๓ ตื้อเท่านั้น (๒)
หล่อนอยากให้อีกฝ่ายรีบกลับมาโดยเร็ว สงสารพี่ชายที่ตามหาภรรยาเป็นบ้าเป็นหลังก็ยังไม่พบสักที ระยะเวลาเกือบห้าปีแล้วถือว่านานพอสมควร
ถ้าเธอหายไปบ้าง…ปีแสงจะคิดถึงหรือเปล่านะ
คิดแล้วก็รีบสะบัดศีรษะแล้วหัวเราะในลำคอ ขบขันตัวเองกับความคิดไร้สาระ เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอสักหน่อยแล้วจะคิดถึงทำไม เราห่างกันไปหลายปีไม่เห็นอีกฝ่ายจะถามหาเลยสักครั้ง มีเพียงหล่อนที่คิดถึงฝ่ายเดียว
คนที่รู้สึกมากกว่าก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดานั่นแหละ แต่จะให้ตัดความรู้สึกทั้งหมดก็ทำไม่ได้ รักมานานเกินกว่าจะเลิกรักได้แล้ว…
“เฮ้อ...แล้วฉันทำอะไรได้นอกจากมองล่ะ พี่เขามีเจ้าของหัวใจแล้วนี่น่า ส่วนฉันก็ทำได้แค่รู้สึกทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว” ถอนหายใจอย่างหมดหวังเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ตนทำได้คือคิดถึงเขา ไม่อาจครอบครองเพราะชายหนุ่มมีเจ้าของเป็นตัวเป็นต้นแล้ว
คบกันมาเกือบเจ็ดปี อีกไม่นานก็จะแต่งงานสร้างครอบครัว เธอคงทำได้แค่แสดงความยินดีทั้งน้ำตา นั่นคือสิ่งที่คนแอบรักมาโดยตลอดจะทำได้
คนที่ทราบเรื่องจากทั้งสองทางนึกสงสารหญิงสาวเพราะอีกคนก็พี่ชาย อีกคนก็เพื่อนสนิทที่ใช้เวลาช่วงวัยรุ่นด้วยกัน เรียกว่าดรุณีเป็นหนึ่งในครอบครัวก็ไม่ผิดนัก แสงเหนือแอบยกยิ้มเจ้าเล่ห์พลางหยิบน้ำหวานมาดื่มแล้วค่อยบอกข่าวดีให้คนตรงหน้าตื่นเต้นเสียหน่อย
“ใครบอกไม่ได้...พี่ปีเลิกกับพี่ลันเกือบห้าเดือนแล้ว ฉันนึกว่าเธอรู้แล้วซะอีก” บอกเสียงเรียบทำให้ร่างบางถึงยืดกายตรงพร้อมนัยน์ตาที่เบิกกว้าง ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยอเล็กน้อย ก่อนรอยยิ้มนั้นจะค่อยเลือนไปเมื่อคิดว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองเลิกรากัน
คราวก่อนก็บอกว่าเลิก…แต่ผู้หญิงบินตามมาง้อถึงปารีส
สุดท้ายก็กลับไปคบกันเหมือนเดิม ปล่อยให้เธอร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด
เสียใจ…เสียตัว…แล้วไม่ได้อะไรกลับมาสักอย่าง
“เลิกจริงเหรอ ไม่ใช่จะกลับมาดีกันอีกเหมือนครั้งนั้นหรอกนะ นายลองไปสืบหน่อยสิว่าเลิกจริงไหม แล้วฉันจะมีสิทธิ์บ้างหรือเปล่า” รีบใช้สิทธิ์ของความเป็นเพื่อนแล้วขอร้องแกมบังคับให้แสงเหนือทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ
“เลิกจริงไม่รีเทิร์น คุณแม่ก็พยายามกล่อมให้กลับไปคบเพราะคบกันมานานจนแทบจะแต่งอยู่แล้วแต่ดันเลิกกันซะงั้น ส่วนเธอจะมีสิทธิ์ไหม...คิดว่าไม่นะ พี่ปีไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า ตอนนี้มุ่งทำงานอย่างเดียว” เริ่มประโยคแรกหัวใจของเธอพองฟู แต่กลับห่อเหี่ยวเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย จนเริ่มเหม่อมองเพื่อนพร้อมพึมพำเสียงเบา ด้วยใบหน้าที่เริ่มหม่นลง ต่างจากครั้งแรกที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง
นั่นสินะ…เขาบอกชัดเจนว่าไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า
แล้วจะรักเธอได้อย่างไร
“จริงเหรอ...” พอเห็นสีหนาของเพื่อนก็นึกสงสาร คิดว่าจะถูกโต้ตอบกลับแบบรุนแรงเสียอีก ไม่น่าเชื่อว่าปีแสงจะมีอิทธิพลต่อหัวใจของดรุณีมากขนาดนี้
แล้วเขาจะตัดความหวังที่เป็นความสุขเดียวของหล่อนได้อย่างไร นอกจากสนับสนุนไปจนสุดทาง
ถึงจะผิดหวังก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่ม…
“ลองจีบก็ไม่เสียหาย เผื่อเขาจะใจอ่อนลงก็ได้ ตอนนี้พี่ปีแยกไปอยู่บ้านของตัวเองแต่ก็อยู่รั้วข้างกัน ไม่แน่เธออาจจะได้แต่งงานอยู่บ้านเดียวกับพี่ชายฉันก็ได้” บอกเรื่องราวของพี่ชายให้เพื่อนสนิททราบ ความจริงบ้านหลังนั้นถูกสร้างเพื่อจะใช้เป็นเรือนหอ แต่เมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้วก็ลงเงินไปหลายสิบล้าน ปีแสงจึงเข้าไปอยู่ไม่ให้กลายเป็นบ้านร้าง แบบนั้นคงเสียดายเงินแย่
คนฟังถอนหายใจไม่ได้ตื่นเต้นเลยสักนิดเมื่อพอจะมองเห็นความจริงอยู่บ้าง เขาไม่ได้รักเธอสักหน่อย จีบไปจะได้เรื่องเหรอ นอกจากเอาใจไปให้เขาขย้ำเล่นก่อนถูกขว้างทิ้งอย่างของไร้ค่า
“อย่าสร้างวิมานในอากาศให้ฉันได้ไหม”
“ลองดูไม่เสียหาย” พยักหน้าให้คนที่ตาเริ่มกลับมาเป็นประกายอีกรอบ แต่เธอก็ต้องหาข้อมูลไว้ก่อน เพื่อป้องกันหัวใจไม่ให้เจ็บปวดเหมือนครั้งก่อนอีก
แฟนเก่าที่คบกันนานขนาดนั้น เขาคงไม่อาจลืมได้ในระยะเวลาแค่ห้าเดือนหรอก ต้องหลงเหลือเยื่อใยความผูกพันบ้าง ถ้าเธอจะเข้าไปจีบต้องรู้ให้ได้ว่าสายใยนั้นถูกตัดขาดไปหมดหรือยัง
“ทำไมเขาเลิกกัน”
“ไม่รู้ อาจจะคบมานานจนเบื่อหรือว่าเข้ากันไม่ได้ มองอนาคตต่างกัน...อาจจะประมาณนี้แหละฉันก็เดาเพราะพี่ปีไม่พูดอะไรให้ฟังเลย แต่พี่ลันมีแฟนใหม่ไปแล้วตั้งแต่เลิกกันไม่ถึงเดือน” พอทราบเช่นนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาถูกนอกใจ
คนที่ตั้งใจรักมากขนาดนี้ยังถูกทรยศได้ คิดแล้วก็นึกสงสารปีแสงจนแววตาสลดพร้อมพึมพำเสียงเบา แสงเหนือเห็นอย่างนั้นก็รีบแทรกเข้ามาทันที
“สงสารพี่ปี เสียใจแย่สิแบบนี้”
“ดามใจไหมล่ะ” ร่างบางถึงกับเงยหน้ามองเพื่อน พลันแววตาที่เคยหม่นก็สว่างสดใสอีกรอบ ร่างสูงเห็นอย่างนั้นก็แอบอมยิ้มกับคนอารมณ์เปลี่ยนเร็วราวสับสวิตช์
“ได้เหรอ”
“ยังจะถามอีก ตาเธอเป็นประกายขนาดนี้ฉันว่าคงเช้าถึงเย็นถึงแน่ เอาเป็นว่าฉันทีมเธอมีอะไรให้ช่วยก็บอกล่ะกัน มีเพื่อนเป็นพี่สะใภ้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องรู้สึกห่างเหินกับพี่สะใภ้ไง” หล่อนร้องไห้เพราะพี่ชายตนมานานแล้ว ต่อจากนี้อยากให้ดรุณีสมหวังบ้าง
เธอได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจจนนั่งไม่ติดที่ ลุกมานั่งข้างเพื่อนสนิทแล้วกอดอีกฝ่ายเอาไว้ รู้สึกสนิทใจกับแสงเหนือเป็นอย่างมาก การกอดหอมสำหรับคนทั้งสองจึงเป็นเรื่องปกติ ชวนให้คนเห็นเข้าใจผิดแม้กระทั่งคนในครอบครัวของพวกเขา
“รักจังเลย” บอกรักเพื่อนก่อนจะรีบปล่อยเมื่อได้ยินเสียงทุ้มของพี่ชายตนดังขึ้น พอหันมองตามเสียงก็เห็นว่าตะวันฉายไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ยังมีปีแสงที่ยืนนิ่งข้างกัน
มือบางรีบปล่อยข้างลำตัวทันที กลัวชายในดวงใจจะเข้าใจตนผิด กำลังจะเริ่มจีบเขาจะมาเสียคะแนนเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
“กอดกันกลมเชียวนะ”
หญิงสาวลงมาจากศาลาแล้วยืนต่อหน้าปีแสง ยิ้มกว้างให้เขาแต่กลับถูกเมิน เมื่อชายหนุ่มหันไปถามน้องชาย แววตาคุกรุ่นไม่ค่อยสบอารมณ์โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
อาจเพราะคุยเรื่องธุรกิจกับเพื่อนสนิทไม่ลงตัวก็เป็นได้ คงไม่ใช่เพราะมองเห็นหล่อนกอดคนอื่นหรอก
