้าสมุทร อดสงสารไม่ได้ ตัวเองเป็นตนเหตุที่ทำให้ หญิงสาวต้องเป็นแบบนี้จะรับผิดชอบแค่เงิน ก็รู้สึกว่าจะหน้าเกลียดเกินไป
" งั้น เอาแบบนี้นะครับ "
" ในเมื่อเธอไม่มีคนดูแล ผมก็จะอาสา พาเธอไปดูแลที่บ้านเอง ส่วนค่ารักษาพยาบาลในวันนี้และค่ายา ผมจะเป็นคนจ่ายให้ทั้งหมด "
" ผมเองก็... รู้สึกผิด ที่ประมาท จนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผมก็ควรที่จะรับผิดชอบ "
" ไม่ว่าคุยจะ ตัดสินใจยังไง หมอว่าคุณไปตกลงกับเธอ เองดีกว่านะครับ "
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะทำตามที่หมอว่า ตั้งแต่หญิงสาวฟื้น ตนยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยหรือขอโทษเธอเลยด้วยซ้ำ ..
ห้องพักฟื้น
หญิงสาวนั่งพิงไปกับหัวเตียง ก่อนจะเอามือโอบกอดตัวเองไว้แน่น ... นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทำไมเรื่องร้าย ๆ จะ ต้องมาเกิดกับเธอด้วย ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ถ้าตอนนี้เธอยังอยู่บ้านเด็กกำพร้า แม่ครูใจดี คงได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเอง จะถูกผู้ใหญ่ใจดีเอามาอุปการะเลี้ยงดู แต่โชคชะตานั้นก็ชอบกลั่นแกล้งคนอย่างเธอนัก คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ มีทั้งพ่อและแม่ แต่ กลับกัน จากผู้ใหญ่ใจดีในวันนั้น กับแปลงร่างกายเป็นพ่อเล้า แม่เล้า ทั้งคู่เอาแต่ทุบตีเธอ อย่างทารุณและใช้เธอทำนู้นนี่อย่างกับทาส มิหนำซ้ำ ยังจะเอาเธอไปบำเรอเสี่ยในซ่องอีก .... ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี 2 คนนั้นเกิดประสบอุบัติเหตุตายคาที ทำให้เธอหนีจากฝันร้ายนั้นมาได้...
แกร็ก~~
นั่งคิดไปคิดมาเสียงประตูก็เปิดออกแต่ไม่รู้ว่าใครกันที่เดินเข้ามา เพราะยังไม่มีเสียงเอ่ยเรียก ใด ๆ ....
" ....... "
" คะ .. ใครคะ คุณหมอใช่มั้ยคะ ? "
น้ำเสียงหวานเอ่ยถามคนที่เข้ามาใหม่ ... ชายหนุ่มได้แต่มอง และยังไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร เพียงแต่เดินเข้าไปใกล้ ๆ ตัวของหญิงสาว ไล่สายตามองดูแผลตามตัว ดูแล้วน่าจะเจ็บไม่น้อย
" คุณคะ .... ? ช่วยตอบหนูทีค่ะว่าคุณเป็นใคร ? "
" เป็นคนที่ชนบาดเจ็บแบบนี้ไง"
" หะ...ว่าไงนะ ? "
เมื่อเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี่คือใครก็หยุดชะงักไปชั่วครู่
" ฉัน... ขอโทษ เรื่องที่ฉันทำให้เธอตาบอดแล้วกัน "
"..... "
" ทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง ... ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาหรือค่ายา แม้แต่...."
" เหอะ !! รับผิดชอบยังไงคะ ? ..."
" ค่ายา! "
" ค่ารักษา ! "
" พูดง่ายดี นะคะ คนมีเงินแบบคุณ"
พอใจรู้สึก สมเพชผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าเขาแม้แต่นิดเธอก็รู้สึกเกลียดไม่น้อย ....
" คุณพรากดวงตาของฉันไป แล้วฉัน...ฮึกกก. จะหาเลี้ยงตัวเองยังไง ! "
" ..... "
" มันเป็นเพราะคุณคนเดียวเลย ฮือออ "
" ก็บอกว่าจะรับผิดชอบไง... ไม่เข้าใจหรอ ? "
" ไม่ใช่แค่ออกค่ารักษาค่ายา แต่ฉันจะเอาเธอไปให้คนของฉันดูแล จนกว่าเธอจะกลับมาหายเป็นปกติ "
" ...ไม่ต้องการหรอกค่ะ .."
" หนูไม่อยากเป็นภาระใคร .... "
หญิงสาวเบี่ยงหน้าไปทางอื่น .... เจ้าสุมทรเห็นแบบนี้แล้วก็นึก หัวอุ่น ขึ้นมา
" ปากดี จังเลยนะ ตาบอดแบบเธอจะไปทำอะไรได้ ห้ะ ? "
" ขาย ลอตเตอรี่ไงคะ "
" ห้ะ ???! ว่าไงนะ "
อยากจะขำ แค่ก็ขำไม่ได้ เพราะสถานนะการเป็นแบบนี้ เด็กคนนี้อวดดีไม่เบา ขนาดตามองไม่เห็นยังต่อปากต่อคำขนาดนี้แล้ว ...
" หนูไม่อยากเอาตัวหนู ไปเป็นภาระของใคร แค่พาหนูไปส่งที่ตลาด หนูหาเลี้ยงตัวเองได้ "
" คุณเองก็อย่าประมาทอีกนะคะ เพราะความประมาทของคุณมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน! "
ฟู่วว~
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออก มา สองมือยืนเท้าเอว จ้องมองใบหน้าของหญิงสาว ท่าทางพูดด้วยดีๆ คงไม่รู้เรื่องแล้ว ...งั้นต้องใช้ไม้นี้แล้วกัน เด็กมันจะได้กลัว
" อย่ารั้นให้มันมากนะ .... เธอตาบอดแค่ชั่วคราวอย่าเวอร์ "
" ... "
" ... ฉันก็รู้สึกผิดเลยอยากแสดงความรับผิดชอบ ... เธอเองไม่มีพ่อแม่คนดูแลไม่ใช่หรอ จะไปทำอะไรเองได้ .... คิดดี ๆ นะ ไม่ใช่แค่พูดทำให้ฉันดูแย่ "
" นะ...! นี่คุณ "
" ไม่ต้องพูด !! "
แป๊ะ!!!
" อื้อออ!! "
ปากว่า มือก็ถึง สองนิ้วชี้และกลาง ยื่นไปตบปาก หญิงสาวเบา ๆ เพื่อเป็นการเตือนว่าอย่าพูดแทรกขึ้นมา
" ฉันแค่จะแสดงความรับผิดชอบโดยการ พาเธอไปดูแลที่บ้าน จนกว่าจะหายดีเท่านั้น ล่ะพอเธอหายดี อยากไปไหนก็เชิญ ถือว่าฉัน รับผิดชอบเธอแล้ว "
" คุณรู้สึกผิดจริง ๆ หรือเปล่า ? "
" อือ .. ฉันรู้สึกผิด หรือเธอว่ามันยังไม่แฟร์ล่ะ ฉันจะดูแลจนกว่าเธอจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง จากนั้นเธอจะไปไหนก็ไป... ถือว่าเป็นอิสระต่อกัน ฉันรับผิดชอบเธอได้เท่านี้ "
" ..... "
" จะรับข้อเสนอไหม ... "
