๒ เมามาย (๓)
“ค่ะ เน่จะกอดพี่ปี” คำตอบรับนั้นทำให้ร่างหนาถอดเสื้อออกอย่างรวดเร็ว กายท่อนบนเปลือยเปล่าพร้อมกับท่อนล่างที่ถูกเจ้าตัวถอดภายในไม่กี่วินาที คนมองกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วถูกผลักลงบนเตียงพร้อมเริ่มด้วยการจุมพิตแสนเร่าร้อน
อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับคนบนเตียงที่กอดรัดกันไม่ยอมห่างกาย คืนนั้นเธอได้ครวญครางใต้ร่างหนา แล้วหลับไปในอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่เคยใฝ่ฝันมาตลอด
ดวงตากลมจำได้ว่าภาพสุดท้ายที่มองเห็นคือหอไอเฟลที่ทองสว่างในยามค่ำคืน ก่อนตนจะหันหลังให้ภาพแสนสวยเพื่อกอดกับเจ้าของร่างกายแสนอบอุ่น เข้าสู่ห้วงนิทราเพื่อไปพบกับความฝันอันแสนสุข
ที่ทำให้ยิ้มได้ทั้งคืน…
คนที่เพิ่งได้สติค่อยลืมตาเหม่อมองเพดานสีขาวพร้อมศีรษะที่ปวดจนต้องยกมือนวดขมับ ก่อนพบว่าแขนข้างหนึ่งของตนถูกของหนักทับเอาไว้จนยกไม่ขึ้น ค่อยหันไปมองว่าสิ่งนั้นคืออะไรก่อนจะพบหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มหันมาหาเขา
“อือ เนเน่...ทำ ทำไม” ถึงกับผงะด้วยความตกใจ เพิ่งรับรู้ว่าภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเขาได้นอนเปลือยกายโดยมีร่างแบบบางที่เปลือยเปล่านอนแนบชิดเช่นเดียวกัน
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้เมาจนภาพตัดหรือเลอะเลือน เพียงแค่อาการอ่อนแอเข้าครอบงำจนทำให้ขาดสติทำเรื่องไม่ควรจนได้ เม้มปากแน่นไม่พูดอะไรอีก ขณะที่หล่อนค่อยลืมตาขึ้นแล้วได้สบตากับเขา
พอจะอ่านความรู้สึกของอีกฝ่ายออกว่าอาจจะกำลังโทษว่าเธอผิดที่ฉวยโอกาสตอนเมา จึงรีบบอกว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทำให้ร่างสูงพูดอะไรไม่ออก
“เมื่อคืนพี่ขอให้เน่กอดเองนะ” เขาทำได้เพียงพยักหน้าแล้วคว้าเสื้อกับบ็อกเซอร์ของตัวเองที่อยู่ข้างเตียงมาใส่ ปล่อยให้ดรุณีกอดผ้าห่มเอาไว้เพื่อปิดบังร่างกายขาวนวลเนียนที่ถูกมือหนาลูบไล้ไปทุกตารางจนจำสัมผัสได้ดีว่าเนียนนุ่มแค่ไหน
“รีบใส่เสื้อผ้าเถอะ” เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอที่กองบนพื้นก่อนจะโยนให้หญิงสาวได้สวม ลุกจากเตียงโดยไม่ทันมองจึงทำให้เท้าเผลอเหยียบเศษแก้วที่ยังแตกกระจายอยู่บนพื้น
“โอ๊ย” ร้องเสียงดังด้วยความเจ็บ คนบนเตียงตระหนกจนรีบลุกมาดูอาการของเขา ลืมเสียสนิทว่าตัวเองไม่ได้สวมอาภรณ์ปิดบังกายสักชิ้น
“พี่ปี เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอรีบจับเท้าเขาเพื่อดูแผลแต่ร่างหนากลับผินใบหน้าหลบ ไม่กล้ามองร่างโปร่งบางที่จับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปเสียหมด เริ่มหายใจถี่แล้วผ่อนลมหายใจออกทางริมฝีปาก เตือนตัวเองว่าหล่อนเป็นน้องสาวแล้วเมื่อคืนที่ทำไปก็เพราะเมา
ไม่มีความต้องการในตัวดรุณีสักนิด ไม่มี…
“เปล่า รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้ว เธอจะยืนแก้ผ้าอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน” พอได้ยินอย่างนั้นก็เพิ่งได้สติ รีบเอามือปิดหน้าอกกับกับจุดซ่อนเร้นพร้อมวิ่งหลบเศษแก้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
“ค่ะ”
หน้าแดงแจ๋กับเมื่อครู่ที่เป็นห่วงเขาจนเผลอเปลือยกายต่อหน้าอีกฝ่าย เป็นห่วงเขาจนลืมสิ้นทุกสิ่ง ต้องตั้งสติให้มากกว่านี้หน่อยแล้ว
ร่างหนาถอนหายใจโล่งอกที่ร่างขาวผ่องวิ่งเข้าห้องน้ำ ส่วนตนก็หยิบกางเกงขึ้นมาสวมแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ยกเท้าขึ้นมาดูว่าบาดลึกแค่ไหน ยังดีที่แค่เหยียบเศษขนาดเล็ก แผลไม่ลึกล้างออกก็น่าจะหายแล้ว
สิ่งที่ทำให้เขากังวลคือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมากกว่า ตอนนั้นอยู่ในช่วงอ่อนไหวบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วย พอเห็นว่ายังมีคนที่รักและยอมทำทุกอย่างเพื่อตนก็เผลอไผล ลงเอยต้องมานั่งปวดหัวกับการขาดความยับยั้งชั่งใจของตัวเอง
“เธอจะทำอะไรน่ะ” นั่งคิดไปเรื่อยไม่ได้สังเกตว่าหล่อนออกจากห้องน้ำเมื่อไหร่ แล้วเอาอุปกรณ์ทำแผลมาตอนไหน
“ทำแผลให้พี่ไง มันไม่ลึกมากเท่าไหร่แค่ล้างน้ำเกลือกับทาเบตาดีนน่าจะพอแล้วล่ะ คราวหลังจะเดินก็ดูพื้นหน่อยนะคะ เดี๋ยวไปเหยียบอะไรเข้าจนได้แผลอีกจะลำบาก” หล่อนพกพาทุกอย่างไว้ในกระเป๋า ทั้งยาสามัญประจำบ้านเพราะหาซื้อลำบาก เกิดฉุกเฉินจะได้ใช้ในทันที
อย่างเบตาดีนก็มีติดกระเป๋าเพราะตอนชอบสุ่มสามได้แผลบ่อยครั้ง ส่วนน้ำเกลือไม่มีก็ใช้น้ำเปล่าล้างแทน สุดท้ายก็ติดพลาสเตอร์เป็นอันเรียบร้อย เขาทำได้เพียงกระพริบตาปริบมองหล่อนทำแผลให้อย่างไม่เชื่อสายตาว่าเด็กน้อยในวันนั้นจะเติบใหญ่แล้ว
ดรุณี…เปลี่ยนไปในสายตาของเขา
กระนั้นหล่อนก็ยังเป็นแค่น้องสาวอยู่ดี ห่างกันเป็นรอบคงคิดอย่างอื่นไม่ไหวหรอก ได้ถูกคนอื่นล้อว่าโคแก่กินหญ้าอ่อนน่ะสิ
อีกอย่างหัวใจของเขาก็มีเพียงลันตา ยังไม่พร้อมเปิดใจรับใครใหม่
“มานั่งได้แล้ว” เห็นเธอยังก้มๆ เงยๆ เก็บเศษแก้วจนสะอาดเรียบร้อย จึงได้กวักมือเรียกให้มานั่งที่โซฟายาว สาวเจ้าก็ยิ้มกว้างรับคำเสียงดัง ค่อยเดินมานั่งลงข้างเขาพร้อมยิ้มกว้างขณะมองหน้าชายหนุ่ม
“ค่ะ”
ปีแสงรู้สึกผิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาอายุมากกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มาก ไม่ควรทำเรื่องน่าอับอายเช่นเมื่อคืนเลย เรื่องทุกอย่างเลยยิ่งยากมากกว่าเดิม
เพราะเขาไม่คิดจะพัฒาความสัมพันธ์กับเธอ…เป็นแค่พี่น้องก็ดีอยู่แล้ว
“เรื่องเมื่อคืน...พี่ขอโทษ พี่เมามากไปหน่อยเลย...เฮ้อ เหมือนคนเห็นแก่ตัวเลยว่ะ เอาเป็นว่าพี่ขอโทษกับเรื่องเมื่อคืนถ้าจะให้พี่รับผิดชอบ พี่ พี่...” พอได้เริ่มพูดก็กลายเป็นประโยควกวนแทบจับใจความไม่ได้
แต่เหมือหญิงสาวจะรู้ดีว่าเขากำลังจะบอกอะไร เธอแสร้งยิ้มกลบเกลื่อนความเศร้าของตัวเอง มองออกชัดเจนว่าเขาไม่อยากรับผิดชอบด้วยการเป็นแฟนกับเธอ
อย่างว่าแหละ…มันคือเซ็กส์ที่เกิดจากความเมาไม่ใช่ความรักสักหน่อย
“พี่รับผิดชอบไม่ได้...เน่เข้าใจแล้วน่า ก็แค่วันไนท์แสตนด์ไม่ได้อยากเรียกร้องให้รับผิดชอบหรอก เราก็วินวินทั้งคู่ไม่มีใครเสียสักหน่อย พี่ปีไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะตายหรอก เน่ไม่ใช่สาวพรหมจรรย์ที่ต้องให้พี่รับผิดชอบอย่างในละครนะ” เธอไหวไหล่แล้วพูดปดคำโต
