บท
ตั้งค่า

๒ เมามาย (๔)

นี่คือครั้งแรกของหล่อนกับชายที่แอบหลงรัก แต่เมื่อเขาไม่ได้ต้องการให้มันเกิดขึ้นเธอก็ไม่อยากบีบบังคับให้ต้องมารับผิดชอบ ยอมเจ็บเพียงคนเดียวเพราะนี่ก็คือการตัดสินใจของตัวเองเหมือนกัน

เขาเมาขณะที่เธอมีสติเต็มร้อยจะขัดขืนก็ได้ แต่ก็ไม่ยอมทำแล้วโอนอ่อนผ่อนตาม เป็นตนต่างหากที่เอาเปรียบชายหนุ่ม

หญิงสาวคิดเช่นนั้นแล้วส่งยิ้มให้เขาด้วยใจขมขื่น

“พี่ขอโทษ” เอ่ยเสียงแผ่วรู้สึกผิดกับหล่อน แต่คนอายุน้อยกว่ากลับบอกปัดแล้วยิ้มกว้างทั้งที่แววตาเศร้าสร้อย รีบลุกจากโซฟาแล้วทำทีเดินไปหยิบน้ำมาดื่มก่อนพูดให้เขาคลายความทุกข์

“เลิกทำหน้าเหมือนทำผิดร้ายแรงได้ไหมคะ เน่ไม่ใช่มัจจุราชที่จะมาพรากเอาวิญญาณของพี่ไปนรกสักหน่อย” คนฟังพอจะอมยิ้มได้บ้าง มองตามแผ่นหลังบาง ฉุกคิดเรื่องสำคัญจึงรีบบอกเธอ

“อย่าลืมกินยาคุมล่ะ เมื่อคืนพี่ไม่ได้ใส่ถุง” เธอชะงักแล้วก้มมองพื้นไม่กล้าจะเงยหน้ากลัวเขาเห็นดวงตาที่มีน้ำใสเอ่อคลอเบ้าจนต้องรีบปาดออก

เธอไม่ยอมท้องเพื่อผูกมัดเขาเอาไว้หรอก

“ค่ะ ไม่ลืมหรอก พี่ก็อย่าดื่มเยอะ...กินข้าวดีกว่าไวน์อีกนะ ราคาถูกกว่าด้วย” เปลี่ยนเรื่องแล้วหันมาบอกชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง เขาจึงทำเพียงพยักหน้าไม่ได้พูดอะไรอีก

หญิงสาวเห็นโอกาสเหมาะจึงได้เดินเข้าไปนั่งข้างเขาอีกครั้ง อย่างไรก็เสียสาวไปแล้ว อีกทั้งชายหนุ่มก็โสด คงไม่ผิดที่เธอจะลองจีบปีแสงอย่างจริงจัง

เธอบรรลุนิติภาวะและกำลังจะเรียนจบ ส่วนเขาก็อยู่ในวัยสมควรแก่การแต่งงาน หากเริ่มจีบตอนนี้แล้วตกลงปลงใจคบหา เพียงแค่สามเดือนก็คงแต่งงานกันทันที

คิดอย่างมีแผนแล้วเริ่มจ้องดวงตาคม มองอีกฝ่ายตาปริบพลางยกมือขึ้นลูบอกกว้างจนเขาต้องรีบจับมือบางเอาไว้ กลัวว่าจะซุกซนไปจับที่อื่น

“ว่าแต่พี่ไม่สนใจจะสานสัมพันธ์ของเราต่อหรอ เน่ไม่ได้เรียกร้องให้รับผิดชอบนะแต่พัฒนาเป็นแฟนก็ไม่ติดอะไร ไหนๆ เราสองคนก็โสดแล้ว” เป็นการเชิญชวนที่เขาไม่ค่อยยินยอมเท่าไหร่

“พี่คิดกับเธอแค่น้องสาว” ยืนยันความรู้สึกแต่แววตากลับเริ่มสั่นไหว เรื่องเมื่อคืนมีผลเกินไปจนเขาหงุดหงิดตัวเอง

“เฮ้อ ก็คิดเป็นอย่างอื่นบ้างสิคะ ตอนนี้เน่ไม่ใช่เด็กหญิงดรุณีคนเดิมแล้วนะ เป็นนางสาวดรุณีแล้วค่ะ สาวเต็มตัวจับเต็มไม้เต็มมือ...อยากลองอีกก็ได้” ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้แต่เขาก็ใช้มือยันไหล่เล็กออกห่าง พร้อมทั้งพูดถึงคนที่บอกเลิกกันไม่ไยดี

แววตาของเขายังมีความเจ็บปวดยามนึกถึงคนที่คบมานาน แน่นอนว่าลืมยากอยู่แล้ว…

“พอ...พี่ยังรักแฟน...” พูดไม่ทันจบก็โดนขัดด้วยใบหน้าบึ้งตึง

“แฟนเก่า เลิกกันแล้วต้องเป็นแฟนเก่าสิ ยังจะเรียกว่าแฟนอยู่ได้” เตือนความจำให้ปีแสงแต่เขาก็ไม่ยอมพูดคำว่าแฟนเก่า เลือกจะเปลี่ยนเรื่องทันที โดยที่เธอก็คล้อยตามว่าง่าย

“จะกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่สั่งให้”

“กินค่ะ แต่เราออกไปกินด้วยกันที่ข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวเน่จะพาพี่ชมปารีสเอง...เน่ไปเปลี่ยนชุดแล้วเจอกันข้างล่างนะ รับรองไม่เกินสามสิบนาที” บอกอย่างกระตือรือร้น

โชคดีที่อพาร์ทเม้นของตนอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมของเขา ไปกลับน่าจะไม่เกินสิบนาที รวมเวลาอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าใหม่คงไม่เกินสามสิบนาทีหรอก

ขอสวยสักหน่อยแล้วกันเพื่อจะได้มัดใจชายหนุ่ม คิดแล้วก็ยิ้มกริ่มหยิบกระเป๋าออกจากห้อง ปล่อยให้เขามองตามพลางถอนหายใจโล่งอกที่ไม่โดนรุกไล่

ดรุณีเวอร์ชั่นนี้น่ากลัวกว่าตอนเป็นเด็กเสียอีก…

กลับมาถึงห้องก็รีบอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าค่อยมาแต่งหน้าให้ดูสดใสขึ้นมาหน่อย ผมที่ปล่อยไว้เริ่มมีกลิ่นแล้วจึงมัดรวบเป็นมวยเสียเลย ค่อยเติมปากให้มีสีเล็กน้อย ทุกอย่างเสร็จสิ้นในเวลาอันสั้นจึงสำรวจตัวเอง

“สวยหรือยังเนี่ย...สวยแล้วนะ” ขยิบตาข้างหนึ่งสร้างความมั่นใจให้ตัวเองสักหน่อย ยิ้มร่ามีความสุขแล้วเลือกเสื้อโค้ทตัวยาวกับกระเป๋าใบใหญ่เพื่อใส่สัมภาระที่สำคัญ

และแน่นอนว่าต้องปลอดภัยจากมือโจรด้วย หล่อนระวังทุกอย่างแต่ก็ต้องเตรียมพร้อมเพื่อเดทแรกของเรา

อาจจะเดินขัดหน่อยแต่ก็มีความสุข ยิ่งคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนก็เขินหน้าแดง ยิ้มแย้มไปเรื่อยขณะโบกรถเพื่อไปโรงแรมของปีแสง

“ต้องขอบคุณเพื่อนรักแสงเหนือ ความสาวที่เก็บไว้นานได้ใช้สักที นึกว่าจะไม่ได้ใช้แล้วซะอีก” พึมพำกับตัวเองอย่างมีความสุข พอดีกับมีสายเรียกเข้าจึงรีบหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาดู ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“แสงเหนืออออ คิดถึงพอดีเลย!” ทักทายเพื่อนสนิทเสียงใส

‘เสียงมีความสุขแบบนี้แสดงว่าไปได้ดีกับพี่ปีใช่ไหม’ เขารู้ได้ในทันทีว่าคงมีเรื่องดีเกิดขึ้น เธอพยักหน้าแม้รู้ว่าปลายสายไม่เห็นก็ตาม ความสุขมันล้นอกจนอยากเล่าทุกอย่างให้ฟังแต่ก็ต้องสงวนให้ทราบเพียงตนและว่าที่คนรักเท่านั้น

ว่าที่แฟน…แค่คิดก็เขินแล้ว

“ก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นแหละ ขอบใจนายมากนะที่เปิดทางให้ฉัน บอกเลยว่าถึงวันแต่งงานของฉันเมื่อไหร่นายไม่ต้องใส่ซอง ฉันเว้นให้คนหนึ่ง” บอกอย่างใจดีจนเพื่อนหัวเราะพร้อมกับอวยพรให้สมหวังกับความรักที่มอบให้ชายผู้เดียวนับสิบปี

‘ขอให้สมหวังแล้วกัน...ถ้าเบื่อปารีสก็มาเที่ยวโรมได้นะ ฉันกับดาเรียอยากลองเดทคู่เหมือนกัน’ เธอคุยกับเพื่อนจนวางสายเมื่อถึงหน้าโรงแรมพอดี

ยื่นทิปให้คนรถอย่างอารมณ์ดีแล้วค่อยเดินเข้าโรงแรม เห็นชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้ากำลังจะยกมือทักทายแต่พอเห็นว่าเขากำลังคุยกับใครก็ลดมือลง กลับทิ้งแนบลำตัวเหมือนเดิม

“พี่ปี...” หัวใจบีบรัดเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันจึงเลือกเดินเข้าไปใกล้แต่หลบมุมอยู่หลังเสา ฟังอย่างตั้งใจถึงจะเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม

“ลันขอโทษ ลันมันงี่เง่าเองที่คิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้มองในมุมของพี่ปีเลย ต่อจากนี้ลันสัญญาว่าจะเป็นแฟนที่ดีไม่จุกจิกกับพี่ปีอีกแล้ว เรากลับมาดีกันเถอะนะ ลันรักพี่ปีนะคะ”

ฟังคำพูดเหล่านั้นก็ได้แต่กลั้นหายใจแล้วรอคอยคำตอบของเขาอย่างใจจดจ่อ เม้มปากแน่นพลางภาวนาให้ร่างสูงช่วยปฏิเสธทีเถอะ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นดั่งใจหล่อนเลย…

“พี่ไม่เคยโกรธลันเลยนะ ไม่เคยเลยสักครั้ง” ยกมือลูบศีรษะแฟนสาวด้วยความเอ็นดู จนคนที่แอบมองอยู่หลังเสาถึงกับน้ำตาคลอ ต้องรีบเช็ดน้ำตาออกแล้วยังคงมองภาพตรงหน้าไม่คลาดสายตา

“พี่ปียกโทษให้ลันได้ไหม” เสียงอ้อนของหญิงสาว แทบไม่ต้องเดาว่าฝ่ายชายจะตอบอย่างไร

“พี่ต่างหากล่ะที่ต้องขอโทษลัน พี่จะพยายามเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อเรานะครับ พี่รักลัน...” ฟังจบประโยคก็เดินออกจากโรงแรมทันที ไม่มองภาพคนทั้งสองที่กอดกันกลมพร้อมกับรอยยิ้มกว้างของเขา

เธอยกมือโบกรถแล้วขึ้นไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว น้ำตาไหลมือสั่นแต่ก็ยังกดโทรออกหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว

‘ว่าไงเน่’ ปลายสายก็รับรวดเร็ว

“ฉันจะไปหานายที่โรมนะ”

‘หือ มากับพี่ปีเหรอ อะไรมันจะรวดเร็วขนาดนั้น’

“ไปคนเดียว...พี่ปีเขา...คืนดีกับแฟนแล้ว” ปากสั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นทาง หล่อนทุ่มหมดทั้งตัวและหัวใจสุดท้ายก็ยังพบกับความผิดหวังเหมือนเดิม

ไม่มีทางที่เขาจะรักเธอได้เลย…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel