บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ผนึกที่ถูกทำลาย

ตอนที่ 3

ท่ามกลางฝุ่นผงกระจัดกระจายมากมายในโถงถ้ำนั้น ราชาปีศาจเฉาเฟิง ผู้ซึ่งถูกผนึกโดยเทพสงครามเมื่อหลายหมื่นปีก่อน ได้หลุดพ้นออกสู่โลกนี้อีกครั้งพร้อมเปลวไฟโลกันต์ลุกรายล้อมอยู่รอบตัวเขา

“ ในที่สุดข้าก็ได้ออกจากผนึกนี้สักที “ ทันทีที่จบประโยชน์ราชาปีศาจก็ระเบิดพลังออกไปอย่างสุดแรง แผ่นดินเกิดสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งป่าเขา ทั่วฟ้ามืดครึ้มลมพัดแรงดังพายุเข้า ไม่นานนักก็สงบลง เค้ามองไปที่กลุ่มคนตรงด้านหน้า

พบหนึ่งคนตรงนั้นมีตราสัญลักษ์รูปจันทร์เสี้ยวที่มีแต่เผ่าปีศาจเท่านั้นที่จะมองเห็น มันคือตราสัญลักษ์ของเผ่ามนุษย์ที่ทำข้อตกลงเป็นข้ารับใช้ให้กับเผ่าปีศาจ และสามารถของอะไรก็ได้หนึ่งครั้งตลอดช่วงชีวิตของมนุษย์ เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน

ราชาปีศาจเฉาเฟิงพุ่งตัวเป็นลำแสงสีน้ำเงิน มาหยุดตรงหน้าชีเหนียง สตรีผู้ที่มีตราพระจันทร์เสี้ยวอยู่บนต้นคอ

“ เจ้าช่างภักดียิ่งนัก ข้ารับใช้ของข้า ข้าจะให้รางวัลเจ้า”

“คุณ....คุณ เป็นใครทำไม่ถึงออกมาจากหลังก้อนหินนั้น ”

“ ข้าคือราชาปีศาจเฉาเฟิง ราชาแห่งเผ่าปีศาจ เจ้าข้ารับใช้เจ้าทำเช่นไรถึงปลดผนึกให้ข้าออกมาได้ ”

“ ข้ารับใข้..... อะไร บ้าเปล่านี้ และคุณน่ะมาอยู่ให้ถ้ำได้ยังไง ”  (ท่าจะสติไม่ดี ) ชีเหนียงบ่นพึมพำกับตนเอง

“ เจ้าพูดอะไร ข้าบอกว่าข้าคือราชาแห่งเผ่าปีศาจ และเจ้าผู้มีตราสัญลักษ์ข้ารับใช้ อยู่บนตัวเจ้า ”

ราชาปีศาจเฉาเฟิงกล่าวพร้อมเอื้อมมือลูบต้นคอรหงนั้น ชีเหนียงรีบปัดออก

“ นี้จะทำบ้าอะไร ราชาปีศาจ เผ่าปีศาจอะไร นี้มันยุคไหนแล้ว ท่าจะดูละครมากไปมั่ง ”

“ เจ้านี้มัน .......” ราชาปีศาจเฉาเฟิงกัดฟันกรอด เขาฝายฝ่ามือออกหมายจะเรียกไฟโลกันต์สั่งสอนสตรีปากมากตรงหน้า แต่... แต่ ไร้ซึ่งไฟโลกันต์ มีแต่ความว่างเปล่า

“ นี้มันเกิดอะไรขึ้น ตัวข้าเป็นอะไรไป ทำไม่ถึงใช้พลังไม่ได้ทั้งที่เมื่อครู่ข้ายังระเบิดพลังออกมาได้อยู่ ”

ชีเหนียงยืนมองด้วยสายตาสงสัยปน รำคาญ

“ พลังอะไรอะไรของคุณ แค่หินมันแตกพื้นดินมันอาจจะเคลื่อนพอดีจึงเกิดแผ่นดินไหวทำให้หินมันแตก ”

"ไม่จริงเมื่อครู่ที่ข้ารู้สึกตัว เพราะผนึกมันเริ่มคายออก ทำให้ข้ารวบรวมพลังได้ ระเบิดผนึกนั้นที่กักขังข้าออกมา พวกเจ้าไม่เห็นหรือ ”

“ ไม่ เมื่อครู่ฝุ่นเข้าตาฉันอยู่ พวกนายล่ะ อาฉี อาเฟย เห็นอะไรบ้างใหม ”

“อาฉี ไม่เห็นครับฝุ่นเข้าตาจนแสบตาไปหมด “ “ ผมก็ไม่เห็นครับชีเหนียง ”

(นี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมข้าใช้พลังไม่ได้เรียกไฟโลกันต์ก็ไม่ได้ หรือเป็นเพราะข้าถูกผนึกมานานคงต้องใช้เวลาฝืนฟูพลังก่อน งั้นข้าจะแกล้งทำตามน้ำ สตรีนางนี้ไปก่อนเพราะยังไงนางก็เป็นข้ารับใช้ของเผ่าข้า)  เฉาเฟิงครุ่นคิดในใจ

จู่ ๆ เพดานถ้ำก็เกิดสั่นไหว ก้อนหินร่วงหล่นทุกคนเริ่มลนลานตื่นตระหนก ยืนไม่ไอยู่เซไปเซมาตามแรงสั่นไหว

“ ไม่ได้การแล้ว แล้วพี่ชีเหนียง ถ้ำนี้จะถล่มลงมาแล้ว เรารีบออกจากที่นี้กันก่อนเถอะ ”

อาฉีตระโกนฝ่าเสียงแตกร้าวดังก้องที่ออกมาจากพนังและเพดานถ้ำ

“ อาฉี อาเฟย สำรวจดูทุกคนปลอยภัยไหมและรีบออกจากถ้ำนี้ให้เร็วที่สุด แล้วคุณล่ะ จะอยู่รอให้หินทับตายหรือไง รีบไปเร็ว ”

ชีเหนียงคว้าแขนชายตรงหน้าวิ่งฝ่าฝุ่นและหินที่กำลังหล่นลงมา ใจก็คิดแค่ช่วยให้ออกมาก่อนไม่อย่างนั้นก็ถูกหินทับตายแน่ ราชาปีศาจเฉาเฟิงถูกสตรีตรงหน้าคว้าแขนให้วิ่ง เขาก็วิ่งตามนางมาอย่างงงงวยและสับสน ว่าคนพวกนี้เหตุใดจึงทำให้ผนึกที่เทพสงครามกักขังตนไว้คายออกอย่างง่ายดาย และพลังของเค้าที่เหตุใดถึงไม่สามารถใช้มันได้

ตลอดทางที่หนีออกจากถ้ำแห่งนี้ ก้อนหินขนาดเล็กและใหญ่หล่นไล่ตามพวกของชีเหนียงมาติด ๆ ในที่สุดทุกคนก็ออกมาพ้นปากถ้ำได้สำเร็จ ปากถ้ำก็ถูกปิดตายด้วยหินก้อนใหญ่ที่หล่นทับกันจนมิดปากถ้ำ ทุกคนนั้งพักเหนื่อยด้วยสภาพที่เสื้อผ้าเนื้อตัวผมเผ้าเปื้อนดินและฝุ่น

“ จบกันเลย ไม่ได้อะไรติดมือออกมาเลย ” อาเฟยพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ

“ ใช่ อยู่ดีๆ แผ่นดินเกิดไหวขึ้นมาแบบนี้ได้ไง นี้คุณ คุณอยู่หลังหินก้อนนั้นตั้งแต่เมื่อไร แล้วด้านหลังหินนั้นคุณเจออะไรบ้างไหม ”

“ ข้าบอกว่าข้าคือรา...... ”

“ โอ้ย พอเลยไม่ต้องพูดแล้วราชงราชา เผ่าปีศาจอะไร ”

ชีเหนียงพูดตัดบทเพราะดูแล้วชายคนนี้น่าจะสติไม่ดีแน่ ๆ

“ เจ้า ..... ”  (สตรีนางนี้น่าแปลกยิ่งนัก อาภรณ์ก็แปลก นิสัยหยาบกระด้าง อยากจะฆ่าให้ตายข้ามือข้ายิ่งนัก ถ้าไม่ใช้เพราะตราสัญลักษ์นั้นนะ แต่ข้าคงต้องพึงนางไปก่อนระหว่างที่ข้ายังใช้พลังไม่ได้) เจาคิดในใจ

“ พี่ชีเหนียง ดูที่มือเค้าซิ ” 

ชีเหนียงมองตามที่อาฉีกระซิบบอก พึงสังเกตว่ามืออีกข้างของเขากำกระบี่เล่มยาวลวดลายดูประณีตแปลกตา ที่จับประดับไปด้วยอัญมณีล้ำค่า น่าจะเป็นของเก่าโบราณ ชีเหนียงจึงเริ่มมองสำรวจชายคนนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง

ชายคนนี้รูปร่างผอมบาง ตัวสูง ใบหน้าของเขาเรียวแก้มตอบ สีผิวขาวซีด ดวงตาคมเรียว นัยต์ตาสีดำขลับดูเย็นชา หางคิ้วชี้ขึ้น ริมฝีปากบางหยักไว้รูป การแต่งกายแปลกๆเหมือนชุดเก่าสมัยโบราณ เส้นผมยาวๆ ถูกมัดรวมไว้ดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยและปิ่นที่ปักอยู่ดูแล้วคงมีราคาสูงมาก

“ อืม ... ดูรวมๆแล้วชายคนนี้หน้าตาดีไม่น้อยเลยนะ ”

“ พี่ พึมพำอะไร ” อาฉีถามด้วยความสงสัย

“ เอ้ย ไม่ใชาแค่จะพูดว่า ชายคนนี้ทั้งตัวเขามีแต่ของโบราณและคงมีค่ามากอย่างที่พวกเราตามหา เราต้องพาเขากับไปด้วย”

“ เออ คุณชื่ออะไรนะ ”

“ เฉาเฟิง "

“ ตอนนี้เรากำลังจะกับบ้านแล้ว คุณจะไปไหนต่อมีที่ที่จะไปหรือยัง หรือคุณจะเดินทางไปกับเรามั่ย"

“ ไป “ เฉาเฟิงตอบด้วยท่าทีที่เรียบเฉย

“ พี่ชีเหนี่ยง จะดีหรอ อาเฟยว่าเขาดูแปลกๆนะ ”

“ ไม่เป็นไรหรอก ดูซิตัวคนเดียวไม่มีพิษสงอะไร ทิ้งไว้ที่นี้ก็อาจจะอดตายหรือโดนเสือลากไปกินตายอยู่ที่นี้ก็ได้อาเฟย ”

“ พี่นี้ก็ใจดีตลอด ช่วยเหลือคนไปทั่ว ”

“ เอาหน้า ทุกคนพักอีกสักหน่อยแล้วเราเดินทางกัน ”

หลังจากผนึกถูกปลดออก แผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่วทั่งปฐพีสี่สมุทร ท้องฟ้ามืดครึ้ม องค์เง็กเซียนเผ่าเทพรับรู้ได้ถึงพลังไฟโลกันต์ของราชาปีศาจ แต่เพียงชั่วครูเท่านั้นพลังนั้นก็หายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

จึงให้เทพสงครามซีฮ่าว เทพสงครามองค์ปัจจุบันผู้รับตำแหน่งต่อจาก เทพสงครามเยว่หมี ที่ใช้ดวงจิตผนึกราชาปีศาจเฉาเฟิงจนดวงจิตแตกสลายตายไป ให้เทพสงครามซีฮ่าวลงไปตรวจสอบดูที่เผ่ามนุษย์ไม่นานนักก็มาถึงเขาอู่หลิงหยวน

ก็พบว่าผนึกนั้นถูกทำลายไปแล้วและไม่พบร่องรอยของราชาปีศาจ พบเพียงแต่ร่องรอยของมนุษย์ธรรมดากลุ่มหนึ่ง จึงรีบกับไปรายงานให้ องค์เง็กเซียนทราบ

องค์เง็กเซียนเกิดความสงสัยเหตุใดผนึกถึงถูกปลดออกทั้งที่ไม่มีผู้ใดสามารถปลดมันได้นอกจากเทพสงครามเยว่หมี ผู้ที่เสียสละดวงจิตตนเองสร้างผนึกนี้ขึ้นมาจนตนเองดวงจิตแตกสลายตายไป และราชาปีศาจเฉงเฟิงเหตุใดถึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย

องค์เง็กเซียนทรงคาดการณ์ว่าราชาเฉาเฟิงที่พึงหลุดพ้นการผนึกคงบาดเจ็บหรือสูญเสียพลังคงไม่อาจที่จะกระทำการใดได้ในเร็ววันนี้ และกลุ่มมนุษย์กลุ่มนี้น่าสงสัยที่สุดเหตุใดจึงมีร่องรอยอยู่บริเวรผนึกที่กักขังราชาปีศาจ จึงออกคำสั่งให้เทพสงครามไปสืบหาความที่เผ่ามนุษย์อีกครั้ง

ไม่เพียงแต่เผ่าเทพที่รับรู้ถึงพลังของราชาปีศาจเฉาเฟิง พวกเผ่าปีศาจเองก็มังผัสได้เช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือไป่รุ่ย องค์รักษ์คนสนิทของราชาปีศาจเฉาเฟิง ไป่รุ่ยจึงรีบออกตามหาทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel