บท
ตั้งค่า

๔ รับผิดชอบ (๑)

รับผิดชอบ

เวลาผ่านไปกว่าสามเดือนที่หล่อนทำตามความต้องการของตัวเองคือจีบเพื่อนสนิทของพี่ชายจนคนในบ้านต่างรู้กันเป็นอย่างดี ตะวันฉายค่อนข้างตกใจเพราะคิดว่าน้องชอบแสงเหนือ พอทราบว่าชอบเพื่อนสนิทตัวเองถึงกับพูดไม่ออก

ตอนที่ปีแสงอายุสิบสามปี ยัยเด็กคนนี้เพิ่งหนึ่งขวบเองนะ

แล้วอย่างนี้จะรักได้อย่างไร เมื่อเพื่อนเขามีจุดยืนชัดเจนว่าไม่ชอบคนเด็กกว่า แค่คิดก็กุมขมับเพราะรู้ดีว่าดรุณีคงต้องอกหักอย่างแน่นอน ครั้นจะเข้าไปขวางก็รู้ดีว่าน้องคงไม่ฟังตัวเอง

ที่ทำได้คงเป็นเพียงปลอบหลังจากหล่อนอกหัก

“พี่พันขาพี่พันนนน” เสียงเรียกดังมาจากห้องครัว ก่อนหญิงสาวอายุน้อยของบ้านจะเดินแกมวิ่งออกมาโดยสองมือประคองจานขนมเอาไว้ไม่ให้ตก

พี่สะใภ้ที่หายไปกว่าห้าปีกลับสู่อ้อมอกของพี่ฉายเรียบร้อย พร้อมลูกชายหนึ่งคนที่น่ารักน่าชังสร้างเสียงหัวเราะให้บ้านที่เงียบเหงา เพิ่งผ่านมงคลสมรสของคนทั้งคู่ไปไม่นาน ตะวันฉายที่มีเพียงความห่อเหี่ยวก็กลับมาสดใส

ความรักน่าทึ่งเสมอ สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของเราในชั่วพริบตา จนเธออยากมีความรักที่สมหวังบ้าง

หญิงสาวเชื่อว่าอีกไม่นานหรอก…เธอจะเป็นเช่นนั้น

มีความสุขกับความรักที่สมหวังของตัวเองและปีแสง รุกแรงขนาดนี้ต้องมีใจอ่อนกันบางแหละ หล่อนเชื่อเช่นนั้นและหวังเอาไว้ค่อนข้างสูง ทั้งที่กลัวเหมือนกันว่าเขาจะไม่รักตอบ

เพราะชายหนุ่มค่อนข้างจริงจังกับอายุที่ต่างกันของเรา ช่องว่างระหว่างวัยมันน่ากลัวเกินไป

แต่เธอสนใจเสียที่ไหน แค่รักกันแล้วค่อยปรับตัวก็ได้นี่น่า หล่อนไม่ได้ทิ้งความเป็นตัวเอง แสดงออกให้เห็นว่าตนเป็นคนเช่นไรแล้วให้ชายหนุ่มยอมรับ หรือถ้าเรามีตรงไหนที่เข้ากันไม่ได้ก็ค่อยปรับจูนใหม่ก็ได้

ทว่าอย่างแรกคือต้องทำให้ปีแสงรักหล่อนก่อน…

ซึ่งมันค่อนข้างยากพอสมควร

“ตกใจหมดเลย มีอะไรให้พี่ช่วย...วันนี้อยากเรียนทำขนมอะไร” คุณแม่ลูกหนึ่งหันมามองน้องสาวที่มีความสุขเปล่งประกายออกจากดวงตากลมแสนมีชีวิตชีวา เห็นแล้วก็นึกเอ็นดูมากกว่าเดิม ผละมือจากสอนการบ้านลูกชายแล้วถามเสียงหวาน

วรรณวิสา ไกรวรวงศ์เรียนจบคหกรรมด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ทั้งยังได้รับทุนตลอดการศึกษา ทำอาหารเก่งทั้งคาวและหวาน คนในบ้านต่างชอบฝีมือการทำอาหารของเธอเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะขอให้พี่สะใภ้ช่วยเรื่องทำขนม

ทว่าไม่ใช่กับครั้งนี้ที่หล่อนตั้งใจจะทำเอง อยากแสดงฝีมือให้เขาได้ชมบ้าง

ไปบ้านอัครเศรษฐ์บ่อยจนแทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง เธอสนิทกับบุพการีของเขาเป็นที่เรียบร้อย ซื้อใจคนทั้งบ้านเอาไว้ด้วยความสามารถส่วนตัว

เพราะคุณวีรินทร์ไม่มีลูกสาว มีลูกชายทั้งสามคนก็ไม่ค่อยอ่อนโยนอ่อนหวานเท่าไหร่ เมื่อมีหญิงสาวคอยอยู่ข้างกายแล้วชวนคุยทั้งยังช่วยทำขนมที่ท่านชอบ จึงกลายเป็นเอ็นดูดรุณีมากกว่าใคร จนปีแสงยังไม่เชื่อว่ามารดาจะรักหล่อนมากกว่าเขาจนอนุญาตให้เข้าออกบ้านที่ครั้งหนึ่งเกือบจะกลายเป็นเรือนหอได้ ราวกับเป็นเจ้าของอีกคนเสียอย่างนั้น

แล้วลูกชายจะพูดอะไรได้ล่ะ…นอกจากยอมทำตามความต้องการของแม่

“เน่อยาก...ให้ช่วยชิมคุกกี้หน่อยค่ะว่าอร่อยหรือเปล่า ถ้าอร่อยจะได้ทำเพิ่มแล้วเอาไปให้พี่ปีที่บริษัท...ความลับนะคะห้ามบอกพี่ฉาย” วางจานคุกกี้ลงตรงหน้าวรรณวิสา ดวงตาเป็นประกายลุ้นกับรสชาติแล้วไม่ลืมย้ำว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับตะวันฉาย

เพราะพี่ชายสั่งห้ามไม่ให้หล่อนไปก่อกวนที่บริษัทของปีแสง แต่ใครจะยอมทำตามกันล่ะ ต้องไปแสดงตัวตนสักหน่อยหญิงอื่นจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ชายของเธอ

“จ้า...อร่อยแล้วนะ ขมไปนิดหรือเปล่า” หยิบคุกกี้ชิ้นใหญ่กัดเข้าปาก เห็นสีที่เข้มก็ไม่แน่ใจว่าคือความต้องการของหล่อนหรืออบไหม้ พอชิมก็นึกโล่งที่คุกกี้ไม่ได้ไหม้

“พี่ปีชอบขมค่ะ เน่ทำรสชาติแบบที่พี่ปีน่าจะชอบ พี่พันคิดว่าโอเคหรือยัง” เกาะแขนคนอายุมากกว่าแล้วถามอย่างนึกลุ้นกับคำตอบ เชื่อคนมากประสบการณ์เพราะครั้งนี้เธอใช้สูตรของคุณวีรินทร์แต่เลือกปรับรสชาติความหวานตามที่ชายหนุ่มชอบ

“ถ้างั้นก็อร่อยแล้ว เอาใส่กล่องได้เลย” ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะกระโดดโลดเต้นกลับเข้าครัวเพื่อเตรียมนำคุกกี้ใส่กล่อง แต่หลานชายที่นั่งฟังมาโดยตลอดชะโงกหน้ามาถาม

“อาเน่ทำอะไร”

“ทำขนมครับ ทำไว้ให้พลุกินด้วยนะ...อาออกไปข้างนอกแล้ว จุ๊บ” เดินเข้ามาหาเด็กชายพริศ ไกรวรวงศ์แล้วจุมพิตที่ขมับอย่างเอ็นดู นอกจากขนมที่ทำเพื่อนำไปให้คนที่ตนเองตามจีบ ยังเผื่อแผ่ให้คนในบ้านด้วย

ขับรถยนต์ออกจากบ้านหลังใหญ่เพื่อตรงไปยังบริษัทขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ฮัมเพลงมีความสุขไปตลอดเส้นทาง

เธอแสนดีขนาดนี้เขาจะไปไหนพ้นล่ะ…

ดรุณีกลายเป็นแขกประจำของห้องรองประธานบริหารสุดหล่ออย่างปีแสงไปแล้ว ปกติเขาจะไม่ค่อยรับแขกที่ไม่ได้เข้ามาติดต่อเรื่องงาน แต่หล่อนคือข้อยกเว้น…

ไม่ใช่เพราะหญิงสาวกำลังตามจีบ แต่เนื่องมาจากหล่อนเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิท ทั้งยังเป็นเพื่อนกับน้องชายเขาอีก สนิทสนมเกินกว่าจะไล่ออกไปได้ จำต้องต้อนรับถึงจะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม

“อาหารเที่ยงมาเสิร์ฟถึงที่ค่ะ ส่วนนี่ขนมที่เน่ทำเอง คุณแม่สอนเลยลองปรับสูตรนิดหน่อยคิดว่าพี่ปีน่าจะชอบ กินข้าวก่อนนะคะค่อยทานขนม” มื้อเที่ยงที่เลขานุการของชายหนุ่มไม่ต้องลำบากไปซื้อข้างนอกอีกต่อไป เพราะมีคนนำมาเสิร์ฟถึงที่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel