ไม่รู้จักงั้นเหรอ?
ยี่หวาหมุนตัวเตรียมเข้าบ้าน ทันทีที่ฉัตรชัยก้าวเท้าไปขึ้นรถ เธอไม่รู้เหตุผลที่คิมหันต์มาที่นี่ รู้ว่าเขาเป็นแฟนคลับตัวเองเพราะเขาคิดตามไอจีหลักเธออยู่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะรู้ลึกขนาดตามมาถึงบ้านเธอได้
ร่างสมส่วนสั่นนิดๆ เมื่อบ้านที่เคยเปิดง่ายๆ กลับไม่สามารถไขกุญแจเข้าไปได้ เพราะมือไม้อันสั่นเทาของเธอ
“มาคุยกันหน่อย”
คิมหันต์ยังยืนอยู่ที่เดิม มือคีบบุหรี่ม้วนที่สามออกจากปาก ก่อนจะทิ้งลงไปบนพื้น ใช้เท้าขยี้บุหรี่จนดับ เหมือนพยายามระงับความหึงหวงลงไปด้วย
“…” ยี่หวาทำหูทวนลม ตั้งสมาธิให้อยู่กับกุญแจในมือ ควบคุมร่างกายไม่ให้สั่น ควบคุมความรู้สึกนึกคิด ไม่ให้หวนคิดถึงเรื่องในคืนนั้น
ตุบ!
“อ่า!”
ใบหน้าสวยที่ปกติมักจะทำหน้าบึ้งตึงขึ้นสีแดงก่ำ เมื่อเผลอคิดถึงสัมผัสวาบวาบของครั้งแรก ค่ำคืนเร่าร้อนอ่อนหวาน ตราตึงใจไม่เคยลืมเลือน ยิ่งคิดถึงยิ่งรู้สึกวาบหวาม ร้อนผ่าวลามไปทั่วร่างกาย
“ฉันว่าเธอไม่ได้หูหนวก”
คิมหันต์ก้าวไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง เสื้อผ้าที่เธอใส่วันนี้ดูแปลกตา เพราะเธอสวมเสื้อผ้ามิดชิดทั้งที่อากาศในกรุงเทพร้อนอบอ้าว รู้ว่าขี้หนาว แต่หนาวเกินไปหรือเปล่า หรือต้องการซ่อนอะไรไว้กันแน่
“อย่ามาคุกคามกันนะคะ” ยี่หวาไม่กล้าหันกลับไป และนั่นถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับตัวเอง เธอสามารถใช้น้ำเสียงหยาบกระด้างกับเขาได้ แต่ถ้าหันกลับไปเธอทำแบบนั้นไม่ได้แน่ เพราะรู้สึกแพ้เขาทุกอย่าง
“คุกคาม? กับผัวเรียกว่าคุกคาม แล้วกับไอ้นั่นที่ยอมให้มันจูบเรียกอะไร สมยอม?”
มือหนาจับไหล่เล็กไว้แน่น บีบลงไปแรงๆด้วยความโกรธ ผู้หญิงอะไรไม่รักนวลสงวนตัว ปล่อยให้มันจับมันจูบอยู่ได้ น่าโมโห!
“เขาเป็นแฟนจับบ้างจูบบ้างจะเป็นอะไร อีกหน่อยก็คงทำอะไรที่มากกว่านั้น” มันไม่ใช่คำตอบสำหรับคนที่อยู่ด้านหลัง แต่เป็นคำพูดที่พูดกับตัวเองมากกว่า บางทีเธออาจจะต้องลงเอยกับฉัตรชัย เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนั้นก็ต้องทำใจไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้
“สำหรับเธอ ฉันเป็นควายสินะ!”
“คุณคะ ปล่อย ตะ ตรงนี้มัน”
ยี่หวาจับมือที่กำลังขย้ำหน้าอกตัวเองไว้แน่น ถึงที่นี่จะไม่มีนักข่าว แต่นี่มันหน้าบ้านนะ ถ้ามีคนผ่านมาเห็น เธอก็แย่สิ หรือต้องให้มีคนผ่านมาดี เขาถึงจะหยุด
“ทำไม กับมันยังจูบตรงนี้ได้ กับฉันก็ต้องได้เหมือนกัน” คิมหันต์ออกแรงขย้ำที่มือ มืออีกข้างดึงรั้งร่างเล็กในชิดกับแผ่นอก โก้งตัวก้มลงเพื่อให้มือเอื้อมลงไปถึงกลางกายสาว
ปึ่ก!
“โอ้ย!”
“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าให้ปล่อย”
ยี่หวากระทืบส้นสูงลงบนรองเท้าของเขาแรงๆ จนเขาปล่อย หันกลับไปเผชิญหน้าด้วยดวงตาวาวโรจน์ เธอโกรธเขาแล้ว ทำอะไรไม่คิดถึงจิตใจเธอเลย
“นี่กล้าทำร้ายร่างกายฉัน” คิมหันต์อยากจะโกรธ แต่พอเห็นหน้าเหวี่ยงๆของเธอ ที่มีน้ำใสเกาะพราวตามแพขนตากลับรู้สึกอ่อนลง
แพ้มาก เขาแพ้อะไรแบบนี้ที่สุด!
“กลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณ”
“หา?”
“กลับไปค่ะ”
“ไม่รู้จักนี่นะ”
คิมหันต์เป็นงง อยู่ๆก็กลายเป็นคนไม่รู้จัก ทั้งที่เพิ่งกอดเพิ่งจับนมไป ไหนจะคืนนั้นที่ได้กันอีก สรุปว่าเธอไม่รู้จักเขาเหรอ เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเลย
“ค่ะ”
“ฉันชื่อคิมหันต์”
“ค่ะ แล้วยังไง”
ยี่หวาเกือบยิ้ม แต่ต้องทำหน้าบึ้งไว้เหมือนเดิม เลือกเมินเฉยต่อการแนะนำตัวของคนตรงหน้า เขาคงไม่รู้ว่าเธอรู้จักเขาดีทีเดียว เธอรู้จักเขาพอสมควร ผ่านการติดตามไอจีของเขา
คิมหันต์คือผู้ชายที่เธอติดตามมาได้สักพักแล้ว พอๆกับที่เขาติดตามแอคเค้าท์ไอจีหลักของเธออยู่ เพียงแต่เธอใช้แอคเค้าท์อีกอันติดตามเขาเงียบๆ แอบส่องไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเขา จนรู้สึกกับเขามากกว่าที่ควรรู้สึก
“เห้อ! เจอแบบนี้กับตัวเองจังๆไปไม่ถูกเลยแฮะ”
คิมหันต์เสยผมหน้าขึ้นสูง มองคนที่ทำท่าทางเย็นชาพลางถอนใจ แล้วมันยังไงเหรอ ต้องทำยังไงต่อเขาเองก็ไม่รู้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก จนเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันผิดขั้นตอนไปหมด ซ้ำยังซับซ้อนจนไม่รู้จะเอายังไงแล้วด้วย
“กลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณ ไม่อยากรู้จักด้วย” ยี่หวาพยายามจะไม่นึกถึงเรื่องคืนนั้น เธอตั้งใจทำและตั้งใจจบ ให้เรื่องคืนนั้นเป็นฝันดีที่สุดในชีวิต ไม่คิดจะคบกับเขา หรือร้องขอให้เขารับผิดชอบด้วย
“เธอพูดว่าอะไรบ้างนะ ในบทสัมภาษณ์”
คิมหันต์ถามออกไป ส่งผลให้ใบหน้าสวยขมวดคิ้วมุ่น เมื่ออยู่ๆเขาก็เปลี่ยนเรื่อง ใบหน้าสงสัยทำให้คิมหันต์ขยับไปใกล้ เขาพอจะเข้าข่ายผู้ชายในเสปคเธอบ้างหรือเปล่าล่ะ
“หมายถึงสัมภาษณ์ที่คุณดูตอนอยู่ในผับเหรอคะ” ยี่หวาคิดตาม เธอไม่ค่อยให้สัมภาษณ์เท่าไหร่ แต่วันนั้นปั้นหน้าสัมภาษณ์กับนักข่าวไปเพราะรำคาญ ทุกคำล้วนโกหก เสปคเธอนะเหรอ ก็ผู้ชายตรงหน้านี่ไง
“อืม”
“ก็ตามที่พูดไปนั่นแหละค่ะ” ยี่หวาไม่แปลกใจตัวเองเท่าไหร่ ที่ควรไล่เขากลับไป แต่ไม่ทำ ปกติไม่เคยยืนคุยกับใครหน้าบ้านนานขนาดนี้ แต่กับเขา เธอรู้สึกดีที่ได้คุยกัน ทุกอย่างเป็นไปตามเสียงในหัวใจ ไร้ซึ่งเหตุผล
“เปลี่ยนไม่ได้เหรอ”
“คะ? ความชอบคนเรามันเปลี่ยนกันได้ด้วยเหรอคะ” ยี่หวาเริ่มจะเมื่อยขาแล้ว จึงขยับพิงร่างเข้ากับประตูรั่วหน้าบ้าน เขาคงอยู่คุยอีกนานเลย ส่วนเธอก็ไม่อยากขยับไปไหน
“ได้สิ อยู่ที่ว่าอยากเปลี่ยนหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากเปลี่ยน กลับได้แล้วค่ะ ฉันเมื่อยขาแล้ว” ยี่หวาเอ่ยปากไล่ มองรถที่เลี้ยวเข้าบ้านถัดไปด้วยความกังวล คนบ้านนั้นไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเขาจะเอาเรื่องเธอไปโพนทะนาไหม การไล่คิมหันต์กลับไป น่าจะปลอดภัยต่อชื่อเสียงเธอกับเขามากที่สุด
“ไปด้วยกันหน่อย” คิมหันต์ก้มลงเก็บกุญแจบ้านที่ถูกลืมอยู่บนพื้นขึ้นมาถือ ชูมันขึ้น เพื่อต่อลองให้เธอไปด้วยกัน เขายังอยากคุยกับเธออยู่ อยากรู้ว่าระหว่างเขากับเธอ พอจะมีความเป็นไปได้ไหม มันต้องได้เป็นอะไรกันมากกว่านี้สิ
“ไม่ค่ะ”
“อย่าให้ต้องอุ้ม”
“ฉันไม่กลัวคุณหรอกนะคะ อย่าคิดว่าขู่แล้วจะยอม”
ใบหน้าสวยฉายแววไม่พอใจ แต่เมื่อเจอสายตาดุๆของเขา ขาเรียวยาวก็รีบก้าวเดิน เปิดประตูรถสีแดงสด เข้าไปนั่งเงียบๆ ไม่ยอมพูดจาอะไรเลย จนถึงคอนโดที่เคยไปกับเขา
