บท
ตั้งค่า

8

คชินทร์ทำเป็นเดินค้อมตัวเข้าไปนั่งตัวลีบอยู่ข้างมารดาสร้างความแปลกใจให้พ่อเลี้ยงอาชาผู้เป็นบิดาอย่างมาก เพราะไม่เคยเห็นกิริยาอาการแบบนี้ของลูกชายเลยสักครั้ง......ไอ้ลูกคนนี้คงไปทำเรื่องอะไรไว้อีกแน่ ๆ ......ผู้มีประสบการณ์มากกว่าหรี่ตามองพยายามจับพิรุธ

“ตาช้าง !...หน้าไปโดนอะไรมาลูก” แก้มใสนั่งอยู่ข้าง ๆ จึงหันมาเห็นแก้มที่แม้จะมีหนวดเคราปกคลุมแต่ก็ไม่สามารถปกปิดร่องรอยห้านิ้วที่ขึ้นชัดเจนเพราะผิวแท้ ๆ นั้นค่อนข้างขาวเหมือนแม่แต่เจ้าตัวชอบอำพรางด้วยความซกมก

“น้องหนูเล็กคงจะเขินไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ที่ไหนเลยฟาดหน้าผมเข้าให้แค่นั้นเองครับ......” ช้างตอบยิ้ม ๆ พลางมองตรงไปที่คุณหญิงยายตาปริบ ๆ ประหนึ่งประกาศว่ายอมทำในสิ่งที่เรียกว่าเสียสละอันยิ่งใหญ่ยอมพลีกายแม้จะเจ็บปวดเพื่อรองรับอารมณ์หลานสาวสุดที่รักของคุณหญิงยาย

“ตายแล้ว....เอาอะไรมาพูด...หลานสาวฉันไม่นิยมความรุนแรงหรอกนะ.......ว่าแต่เราน่ะไปยั่วโมโหเขาอีท่าไหนล่ะ ถึงได้โดนฝ่ามือนาบหน้าเอาน่ะ….” คุณหญิงไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็แอบสะใจอยู่นิด ๆ ไหน ๆ ทำแล้วน่าจะเอาให้หนักกว่านี้ยิ่งเห็นยิ่งหมั่นไส้ไม่ถูกใจเอาเสียเลยหากยัยหนูเล็กจะเลือกคนห่ามพรรค์นี้มาเป็นสามีคง

“พอดีเรา...เอ่อ....ผมขอไม่พูดดีกว่าครับ แต่ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างนะครับคุณหญิงยาย.....” ช้างตั้งใจประจบผู้สูงวัย ทำเป็นพูดแบบแมน ๆ แกล้งแย้มเอาไว้ทำให้คนฟังอยากรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันใหญ่โตถึงกับต้องมีการรับผิดชอบ......

“เกิดอะไรขึ้น ไอ้ช้างแกทำอะไรน้อง” พ่อเลี้ยงอาชาเอ่ยถามลูกชายเสียงดังชักจะร้อนใจเกรงว่าไอ้ลูกชายตัวดีจะทำอะไรเกินเลยจนกระทบความสัมพันธ์อันยาวนานของสองครอบครัว

“คือ...ผมเป็นผู้ชายพูดไม่ได้หรอกครับพ่อ...ไอ้วินมันรู้ดี” ชายหนุ่มทำเป็นบ่ายเบี่ยงแต่ยืมปากเพื่อนรักให้พูดแทนซะอย่างนั้น

“อ๊าว !...” ดวินสะดุ้ง อยู่ ๆ ก็โดนโยนเผือกร้อนเข้าใส่ซะนี่...ไอ้ช้าง...มึงไปเรียนการแสดงจากยัยจีจี้มาหรือไงวะ...คนเป็นเพื่อนเข่นเขี้ยว...เพ่งมองคนโยนมาอย่างเคือง ๆ

“ว่าไงตาวิน” คุณหญิงยายเอ่ยถามเสียงเครียดทุกสายตาหันมากดดันดวินในฐานะพี่ชายของหนูเล็กคงไม่พูดเข้าข้างคนนอกแน่

ดวินจำต้องตัดสินใจท่ามกลางความกดดัน...เอาวะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย...เฮ้อ.....แต่กูนี่แหละจะตายชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจขั้นเด็ดขาด

“ผมเห็นยัยหนูเล็กกับไอ้ช้างยืนจูบกันอยู่หน้าบ้านครับ” ดวินโพล่งออกไปความจริงล้วน ๆ เป็นไงเป็นกัน

“ตาช้าง !/ไอ้ช้าง !.....” ผู้ใหญ่ทุกคนในห้องนั้นร้องประสานเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่ต้องอาศัยคนให้จังหวะอย่าง วาทยกร ด้วยซ้ำ.....ส่วนเจ้าของชื่อทำเป็นพยักหน้าตาใส ๆ มองทุกคนตาปริบ ๆ

ช้างกระเด้งตัวลงไปนั่งกับพื้นพนมมือแต้ พร้อมกับบอกเสียงอ่อยอย่างคนสำนึกผิดแต่ไม่ว่าจะมองมุมไหนใคร ๆ ก็ดูออกเพราะไอ้บ้านี่ตอแหลชัด ๆ

“ผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับ เป็นเพราะผมคนเดียวอย่าโทษหนูเล็กเลยฮะ........ผมนี่แหละที่ไม่ยอมหักห้ามใจ พากันเพลิดเพลินออกนอกลู่นอกทางจนได้”

ดวินฟังแล้วอยากจะลุกขึ้นเตะไอ้เพื่อนหน้าด้านสักป้าบ...ฟังมันพูดเข้า เหมือนกับว่าหนูเล็กเต็มใจแล้วก็หลงเคลิ้มไปกับมันอย่างนั้นแหละ....แต่....เอ....เราก็ไม่เห็นตั้งแต่ต้นอยู่ดีนี่หว่า แต่ที่แน่ ๆ ไอ้ช้างตอแหลแหง ๆ ......เขาเป็นแค่พี่ชายได้แต่นิ่งคอยดูทิศทางลมซึ่งดูเหมือนกำลังพัดกระจัดกระจายมาคนละฝั่ง แต่ฝั่งคุณหญิงยายดูจะอันตรายที่สุด……

“เธอ......กล้า.....มาก...” คุณหญิงกษมาชี้นิ้วสั่นมาที่คนต้นเหตุ โกรธจนแน่นหน้าอกพูดไม่ออกเพราะพยายามข่มกลั้นอย่างหนักที่จะไม่ลุกแล่นเข้าไปแพ่นกบาลคนที่นั่งลอยหน้าลอยตาพูดจาเรื่อยเปื่อย.....

“คุณหญิงยายครับไหน ๆ ข้าวสุกก็กลายเป็นข้าวสารแล้วผมยินดีแต่งงานล้างอายให้น้องหนูเล็กเองครับ”

“โอ๊ยยยยย....ฉันจะเป็นลม....แม่รมิดาเธอแน่ใจนะว่าไม่ได้คว้าลูกคนอื่นมาผิดน่ะ....” คุณหญิงกษมาถึงกับกุมขมับกับคำพูดผิด ๆ ถูก ๆ ของไอ้กะล่อนปลิ้นปล้อนหลอกลวง....ตัวเองผิดเต็ม ๆ ยังจะพูดราวกับเอาบุญเอาคุณ

“ช้าง...หยุดได้แล้ว...” แม่เลี้ยงรมิดาเอื้อมมือไปหยิกต้นแขนไอ้จอมวายร้ายที่ทำเอาทั้งห้องปั่นป่วนไปหมดก่อนจะเปลี่ยนเป็นทุบด้วยกำปั้นเล็ก ๆ ด้วยความขัดใจเพราะกล้ามเนื้อแข็ง ๆ ทำให้คนหยิกเป็นฝ่ายเจ็บเสียมากกว่า

“โธ่......คุณแม่ช้างอยากรับผิดชอบน้องทุกอย่างเลย ......เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะช้างหักห้ามใจไม่อยู่จริง ๆ นะครับ” ชายหนุ่มตัวโตเป็นควายเอาแก้มถูไถกับเข่ามารดาต่อหน้าทุกคนจนคนเป็นพ่อชักจะเหลืออด

“ไอ้ช้าง...หยุด!” เสียงพ่อเลี้ยงอาชาราวกับฟ้าผ่ามากลางวงเป็นผลให้คนก่อเรื่องขยับนั่งตัวตรงแต่ยังบ่นอุบอิบว่าหักห้ามใจไม่ได้

“เฮอะ...เป็นแบบนี้อีกหน่อยหลานสาวของฉันไม่ช้ำใจแย่หรือจ๊ะพ่อคุณ เจอใครก็หักห้ามใจไม่ได้” คุณหญิงพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้มองมุมไหนก็ขัดหูขัดตาไปหมด

“อาการนี้เป็นกับหนูเล็กคนเดียวเท่านั้นนะครับ ผมถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากมาเจอน้องตั้งหลายปียังไงล่ะครับ” ช้างพูดได้คล่องปรื๋อในขณะที่พ่อเลี้ยงอาชาส่ายหน้าระอาใจกับลูกชายจอมกะล่อน...มันไปติดใครมาหว่า สงสัยเขาจะเคยว่าบรรดาอา ๆ ของไอ้ช้างไว้เยอะ นิสัยมันถึงได้กระเดียดไปทางยัยกวางกับไอ้โจ้ อามันซะมากกว่า.....

รมิดาเองก็กระอักกระอ่วน เพราะก่อนจะมาที่นี่ตาช้างไม่ได้พูดแบบนี้ ได้แต่หันมองสามีอย่างงง ๆ หรือว่าเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel