๒ เมามาย (๒)
“เปล๊า ก็แค่...ไม่อยากเห็นเพื่อนโสดนาน แล้วก็อยากให้พี่หายจากการอกหักด้วย อีกอย่างมีเธอเป็นพี่สะใภ้ก็ไม่เสียหายตรงไหนสักหน่อย” เขาเองก็ไม่คิดว่าพี่ชายจะเลิกกับแฟนเหมือนกัน แต่พอเห็นว่าเพื่อนตัวเองอาจจะพอมีสิทธิ์จึงรีบจองที่ว่างข้างปีแสงให้ดรุณีทันที
ก็หวังว่าบรรยากาศที่ปารีสจะช่วยให้หล่อนสมหวังดั่งใจหมาย ตอนแรกคิดว่าจะเก็บอาการเอาไว้ สุดท้ายก็ยิ้มกว้างแล้วโถมตัวเข้ากอดแสงเหนือจนเขาตั้งรับแทบไม่ทัน
“ขอบใจนะเพื่อนรัก!” ไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนเลย หญิงสาวรับปากอย่างรวดเร็วแล้วจัดการเปลี่ยนตัวเองภายในสิบนาที จากสาวหน้าจืดกลายเป็นคนสวยได้ในพริบตาเดียว
อย่างน้อยครั้งนี้จะต้องไขว้คว้าโอกาสเอาไว้ เธอไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้วก็มีสิทธิ์ที่จะรักกับเขาได้ไม่ใช่เหรอ
มาถึงโรงแรมหรูที่อยู่ใกล้หอไอเฟลซึ่งมักมีคนมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแทบทุกวัน เข้ามาด้านในก็ตรงขึ้นสู่ห้องพักของเขาโดยในมือถือคีย์การ์ดเอาไว้ กำแน่นด้วยหัวใจเต้นรัว ค่อนข้างตื่นเต้นพอสมควรถึงจะพยายามหายใจเข้าออกแล้วบอกตนเองให้สงบอารมณ์มากแค่ไหนก็ตาม
ไม่ได้เจอเขาสองปีกว่าเห็นจะได้ ไม่เข้าโซเชียลไปเช็กข่าวคราวด้วยซ้ำ คิดว่าตนเองตัดใจได้แล้วแต่ยิ่งใกล้จะได้เจอกอัตราการเต้นของหัวใจก็ยิ่งเร็วจนไม่อาจหักห้ามความรู้สึกของตัวเองได้อีก
เธอยังรักและคิดถึงปีแสง…มากเหลือเกิน
แตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้องนอนของเขาแล้วเปิดประตูเสียงเบา เพียงแค่ก้าวแรกก็เตะเข้ากับขวดไวน์ราคาแพงที่กลิ้งมาโดนเท้าพอดี พอมองไปรอบห้องก็ไม่ต่างจากที่แสงเหนือพูดไว้
“โห มีแต่ขวดไวน์จริงด้วย” พึมพำกับตัวเองก่อนจะเปิดไฟแล้วพบว่าชายหนุ่มที่ควรนั่งอยู่บนเตียงกำลังยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มหมดในรวดเดียวอยู่บนพื้น
เพียงแค่สบตากันขาเธอก็แข็งจนก้าวไม่ออก ดวงตาของเขาดูดุร้ายกว่าทุกครั้งจนเธอต้องหันหลบไม่กล้าจะมองต่อ กระทั่งรับรู้ถึงเสียงดังของแก้วที่แตก พร้อมคำตวาดเสียงดังจนตนสะดุ้ง
เพล้ง!
“ออกไป ฉันอยากอยู่คนเดียว!” สะดุ้งกับเสียงแก้วที่เขาปาลงพื้นจนแตก แล้วยังมาตกใจกับการถูกเขาไล่อีก แต่ก็พยายามไม่ถือสาคนเมา เลือกจะวางกระเป๋าและถอดเสื้อโค้ทเอาไว้บนโซฟา เดินมาเก็บเศษแก้วที่แตกละเอียดกลัวคนเมาจะเผลอเหยียบ ห้องไม่ได้กว้างมากนักแล้วเขายังปาใส่ขอบเตียงจนมันกระจายทั่วพื้นอีก
ส่ายหน้าระอาคนมีอายุที่ทำตัวอารมณ์ร้อนเหมือนเด็ก เธอยังใจเย็นเก็บแก้วใส่ถุงกระดาษต่อไป กระทั่งเจ้าของห้องเริ่มไม่พอใจ เดินตรงเข้ามาคว้าแขนเรียวแล้วกระชากให้เข้ามาใกล้ แต่ปากกลับเอ่ยไล่ไม่สิ้นสุดสักที คนฟังเริ่มจะมีน้ำโหบ้างแล้ว
“บอกให้ออกไป”
“รู้แล้วค่ะ! ขอเก็บเศษแก้วก่อนไม่ได้เหรอ เกิดพี่เหยียบจนแก้วปักเท้าก็ต้องทำแผลยุ่งยากอีก คิดว่าไปหาหมอที่นี่มันง่ายหรือไง ทำเอกสารยุ่งยากจะตาย ไปนั่งค่ะ” ตะคอกกลับอย่างรวดเร็วพร้อมจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
ถึงจะชอบปีแสงก็ใช่ว่าชายหนุ่มจะมาขึ้นเสียงแล้วแสดงอำนาจกับเธอได้สักหน่อย หล่อนจ้องตาเขาไม่ยอมแพ้จนคนเมายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากคนเมาอย่างชัดเจน
“เป็นใครมาสั่งฉัน” คำถามของเขากันให้เธอเป็นคนนอกโดยสมบูรณ์ หล่อนจึงปลดมือหนาออกแล้วผินหน้าไปทางอื่น ตอบเสียงเบาราวกระซิบด้วยความน้อยใจ
“เป็นคนนอกสายตาพี่มั้งคะ...”
แค่น้องสาวของเขายังเป็นไม่ได้เลย…
คนจิตใจอยู่ในช่วงอ่อนแอเห็นอย่างนั้นก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม ก่อนจมูกโด่งจะแตะถูกแก้มนุ่ม โดยที่เธอก็ค่อนข้างตกใจการถึงเนื้อถึงตัวอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน
“เธอน่ะ...ยังรักฉันอยู่เหรอ รักแค่ฉันใช่ไหม ทำไมถึงรักฉันล่ะทั้งที่ฉันก็ไม่ใช่คนดี มีข้อเสียตั้งเยอะ ทั้งบ้างาน ไม่มีเวลาให้แล้วยังผิดนัดตลอด ไม่ค่อยใส่ใจไหนจะลืมวันครบรอบ ไม่เห็นจะมีดีตรงไหนเลย ไม่มีดีสักอย่าง...” สบตากับหญิงสาวในระยะที่เห็นกระทั่งรูขุมขนบนใบหน้าของกันและกัน รับรู้ถึงลมหายใจร้อนที่พัดผ่าน
หัวใจของสาวเจ้าเต้นระส่ำราวจะหลุดออกมานอกอก สายตาถูกดึงดูดให้มองเพียงเขาแค่ผู้เดียว ร่างกายร้อนผ่าวคิดถึงเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ไม่ว่าจะเป็นเพราะเขาเมาหรือความต้องการของเธอ แต่หญิงสาวเชื่อว่าตัวเองจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“พี่ปีสอนการบ้านเก่ง เป็นคนใจเย็น ยิ้มก็สวย เสียงทุ้มตัวสูง ชอบซื้อขนมมาให้กินแล้วยังถักเปียเป็นอีกต่างหาก มีตรงไหนที่ไม่ดีบ้าง...มีแต่ข้อดีทั้งนั้นเลย” หาเหตุผลมาหักล้างกับสิ่งที่เขาพูดทุกอย่าง เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้ดรุณีคนนี้หลงรักปีแสงจนถอนตัวไม่ขึ้น ต่อให้เขาจะหันหลังหรือบอกเป็นร้อยรอบว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอก็ตาม
ความรู้สึกของเธอก็จะไม่เปลี่ยนแปลง
“รักฉันไหม” ถามเสียงพร่าแล้วเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากแทบจะชิดกัน เธอรับรู้ได้ในทันทีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น มือบางจึงเลื่อนมาจับเอวสอบเอาไว้ กำเสื้อของเขาไว้แน่นพร้อมขยับปากเพื่อบอกความรู้สึกของตัวเอง
“เน่รักพี่ปี” พูดจบประโยคก็ถูกเขาคว้าใบหน้ามาจุมพิตอย่างรวดเร็วเต็มไปด้วยอารมณ์จนคนที่เพิ่งเคยเสียจูบครั้งแรกไปแทบไม่เป็น เธอเดทกับผู้ชายหลายเชื้อชาติหลายคนแต่ไม่เคยปล่อยตัวขนาดนี้มาก่อน
เพราะเขาเป็นคนของหัวใจ จึงทำทุกอย่างไปตามอารมณ์และความรู้สึกเบื้องลึก…ที่อยากครอบครองอีกฝ่ายหมดหัวใจ
“อื้อ”
แขนเรียวยกขึ้นโอบลำคอแกร่งเอาไว้ ขนาดเธอไม่ได้ดื่มไวน์ยังมึนเมาไปกับรสชาติจุมพิตของเขาจนแข้งขาอ่อนแรง รู้ตัวอีกทีก็ถูกอุ้มมานอนบนเตียงนุ่มเสียแล้ว
“กอดฉันหน่อยได้หรือเปล่า” คำถามที่เราสองคนต่างรู้กันดีว่าหมายความเช่นไร เธอจ้องเขาด้วยแววตาสื่อความนัยของความรู้สึก ไม่ว่าตอนนี้เขาจะเมาแค่ไหนแล้วหล่อนจะกลายเป็นคนฉวยโอกาส แต่เมื่อได้เริ่มแล้วก็อยากไปให้สุด
