ตอนที่ : 15 ความฝัน 3
“ดีเหมือนกันค่ะ” ป้าน้อยพยักหน้าเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย
“แล้วเราจะเริ่มทำตรงไหนก่อนล่ะครับคุณหนูเพลิน” ลุงมาถามขึ้นบ้าง
“เริ่มด้วยการปรับปรุงไร่ให้ไม่รกก่อนค่ะ เราจะตัดหญ้าตรงรั้วด้านหน้าที่ติดกับถนน ซ่อมแซมป้ายพร้อมทาสีใหม่ เอาไว้เราพร้อมเปิดฟาร์มเมื่อไหร่ เพลินจะทำป้ายไร่เป็นรูปขนมปังค่ะให้นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปกันค่ะ”
หลังจากปรึกษากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็ลงความเห็นกันว่าสมควรตัดหญ้าได้เลยในวันรุ่งขึ้น พาเพลินกับป้าน้อยเป็นคนขับรถกระบะเก็บเศษหญ้าตามหลังลุงมา ซึ่งเป็นคนลงมือตัดหญ้าเองทั้งหมดเพียงคนเดียว ทำให้งานในวันแรกคืบหน้าไปได้ค่อนข้างช้า
“แถวนี้มีคนรับจ้างตัดหญ้าบ้างไหมลุงมา จะได้เสร็จเร็ว ๆ” วันถัดมาพาเพลินถามหาคนช่วยผ่อนแรงลุงมา เพราะดูแล้วกว่าจะตัดหญ้าเสร็จทั้งไร่ได้ คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันเป็นแน่
“ก็พอมีนะครับคุณหนูเพลิน แต่ชาวบ้านทั่วไปเขาจะตัดด้วยมือกันเสียส่วนใหญ่ ถ้าเป็นเครื่องตัดหญ้าแบบนี้ไม่ค่อยมีครับ มีก็แต่คนงานไร่คุณเหนือเมฆครับเห็นตัดกันเป็นประจำ” ลุงมาบอกเท่าที่เคยเห็นผ่านตามา
“ไร่คุณเหนือเมฆเหรอคะ เอ่อ น้องสาวของคุณเหนือเมฆนี่ใช่คุณผลิขวัญไหมลุงมา” แม้จะรู้อยู่แล้วแต่ก็อดถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจไม่ได้
“ใช่ครับ คุณขวัญเป็นน้องสาวของคุณเหนือเมฆครับ ว่าแต่คุณหนูเพลินรู้จักคุณขวัญด้วยเหรอครับ”
“ค่ะ บังเอิญเจอกันที่ตลาดวันก่อน แล้วก็ได้คุยกันบ้างนิดหน่อยที่หน้าไร่”
“คุณขวัญเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของคุณเหนือเมฆครับคุณหนูเพลิน ใคร ๆ ก็รักเธอเพราะว่าเธอเป็นคนใจดีครับ” ลุงมามีสีหน้ายิ้มแย้มยามเอ่ยถึงผลิขวัญ แสดงว่าทุกคนแถวนี้คงจะชื่นชอบหญิงสาวอยู่ไม่น้อย
“ตรงกันข้ามกับพี่ชายใช่ไหมคะ” หญิงสาวอดที่จะแขวะคนพี่ไม่ได้
“ก็นิดหน่อยครับ คุณเหนือเมฆแกก็ดีนะครับแค่แกดุไปหน่อย แต่เวลาใครเดือดร้อนอะไรแกช่วยเหลือเต็มที่เลยครับ” ท้ายคำพูดลุงมาแอบขำเล็กน้อย
“ไม่จริงมั้งคะคนแบบนั้น”
“จริงนะครับคุณหนูเพลิน เว้นแต่เรื่องที่ไร่ของเรา สงสัยแกอยากได้จริง ๆ อยากจะขยายไร่โน้นให้ใหญ่ขึ้นมั้งครับ ได้ยินคนงานเขาลือกัน”
“แบบนี้นี่เอง อยากจะขยายไร่ตัวเอง เลยมาเบียดเบียนไร่คนอื่น น่าเกลียดชะมัด”
“พูดแบบนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียวนะครับคุณหนูเพลิน คุณอรรถเอาไร่ไปจำนองกับเขาเอง เมื่อเราไม่มีจ่ายเขาก็มีสิทธิ์ยึดนะครับ อย่าไปโทษคุณเหนือเมฆแกเลยครับ” ลุงมาออกความเห็นเป็นกลาง ไม่อยากให้พาเพลินโทษเหนือเมฆแต่ฝ่ายเดียว
“เรื่องนั้นเพลินเข้าใจค่ะ ลุงมาขนของขึ้นรถไปก่อนนะคะ เดี๋ยวเพลินจะลองโทรไปถามคุณขวัญดูก่อน ว่าพอจะมีคนงานตัดหญ้าให้เราจ้างบ้างไหม”
“ได้ครับคุณหนูเพลิน”
พาเพลินล้วงนามบัตรของผลิขวัญออกมา ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจโทรหาน้องสาวของคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้าเป็นที่สุด
“สวัสดีค่ะคุณขวัญ นี่เพลินเองนะคะที่อยู่ไร่ติดกัน” พาเพลินรีบแนะนำตัวเองทันทีที่ปลายสายกดรับ
“คุณเพลินเองเหรอคะ ดีใจจังเลยที่คุณเพลินโทรหาขวัญ” ผลิขวัญยิ้มออกทันทีเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร ทำให้พี่ชายที่นั่งจิบกาแฟอยู่ข้าง ๆ ตาโตขึ้นอย่างแปลกใจ ไม่ต่างจากผู้เป็นมารดาซึ่งหันไปสบตากับลูกชายอย่างสงสัย
“เพลินไหนกันล่ะเมฆ ทำไมน้องสาวเราทำหน้าดีใจแบบนั้นด้วย ผิดปกติมากนะแม่ว่า” นางมุกดาถามลูกชายเบา ๆ
“นั่นสิครับผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าใช่คนที่ผมคิดไว้ไหม” เหนือเมฆยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ ตาก็มองน้องสาวที่กำลังทำหน้าระรื่นคุยโทรศัพท์ไปด้วย สองแม่ลูกยังไม่อยากรบกวนคนกำลังคุยโทรศัพท์ จึงรอให้ผลิขวัญคุยจบก่อนถึงค่อยถาม
“ว่าไงคะคุณเพลินเงียบไปเลย” ผลิขวัญถามหลังจากปลายสายนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจหนึ่ง
“คือเพลินอยากจะจ้างคนงานของคุณขวัญให้มาช่วยตัดหญ้าที่ไร่ให้หน่อยค่ะ เมื่อวานลุงมาตัดคนเดียวทั้งวันยังไปไม่ถึงไหนเลย ไม่ทราบว่ารบกวนคุณขวัญหรือเปล่าคะ แต่เพลินจ้างนะคะไม่ได้ให้มาทำฟรี ๆ”
“เรื่องนี้นี่เองไม่รบกวนเลยค่ะคุณเพลิน เดี๋ยวขวัญถามพี่เมฆแป๊บนะคะ” ผลิขวัญบอกแล้วก็หันไปมองพี่ชายตัวเองด้วย
‘เอ๊ะ ทำไมต้องถามหมอนั่นด้วย’
“ว่า” เหนือเมฆหันไปทำตาดุใส่น้องสาว หลังได้ยินชื่อตัวเองในบทสนทนาของทั้งคู่
“คุณเพลินอยากจ้างคนงานของเราไปตัดหญ้าที่ไร่ของเธอค่ะ วันนี้มีคนว่างไหมพี่เมฆ ขวัญยังไม่ได้ดูรายงานเช้านี้เลย” ผลิขวัญถามพี่ชายที่ได้ดูรายงานประจำวันก่อนหน้านี้แล้ว
“ก็ว่างอยู่ ว่าแต่คุณเพลินนี่อย่าบอกนะว่าเป็นคนเดียว...”
“คนงานว่างค่ะคุณเพลิน เดี๋ยวขวัญจัดการให้นะคะ” ผลิขวัญหันไปพูดกับปลายสาย แทนการตอบคำถามของพี่ชาย
“เฮ้ย พี่ยังไม่ได้อนุญาตเลยนะยัยขวัญ” เสียงของเหนือเมฆแทรกขึ้นดัง ๆ ทำให้พาเพลินได้ยินอย่างชัดเจน
“ถ้าพี่ชายคุณไม่โอเคก็ไม่เป็นไรนะคะคุณขวัญ” พาเพลินบอกอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณเพลิน ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของพี่เมฆเขาหรอกค่ะ เดี๋ยวขวัญจัดการเรื่องคนงานให้เองนะคะ” ผลิขวัญขึงตาใส่พี่ชายอย่างไม่พอใจ
“ขอบคุณมากค่ะคุณขวัญ” พาเพลินยิ้มออกหลังได้ยิน การที่ผลิขวัญพูดออกมาอย่างมั่นใจแบบนี้ แสดงว่าหญิงสาวต้องสามารถต่อรองกับพี่ชายได้อย่างแน่นอน
“งั้นแค่นี้ก่อนนคะคุณขวัญ”
“ค่ะ เดี๋ยวได้เรื่องยังไงขวัญโทรไปแจ้งอีกทีนะคะคุณเพลิน”
