บทที่สี่: เปลี่ยนงาน
บทที่สี่
เปลี่ยนงาน
หลังจากดาริกาพักผ่อนและรักษาตัวจนหายดี ตอนนี้เธอก็ได้ออกจากโรงพยาบาล
ภาวิกรณ์ ยอดชายและกมลวรรณเป็นห่วงเธอมาก ได้แต่เฝ้าดูหญิงสาวไม่ขาด
“ดาว่าจะไปทำงานที่ร้านขายอาหารทะเลน่ะค่ะ” เธอบอกออกมา ไปขอเป็นลูกมือ ช่วยเสิร์ฟ รับออเดอร์รวมถึงล้างจานให้ น่าจะได้เงินมากพอจะจ่ายให้ชายหนุ่ม
“จะดีหรือคะ งานเสิร์ฟอาหารเหนื่อยมากนะ คุณดาริกามาทำงานที่รีสอร์ตของนายหัวก็ได้นะคะ” กมลวรรณพูดขึ้นอย่างรู้สึกสงสาร ภาวิกรณ์รีบกระแอมไอทันที
“ใครบอกว่าฉันจะให้เขามาทำงานที่
รีสอร์ต”
กมลวรรณหน้ายู่ทันที “โธ่ คุณกรใจร้ายจริง ๆ คุณดาไม่มีทางไป ความจำก็เสื่อม ไม่คิดสงสารคุณดาบ้างเลยหรืออย่างไร”
ชายหนุ่มไม่ตอบ เขายังคงคิดแค้นหญิงสาวอยู่ที่เลือกทิ้งตนไปมีคนอื่น ดาริกาไม่เข้าใจว่าอีกคนจะวางมาดอะไรกับเธอนัก เป็นแค่คนรู้จักกันไม่จำเป็นต้องโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนั้นเลย
“ดาจะลองทำงานในร้านอาหารทะเลดูก่อนน่ะค่ะ ถ้าได้เงินมาก็ว่าจะเก็บไว้จนครบสองแสนแล้วค่อยมาคืนคุณกร” หญิงสาวบอก ก้มหน้าลงเล็กน้อย
“จริง ๆ ไม่ต้องคืนก็ได้นะครับ คุณกรเขายินดีจ่ายให้” ยอดชายบอก คนตัวสูงประเคนศอกเข้าซี่โครงลูกน้องจนร้องโอดโอย
“พูดมาก” เขากระซิบ
หญิงสาวจึงพูดขึ้น “ดาไม่อยากติดหนี้บุญคุณใครน่ะค่ะ ว่าจะหางานทำเพื่อหาเงินมาคืน”
ทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไรอีก กมลวรรณยังดูอาลัยอาวรณ์อดีตนายหญิง
“น้อยจะให้เบอร์โทรไว้ มีปัญหาอะไร คุณดาโทรมาได้เลยนะคะ...ส่วนนี่เป็นนามบัตรคุณกรค่ะ เก็บเอาไว้เผื่อต้องใช้วันใดวันหนึ่ง” เธอแอบส่งข้อมูลส่วนตัวให้อีกคน เผื่อขาดเหลืออะไรจะได้ติดต่อมา
ร่างบอบบางยื่นมือไปรับ ก่อนจะเอาบัตรเข้ามาเก็บในกระเป๋า เธอยกมือไหว้คนแก่กว่าแล้วขอตัวลา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อย่างไรดาขอลาตรงนี้นะคะ” หันไปมองคนตัวสูงแล้วยกมือไหว้อีกรอบ อีกคนไม่สนใจ ทำให้ยอดชายต้องบอก
“คุณดาอุตส่าห์ไหว้นะครับนาย”
“เออ ๆ ” เขารับไหว้ ทำเหมือนไม่อยากจะอยู่หายใจร่วมโลกกับหล่อน ดาริกาเห็นท่าทางของอีกคนแล้วได้แต่งุนงง ถ้าไม่ชอบเธอขนาดนั้นจะเสียสละพาเธอมาส่งโรงพยาบาลทำไมก็ไม่รู้
แปลกคนจริง...
เธอคิด
ร่างนางแบบเดินหาร้านขายอาหารที่รับสมัครพนักงาน ทว่ายิ่งหา ยิ่งไม่เจอ ส่วนมากร้านอาหารชายทะเลมักมีคนมาคอยให้บริการอยู่แล้ว ทุกร้านแน่นเอี๊ยดไปด้วยบรรดาเด็กเสิร์ฟ
หญิงสาวทอดถอนใจ เพราะเดินหาจนตกเย็นจึงทำให้เธอเหนื่อยล้า ต้องการพัก โชคดีที่มีร้านอาหารขาดคนพอดี เธอเลยได้สมัครเป็นพนักงานที่นั่น
ดาริกาแต่งตัวด้วยผ้ากันเปื้อน คอยจด
ออเดอร์อาหารให้ลูกค้าแล้วเอาไปส่งที่ครัว เมื่อแม่ครัวทำอาหารเสร็จก็จะให้เธอเอาไปเสิร์ฟที่โต๊ะ
โชคดีที่ร้านอาหารมีที่พักให้เธอด้วย หญิงสาวเลยไม่ต้องลำบากไปหาห้องพัก
การทำงานวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่น กมลวรรณคอยโทรมาสอบถามเธออยู่เสมอว่ามีอะไรขาดเหลือให้ช่วยหรือไม่ แต่หญิงสาวปฏิเสธ
เพราะว่าร่างกายยังเหนื่อยล้าประกอบกับเพิ่งออกจากโรงพยาบาล นั่นทำให้เธอต้องนั่งพักอยู่บ่อย ๆ
เจ้าของร้านดูไม่ค่อยพอใจที่เธอพักผ่อนนานกว่าคนอื่นเลยเริ่มติติง
“พักอีกแล้วหรือดา พักนานแบบนี้รับลูกค้าได้น้อยมากเลยนะ” เธอบอก เจ้าของร้านทราบมาว่าเธอเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ปกติแล้วให้เธอพักได้ แต่ดูเหมือนสภาพของหญิงสาวจะอ่อนแอเป็นพิเศษ ทำให้ยกอาหารไปเสิร์ฟลูกค้าไม่ได้
“ดาคอยรับออเดอร์อย่างเดียวได้ไหมหรือคะ รู้สึกไม่ค่อยดีจริง ๆ ค่ะ” หญิงสาวร้องขอ เจ้าของร้านทอดถอนใจ
“อืม ๆ ได้” เธอบอกแล้วเดินหายเข้าห้องไป หญิงสาวรู้สึกน้ำตาจะไหล นี่เป็นงานแรกที่ทำแต่ก็ทำให้คนอื่นไม่พอใจเสียแล้ว
ดาริกานึกโทษตัวเองที่แข็งแรงไม่พอ ไม่สามารถยกอาหารไปเสิร์ฟให้กับลูกค้าได้เหมือนคนอื่น
หลบไปร้องไห้เงียบ ๆ ในห้องน้ำเพียงลำพัง เมื่อเดินออกมายังแอบได้ยินเขานินทาตัวเองอีกต่างหาก
“ยัยดานี่สำออยหรือเปล่า ทำเป็นบอกเจ้าของร้านว่าตัวเองป่วยเพิ่งเข้าโรงพยาบาล เข้าจริงหรือเปล่ายังไม่รู้ แล้วเสิร์ฟอาหารทีนี่แทบจะไม่มีแรง”
เด็กเสิร์ฟคนอื่นนินทาตน มองมาทางเธออย่างไม่พอใจ ดาริการู้สึกเศร้า แต่เพราะทำอะไรไม่ได้ เธอเลยตั้งใจจะขยันมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ยิ่งตั้งใจ ยิ่งรู้สึกหน้ามืด โลกหมุนจนแทบจะเป็นลม จดออเดอร์ได้ไม่นานเธอก็เป็นลมหมดสติไป
เมื่อฟื้นขึ้นมาก็เห็นเจ้าของร้านอาหารกำลังเอายาดมให้อยู่
“ไหวไหมเนี่ย ดา” เธอถามด้วยความเป็นห่วง คนที่เพิ่งฟื้นขึ้นมารีบยกมือไหว้
“ขอโทษนะคะที่ทำให้เจ้าของร้านต้องเสียเวลามาดูแล” เธอบอกด้วยความรู้สึกผิด
“ถ้าป่วยก็ยังไม่ต้องรับงานสิ นี่รับงานแล้วมาเป็นลมเป็นแล้งในร้านบ่อย ๆ แบบนี้ มันกระทบต่อรายได้ของร้านนะ” เจ้าของร้านบ่นออกมาอย่างเซ็ง ๆ ตอนแรกเธอค่อนข้างเห็นใจหญิงสาวที่ไม่มีงานทำเลยรับเข้ามา ไม่คิดว่าอีกคนจะป่วยกระเสาะกระแสะถึงขั้นทำงานไม่ได้
“ต้องขอโทษเจ้าของร้านด้วยจริง ๆ นะคะ ถ้ามีอะไรที่หนูพอช่วยได้ หนูจะช่วยอย่างเต็มที่ค่ะ” ดาริกาบอก เจ้าของร้านส่ายหัว
“พักผ่อนให้หายดีเสียก่อน ระหว่างนี้จะลองหางานอื่นให้ทำดู” เจ้าของร้านบอกก่อนเดินออกไป หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงในห้อง น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย
เธอไม่อยากเป็นแบบนี้ ไม่มีแรง ไม่มีเงิน ไม่มีงาน
และไม่รู้จะทำอย่างไรให้ตนหายดี...
อีกทางด้านหนี่ง
กมลวรรณรู้สึกเป็นห่วงอดีตนายหญิงของเกาะ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เธอเลยสะพายกระเป่าหอบข้าวของตรงออกจากเกาะมาเยี่ยมอีกฝ่ายถึงห้องพัก
ดาริกาที่ร้องไห้มาร่วมชั่วโมง เดินออกมาต้อนรับอีกฝ่ายทั้งที่ดวงตายังเต็มไปด้วยรอยแดงก่ำ กมลวรรณเมี่อเห็นสภาพของเจ้านายเก่าก็อดสงสารไม่ได้
“ใครทำคุณดาเป็นอย่างนี้หรือคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ดาแค่ป่วยเลยไปทำงานไม่ได้เท่านั้น” หญิงสาวบอก น้ำตาไหลอาบหน้า
กมมลวรรณเห็นแล้วใจคอไม่ค่อยดี
“เอาอย่างนี้ไหมคะ คุณดา มาทำงานที่
รีสอร์ตนายหัวกัน ยังมีงานให้ทำอีกหลายตำแหน่งเลย ไม่ต้องยกอาหารไปเสิร์ฟให้เหนื่อยด้วย” เธอพูดบอก ในเมื่ออีกฝ่ายเคยเป็นเจ้านายเก่าของตน เธอก็อยากให้อีกคนทำงานสบาย ๆ ไม่ต้องลำบาก
“แต่คุณกรเขาจะไม่ว่าหรือคะ ปกติก็ไม่ชอบขี้หน้าดาอยู่แล้ว” หญิงสาวบอกออกมา กมลวรรณส่ายหัวเป็นพัลวัน
“เขาก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ปากร้าย จริง ๆ แล้วใจดี เขาไม่ถือสาอะไรหรอก ตรงกันข้าม คงอยากให้คุณดาไปทำงานที่นั่นด้วยซ้ำ”
ดาริกาได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
“ถ้าคุณกรไม่ว่าอะไร อย่างนั้นดาก็อยากจะทำงานให้เขาค่ะ”
