บท
ตั้งค่า

บทที่1.จบตอน

“จีจี้... ฉันอยากอ้วก...” อยู่ๆ อังศณาก็เอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรวิ่งวนปั่นป่วนอยู่ในท้องของเธอ และเริ่มรู้สึกวิงเวียนอย่างบอกไม่ถูกเมื่อทั้งเต้นทั้งดื่มอย่างเมามันไปสักระยะ...

“อ้าว.. เฮ้ยแก... อย่าเพิ่งมาปล่อยตรงนี้ ไปๆ เดี๋ยวฉันพาไปห้องน้ำ”

“ไม่ต้องๆ ฉันไปเองได้ แกไปอยู่เป็นเพื่อนร็อบก็ได้” อังศณาพูดอ้อแอ้โบกไม้โบกมือวุ่นวาย

“ไหวแน่นะแก...”

“อืมมม... ฉานไปห้องน้ำแล้วนะ...” แล้วอังศณาก็เดินเซนิดๆ ไปยังทางเดินที่ตรงไปห้องน้ำหญิงทันที

ในขณะเดียวกันนั้นปฐวินซึ่งเดินลงมาหมายจะเข้าไปหาหญิงสาวที่ตนหมายตา แต่พอมาถึงชั้นล่างก็ไม่เจอเจ้าหล่อนจึงได้แต่ยืนบ่นอย่างหัวเสีย...

“อ้าว... หายไปไหนแล้ววะ แม่สาวเท้าไฟของฉัน บ้าชะมัดใครมาตัดหน้าวะ” ปฐวินสบถอย่างหัวเสีย พลันสายตาของเขาก็หันไปพบกับใครบางคนซึ่งมันก็ทำให้เขาคลายความหงุดหงิดลงได้บ้าง...

“ร็อบ... คุณนั่นเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับเนี่ย...”

ปฐวินตรงเข้าไปทักทายโรบินซึ่งเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่เป็นลูกค้าประจำชั้นเฟิร์สคลาสของโรงแรมในเครือของเขา และโรบินก็เป็นหนึ่งในนักธุรกิจชั้นแนวหน้าซึ่งเป็นบุคคลที่เขารู้จักเป็นอย่างดีเพราะเคยร่วมงานและพบเจอกันในงานเลี้ยงสังสรรค์ของบรรดานักธุรกิจเป็นประจำ

“ยินดีที่ได้พบคุณที่นี่นะวิลล์... จีจี้รับนี่คุณวิลล์เพื่อนผมเอง วิลล์ครับนี่แจ็กเกอร์รีนคนรักของผม” โรบินเรียกปฐวินว่า วิลล์ สั้นๆ อย่างคุ้นเคยและเชื้อเชิญให้เขานั่งร่วมโต๊ะแล้วแนะนำแฟนสาวของตนกับชายหนุ่ม

“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแจ็กเกอร์รีน”

“เช่นกันค่ะ... แต่เอ... จีจี้รู้สึกเหมือนเคยเห็นหน้าคุณที่ไหนมาก่อนนะ...” แจ็กเกอร์รีนยิ้มทักทายปฐวินแล้วนึกว่าเขาดูคุ้นๆ หน้า เหมือนเธอเคยเห็นเขามาก่อน

“โธ่ที่รักครับ วิลล์เขาคนดังจะตายไปก็หนุ่ม เพลย์บอยร้ายไร้หัวใจ ที่เป็นข่าวบ่อยๆ ไงล่ะครับ แต่ผมว่าเจ้าตัวเขาคงไม่ปลื้มกับฉายานี้สักเท่าไหร่...” โรบินเอ่ยยิ้มๆ กับแฟนสาวพลางยิ้มให้ปฐวินซึ่งส่ายหน้าหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี

“จริงเหรอคะ...”

“ผมว่านักข่าวเขียนข่าวเกินจริงไปนิดนะครับ ผมก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง”

“แหม... หากไม่บอกก็คงไม่รู้นะคะเนี่ย”

“ที่รักจะบอกว่าเคยวิจารณ์วิลล์ด้วยใช่มั้ยครับ...”

โรบินเย้าแฟนสาวซึ่งแจ็กเกอร์รีนก็ค้อนคนรักอย่างไม่จริงจังนักและยอมรับว่าเธอเคยวิจารณ์ปฐวินให้เขาฟังบ่อยๆ ว่าผู้ชายอะไรร้ายชะมัดและเธอยอมรับไม่อายว่าเคยพูดเช่นนั้นจริงๆ

“จริงๆ เหรอครับ แล้วพอมาเจอผมตัวเป็นๆ แล้วคุณแจ็กเกอร์รีนว่าผมเป็นอย่างนั้นมั้ยครับ”

“จีจี้คิดว่าคนเราทุกคนมีมุมมองที่ต่างกันค่ะ คนดีของเขาอาจจะไม่ใช่คนดีของเรา ของแบบนี้แล้วแต่ความคิดของใครของมันค่ะ ส่วนเรื่องของคุณจีจี้อ่านข่าวก็แค่อ่านไปเท่านั้นแล้วก็พูดถึงแค่ช่วงนั้นหลังจากนั้นก็ไม่สนใจหรอกค่ะ อีกอย่าง หากเราจะมัวมาสนใจแต่ข่าวไร้สาระพวกนั้นคอยแต่จะทำให้คนอื่นรักและชื่นชมเราไปเสียหมด แคร์คำพูดของคนรอบข้างไปเสียหมดก็ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี จริงไหมล่ะคะ...”

“ผมพูดได้คำเดียวเลยว่า ร็อบโชคดีมากที่ได้คุณเป็นคนรักและกำลังจะมาเป็นภรรยาในอนาคต...”

ปฐวินกล่าวชื่นชมแจ็กเกอร์รีนอย่างเปิดเผย ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่ดูเปรี้ยวจี๊ดอย่างแจ็กเกอร์รีนจะมีความคิดเช่นนี้ และหากเธอเป็นหญิงสาวอย่างแท้จริงมาตั้งแต่กำเนิดไม่แน่ว่าชายหนุ่มทุกคนคงแย่งชิงเธอมาเป็นภรรยากันอย่างดุเดือดแน่นนอน... .

ทั้งสามนั่งคุยกันอย่างเป็นกันเองเพราะโรบินและปฐวินนั้นรู้จักกันอยู่ก่อนแล้วและชายหนุ่มทั้งสองก็คุยเก่งและมีอารมณ์ขันทำให้แจ็กเกอร์รีนรู้สึกชื่นชมปฐวินอยู่ไม่น้อย หนุ่มหล่อไฮโซที่ใช้ผู้หญิงยิ่งกว่ากระดาษชำระที่ใครๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาทั้งเย่อหยิ่งเห็นผู้หญิงเป็นเพียงตอบสนองความใคร่เท่านั้นและเขาก็มีฉายาว่า เพลย์บอยร้ายไร้หัวใจ ซึ่งแจ็กเกอร์รีนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าปฐวินจะมีมุมที่ตลกขบขันและเป็นกันเอง ไม่เหมือนที่เธอเคยได้ยินหรือเห็นจากข่าวซุบซิบในสังคมไฮโซเลยสักนิด

ปฐวินเพลย์บอยที่ใครตราหน้าว่าไร้หัวใจตรงหน้าของเธอคือผู้ชายที่ดูอบอุ่นเป็นกันเอง และไม่ได้เย่อหยิ่งอย่างที่ใครๆ พูดกันเลยแม้แต่น้อยเขาออกจะเป็นกันเองและตรงไปตรงมาด้วยซ้ำ เขายังโสดไหมนะ แล้วถ้าเขาสนใจเพื่อนรักของเธอมันจะดีสักแค่ไหน... แจ็กเกอร์รีนแอบคาดหวังในใจว่าเขาอาจจะเป็นเนื้อคู่ของอังศณาก็เป็นได้... หญิงสาวคิดเรื่อยเปื่อยเช่นดังคนช่างฝันที่อยากให้เพื่อนรักพบคนดีๆ และมีความสุข... แล้วความคิดของเธอก็สะดุดลงเมื่อเห็นอังศณาเดินเซเซดๆ มายังพวกตน...

“อ้าว... ยายนางเฮ้ยๆๆ แก ระวังๆๆ”

เสียงแจ็กเกอร์รีนอุทานและจะผวาเข้าไปรับร่างบอบบางของเพื่อนรักที่อุตส่าห์เดินโซซัดโซเซกลับมาถึงโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ได้ แต่ดูเหมือนว่าอังศณาจะหมดแรงเอาเสียดื้อๆ แล้วร่างบางที่โงนเงนๆ อยู่นั้นก็ถลาลิ่วไปตกอยู่ในอ้อมแขนของปฐวินอย่างเหมาะเจาะ...

“ยายนาง เป็นไงบ้างแก ลุกขึ้นๆ ไหวไหมนั่น...” แจ็กเกอร์รีนรีบเข้ามาพยุงร่างเพื่อนรักขึ้นจากอ้อมแขนของชายหนุ่มทันที

“ไม่เป็นไรครับ เธอตัวเล็กนิดเดียวเองผมช่วยดีกว่า...”

ปฐวินรู้สึกพอใจกับร่างนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นกลิ่นสาบสาวเหลือเกินจนไม่อยากให้ร่างหอมๆ นุ่มๆ ของเธอต้องผละจากอกไปจึงแสร้งทำทีโอบร่างเธอให้เอนกึ่งนั่งถึงนอนบนโซฟาตัวยาวที่เขานั่งอยู่ แล้วถอดเสื้อคลุมของตนคลุมร่างที่ค่อนข้างเปิดเปลือยเนื้อนวลนั้นด้วยความหวงแหนอย่างไม่รู้ตัวซึ่งแจ็กเกอร์รีนมองว่าเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียเหลือเกิน...

“โอ๊ย... จีจี้ฉันปวดหัวจัง แต่ก็สนุกสุดๆ ฉันว่าฉันจะออกไปเต้นอีกรอบ...”

หญิงสาวกุมขมับบางของตนพลางหลับตาพูดแผ่วเบาอ้อแอ้ แล้วยังเอนซบบ่ากว้างของใครบางคนโดยไม่ลืมตาขึ้นมองแต่ก็ยังพยายามลุกเพื่อจะออกไปเต้นรำให้สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ส่วนแจ็กเกอร์รีนเองก็ได้แต่มองเพื่อนรักตาปริบๆ ก่อนจะหันไปมองคนรักที่ขอตัวไปรับโทรศัพท์เมื่อครู่ ไม่นานโรบินก็เดินกลับมาพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่เครียดขึงจนเธอสังหรณ์ใจว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

“มีอะไรคะร็อบ เกิดปัญหาอะไรรึเปล่า...”

แจ็กเกอร์รีนถามแฟนหนุ่มอย่างใส่ใจและคอยมองเพื่อนรักไม่วางตาเช่นกันทั้งห่วงเพื่อนรัก และคนรักซึ่งมีท่าทีเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจอย่างมากเพราะสำหรับโรบินแล้วหากมีเรื่องด่วนหรือปัญหาอะไรที่ไม่สำคัญมากเขาจะให้เลขาและบอดีการ์ดส่วนตัวของเขาจัดการแทนทันที แต่คราวนี้จากท่าทางของชายหนุ่มแล้วเรื่องที่เขาต้องจัดการนั้นคงหนักหนาเอาการอยู่เพราะคนที่เก็บอารมณ์เก่งอย่างโรบินแสดงอาการหน้านิ่วคิ้วขมวดและดูร้อนรนมากขนาดนี้แสดงว่าต้องไม่ธรรมดาแน่นอน...

“คุณแม่ผมเกิดป่วยกะทันหันครับท่านล้มในห้องน้ำจนสลบไปตอนนี้ยังหลับไม่ได้สติเลย...”

“อะไรนะคะ ก็ท่านเพิ่งมาถึงฮ่องกงไม่ใช่หรือคะ” แจ็กเกอร์รีนถามอย่างร้อนรนและเห็นใจคนรัก

“ครับเพิ่งมาถึงเมื่อสองวันก่อน แต่เมื่อกี้ท่านเกิดลื่นล้มในห้องน้ำไม่รู้ว่าอาการหนักแค่ไหน ผมคงต้องไปฮ่องกงคืนนี้...” โรบินบอกเสียงเครียดและหันไปมองปฐวินและอังศณา อย่างลังเลและแจ็กเกอร์รีนก็คงจะพอมองออกว่าเขาเองก็ทั้งห่วงเธอกับเพื่อนรักและห่วงมารดาของตนเอง

“ไม่ต้องห่วงจีจี้นะคะคุณไปดูคุณแม่ของคุณเถอะค่ะที่รัก”

“แต่ผมสัญญาว่าจะพาคุณไปฮ่องกงเพื่อพบครอบครัวของผมด้วยแต่ไมนึกว่ามันจะกะทันหันแบบนี้ อีกอย่าง...” โรบินอึกอักเพราะเขากลัวว่าแฟนสาวจะโกรธ เพราะก่อนหน้านี้เขาบอกว่าจะพาเธอไปพบครอบครัวของเขาอย่างเป็นทางการและวางแผนกันไว้ว่าหลังจากนั้นพวกเขาจะแต่งงานกัน...

“จีจี้รู้และเข้าใจคุณค่ะ ไปเถอะค่ะจีจี้กับนางดูแลตัวเองได้เราก็กำลังจะกลับกันอยู่แล้วนี่คะ”

แจ็กเกอร์รีนพูดออกไปด้วยใจจริงแม้จะรู้สึกเสียดายโอกาสที่จะเดินทางไปพบครอบครัวของเขาซึ่งตอนนี้มาพักผ่อนกันที่ฮ่องกงเนื่องจากมารดาของโรบินนั้นเป็นชาวฮ่องกงและทุกๆ หกเดือนทั้งครอบครัวของเขาจะมาพักผ่อนที่ฮ่องกงเป็นประจำ

“เฮ้ย จีจี้แกก็ไปกับคุณร็อบก็ได้ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันรู้ว่าแกรอคอยเวลานี้มานานแล้ว...”

อังศณาบอกเมื่อพอจะมองออกว่าเพื่อนรักมีเรื่องไม่สบายใจแม้ว่ายังรู้สึกมึนๆ เหมือนโลกหมุนๆ อยู่ก็ตามแต่สิ่งที่เธอไม่เคยลืมคือความฝันของแจ็กเกอร์รีน ที่ใฝ่ฝันถึงรักแท้และงานวิวาห์แสนโรแมนติกกับคนรักของตน และวันนี้แจ็กเกอร์รีนก็เจอคนที่รักตัวตนจริงๆ ของตัวเอง และอังศณาเองก็ยินดีกับเพื่อนมากหากเพื่อนรักจะได้ไปพบครอบครัวของโรบินและแต่งงานกันที่ฮ่องกงตามกำหนดการณ์ที่วางแผนเอาไว้ เธอไม่อยากให้เพื่อนรักเสียโอกาสดีๆ นั้นไปเพราะเธอเป็นตัวถ่วง... อังศณาคิดอย่างคนที่พอมีสติอยู่บ้างแม้ว่าแข้งขาเธอจะอ่อนไปบ้างหรืออาจจะเดินไม่ตรงทางในบางทีก็ตาม...

“อ้าว ไปสิจะยืนมองฉันตาปริบๆ ทำไม ไปๆ แกไปเลย ร็อบจีจี้ไปได้แล้วค่ะ...” อังศณาบอกเพื่อนรักพลางรั้งให้แจ็กเกอร์รีนลุกขึ้นแล้วจูงมือเพื่อนสาวไปหาโรบินซึ่งยืนหน้าเครียดอยู่

“ถ้าอย่างนั้นเราขอตัวกลับเลยนะคะคุณวิลล์ ไปกันเถอะแกแล้วฉันจะไปส่งแกที่บ้านกลับก็ต้องกลับด้วยกันสิ...”

ด้วยความห่วงเพื่อนรักแจ็กเกอร์รีนก็รั้งร่างที่เดินไม่ค่อยตรงของอังศณาออกมาจนได้ ทั้งสามเดินออกไปจากผับดังมายังรถยนต์คันหรูของโรบิน แต่แล้วอังศณาก็หยุดเดินทำให้แจ็กเกอร์รีนหันมามองเพื่อนรักอย่างสงสัย

“แกหยุดเดินทำไม...”

“ฉันจะอยู่เที่ยวต่อแกรีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันเที่ยวบิน...”

“แกจะเที่ยวต่อคนเดียวได้ไงนังบ้า...” แจ็กเกอร์รีนแหวกลับมาอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าสวยยุ่งเหยิง

“เออน่า.. ฉันเที่ยวได้ แกไปเถอะ ฉันดูแลตัวเองได้... แกไปเถอะไปๆ” อังศณาโบกมือไล่

“ร็อบคะ...” แจ็กเกอร์รีนหันไปขอความเห็นจากคนรักเมื่อเพื่อนรักทำท่าจะดื้อแพ่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“แกอย่าเรื่องมากจีจี้ ฉันโตแล้วและที่นี่แกก็บอกฉันเองว่ามันปลอดภัยและดีที่สุด มีแต่คนรวยๆ ไฮโซ เขาคงไม่คิดจะมาสนใจคนกระจอกๆ อย่างฉันหรอกน่า... หรือบางทีคืนนี้ฉันอาจจะได้สามีรวยๆ กลับบ้านด้วยไงแก...”

อังศณาตัดบทเมื่อเห็นท่าทางลังเลของแจ็กเกอร์รีนกับร็อบจึงยืนยันมั่นเหมาะยิ้มให้เพื่อนรักเสียกว้างขวางขณะพยายามยืนให้ตรงทั้งยังพูดจาเสียก๋ากั่น

“แน่ใจนะแกว่าแกอยู่ได้ และจะไม่อยู่ที่นี่เกินเที่ยงคืน หากฉันโทร. ไปหายายอังแล้วแกยังไม่ถึงบ้านฉันเอาแกตายแน่ยายเฉิ่ม...” แจ็กเกอร์รีนกอดอกมองเพื่อนรักเหมือนผู้ใหญ่มองเด็กอย่างไรอย่างนั้น

“โอเค ฉันรับปาก แกไปเถอะ อย่าห่วงฉันเลย ฉันดูแลตัวเองได้น่า เห็นฉันเป็นเด็กๆ ไปได้...” อังศณาย้ำให้เพื่อนรักสบายใจแล้วคว้ากุญแจรถจากมือแจ็กเกอร์รีนมาใส่กระเป๋าถือใบเล็กของตน

“งั้นฉันไปนะแก อย่าอยู่ดึกนะ แล้วก็อย่าดื่มมากไปกว่านี้ด้วย...” แจ็กเกอร์รีนยังคงย้ำนักย้ำหนา

“ดูแลตัวเองด้วยนะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะให้คนของผมตามาดูแลนาง จีจี้อย่าห่วงเลยสักครู่ลูกน้องผมจะลงมาดูแลนาง...”

โรบินบอกคนรักก่อนจะก้าวขึ้นรถคันหรูออกไปจากหน้าผับ อังศณามองตามหลังรถที่แล่นไปจนลับตาแล้วก้าวกลับเข้าไปในผับดังอย่างเริงรื่น ตั้งใจจะใช้เวลาในค่ำคืนนี้สนุกให้สุดเหวี่ยงไปเลย โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อกลับเข้ามา ณ ที่แห่งนี้อีกครั้งมันจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล...

ปฐวินรู้สึกเสียดายไม่น้อยที่เขาไม่ทันได้มีโอกาสสานสัมพันธ์กับแม่สาวผมหอมนางนั้นเมื่อเธอเพิ่งจะเดินออกไปกับเพื่อนของเธอเมื่อครู่ ซ้ำยังไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ นี่เขาไม่มีอะไรดึงดูดสายตาเธอเลยหรืออย่างไรทั้งที่เขาโอบกอดเธอไว้ตอนที่จะล้มแถมยังถอดเสื้อคลุมของตนให้เจ้าหล่อนสวมอีกด้วย...

“นี่เจ้าหล่อนไม่สนใจเราเลยหรือไงวะ...” ชายหนุ่มพูดอยู่คนเดียวอย่างหัวเสียพลันสายตาก็หันไปเจอหญิงสาวที่เขาเพิ่งบ่นถึงอย่างไม่ตั้งใจแต่สะดุดใจยิ่งนัก...

แม่สาวเท้าไฟที่กระโดดขึ้นไปเต้นรำด้วยท่วงท่าเย้ายวนบนเวทีเตี้ยๆ ของทางร้านที่จัดไว้สำหรับดูโชว์การแสดงของนักดนตรี เธอกำลังยักย้ายส่ายสะโพกนัวเนียอยู่กับหนุ่มตาน้ำข้าวรูปหล่อคนหนึ่งอย่างเมามันโดยไม่สนใจสายตาของใคร แต่จะว่าไปในสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครสนใจใครอยู่แล้ว ทุกคนมาเพื่อนสนุกเท่านั้น...

“ยายบ้าเอ๊ย กำลังทำบ้าอะไรของเธอกันนะ...”

ปฐวินรู้สึกเลือดขึ้นหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพียงแค่เห็นเธอไปนัวเนียกับชายคนอื่นเขาก็รู้สึกร้อนรนจนทนไม่ได้ ปฐวินหงุดหงิดเมื่อหญิงสาวมีอิทธิพลเหนือจิตใจของเขาอย่างไม่น่าจะเป็นได้ เขาเพิ่งได้พบเธอเมื่อไม่กี่น่าทีที่แล้วและยังไม่ได้คุยกันจริงจังด้วยซ้ำ แต่ทำไมเขาต้องรู้สึกหวงแหนและไม่พอใจที่เห็นเธอไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขาด้วย

ยิ่งคิดปฐวินก็ยิ่งรู้สึกขัดเคืองใจทั้งขาแข็งแรงยังเดินไปยังแม่สาวเท้าไฟทันทีอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับตวัดร่างเธอลงมาแล้วกอดกระหวัดร่างบางพาเดินลิ่วๆ ออกไปจากฟลอร์เต้นรำท่ามกลางความงุนงงของผู้ที่กำลังเต้นกันอยู่อย่างเมามันกับหญิงสาว และคนอื่นๆ ที่มองการกระทำของเขาอย่างไม่เข้าใจ ชายหนุ่มคนนั้นพยายามจะเดินตามปฐวินมาอย่างไม่พอใจแต่ชายนิรนามสามคนที่เข้ามายืนขวางด้วยท่าทางขึงขังหน้าเข้มไม่พูดไม่จาแต่ดูเอาจริงเอาจังทำให้หนุ่มตาน้ำข้าวคนนั้นเลือกที่จะหาคู่เต้นใหม่มากกว่าที่จะตามหญิงสาวที่ตนพึงใจไป เพื่อความปลอดภัยของตนเอง... เรื่องแบบนี้ไม่เสี่ยงจะดีกว่า...

“โอ๊ยยย... นี่คุณปล่อยนะ... จะทำอะไรเนี่ยแล้วไม่ต้องมาโอบมาอุ้ม ฉันเดินเองได้ ปล่อย...”

ทางด้านอังศณาที่โดนลากตัวออกมาก็โวยวายและพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนแข็งแรงนั้นด้วยความตื่นตระหนกเมื่อจู่ๆ ก็ถูกลากออกมาจากผับด้วยน้ำมือของผู้ชายคนนี้...

แต่ เอ... เขาหน้าตาคุ้นๆ เหมือนว่าเธอได้เห็นหน้าเขามาก่อน...

“ก็พาออกมาจากฝูงตะเข้ตะโขงไงล่ะ หรืออยากมีผัวทีเดียวหลายๆ คน”

ปฐวินหันมาพูดกับเธออย่างฉุนเฉียวเสียงก็ห้วนจัดชัดเจนและคำพูดของเขาก็ทำให้อังศณาอ้าปากค้างด้วยความคาดไม่ถึงว่าจะถูกผู้ชายพูดแบบนี้ใส่หน้า เธอไปทำอะไรให้เขากันล่ะถึงได้มาตะคอกเธอแบบนี้...

“แล้วคุณเป็นใคร มายุ่งอะไรด้วยไปให้พ้นนะ...”

หญิงสาวพยายามขืนตัวเองออกจากวางแขนแข็งแรงของเขาอย่างฉุนเฉียวเช่นกันแต่ยิ่งพยายามดิ้นให้หลุดจากปลอกแขนที่แข็งราวเหล็กหน้านั้นไม่ได้แล้วยังรู้สึกว่ามันยิ่งรัดแน่นขึ้นไปอีกด้วยจนเธอใจเสียแต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก็ทำให้หญิงสาวเรียบๆ เงียบขรึมแผลงฤทธิ์ราวแม่เสือ...

“ความจริงฉันไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ ถ้าบังเอิญไม่ได้รู้จักกับเพื่อนของเธอ อีกอย่างฉันสงสารพวกเขาหากจะมารู้ว่ามีเพื่อนเป็นสาวใจแตก แจกไม่เลือก...”

“อ๊ายยย คนบ้า นี่คุณว่าใคร พูดดีๆ นะ อย่ามาดูถูกกันนะ แล้วก็ปล่อยฉันด้วย ฉันจะกลับบ้าน”

หญิงสาวพยายามสะบัดตัวอออกจากเขาให้ได้แต่ต้องตกใจเมื่อเขารั้งให้ร่างบางของเธอแนบชิดกับร่างแกร่งของเขาจนเธอรู้สึกได้ถึงไอความร้อนที่แผ่มาจากกายชาย ใบหน้างามที่ถูกตบแต่งงดงามในคืนนี้แดงจัดทั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และทั้งตื่นเต้นเมื่อร่างบางของตนแนบชิดกับร่างแกร่งของเขา

ชายแปลกหน้าที่เธอพอจะนึกออกว่าเขานั่งคุยอยู่กับเพื่อนรักก่อนหน้านี้ แล้วเขามาทำอะไร และมาวุ่นวายกับเธอทำไม อังศณาคิดอย่างมึนงงเมื่อพอจำอะไรได้ลางๆ เธอได้ยินแจ็กเกอร์รีนเรียกชื่อเขาว่าอะไรนะ วิน วินอะไรสักอย่าง... อังศณาพยายามนึกชื่อเขาและพยายามหาทางหลุดพ้นจากอ้อมแขนแข็งๆ นี้...

“เอาล่ะกลับบ้านได้แล้ว...”

ปฐวินตะคอกเสียงเข้ม ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องมาแคร์ด้วยว่าเธอจะกลับบ้านหรือไม่หรือจะไปไหนต่อ นี่เขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ จะว่าไปแล้วกับหญิงสาวทุกคนที่เขาเคยผ่านมาเขาก็ไม่เคยใส่ใจด้วยซ้ำว่าพวกเจ้าหล่อนจะอยู่จะไปหรือจะทำอะไรกับใครที่ไหนพอจบ หมดสิ้นธุรกิจต่อกันก็ต่างคนต่างไปพร้อมด้วยค่าเสียเวลาก้อนโต... แต่กับผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ แต่แต่งตัวเย้ายวนเข้าหน่อยตรงหน้า เขากลับมีความรู้สึกที่ต่างกันออกไป

เขาอาจจะอยากช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ได้ หรือเพื่อเห็นแก่โรบินซึ่งเป็นคนรู้จักกันและเธอก็คือเพื่อนแฟนของโรบิน หากเขาจะไม่ช่วยเหลือหรือดูแลก็อาจจะเสียชื่อเจ้าของบ้านก็ได้เพราะผับนี้เขาเองก็มีหุ้นอยู่ส่วนหนึ่ง...

ปฐวินพยายามหาเหตุผลให้ตัวเองแต่สุดท้ายเขาก็คิดว่ามันไม่เข้าท่าเลยสักข้อ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel