บท
ตั้งค่า

๒ เมามาย (๑)

เมามาย

หลังจากวันนั้นที่เจอภาพบาดตาเข้าไป หล่อนก็ไม่ได้พบกับชายในดวงใจอีกเลย กลับมาเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้จบ ค่อยเข้าเรียนต่อด้านแฟชั่นที่สถาบันมีชื่อเสียงในฝรั่งเศส การเรียนที่หนักกับพัฒนาด้านภาษาทำให้ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่น

ตื่นเช้าก็เรียนตอนบ่ายก็ฝึกงานตกเย็นยังเอางานกลับมาทำที่ห้องอีก หญิงสาวแทบไม่มีเวลาคุยกับใคร เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวอย่างแสงเหนือก็ไปเรียนต่อที่นิวยอร์กไม่ได้พบกันเลย มีบ้างที่คุยกันผ่านข้อความแต่เป็นเธอที่ไม่ค่อยตอบเท่าไหร่

หญิงสาวรู้สึกว่าการเรียนหนักเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง คือไม่ต้องมีเวลาว่างมาเช็คความสัมพันธ์ของใครบางคนว่ารักกันดีกับแฟนหรือเปล่า แล้วก็ไม่ว่างจะเริ่มความสัมพันธ์กับผู้ชายที่เข้ามาจีบ อยากเรียนให้จบมากกว่า

อีกไม่กี่เดือนก็จะจบจากสถาบัน คงหางานทำพัฒนาฝีมือตัวเองค่อยกลับไทย หรืออาจจะไม่กลับเลยก็ได้…

มันไม่มีสิ่งใดแน่นอนหรอก

“เซอร์ไพรส์!” เดินงัวเงียลงมาข้างล่างอพาร์ทเม้นที่ตนอาศัยก็ต้องสะดุ้งเมื่อเพื่อนสนิทมาหยุดยืนตรงหน้าพร้อมเสียงดังทำเอาคนอยู่ในอาการสะลึมสะลือถึงกับลืมตาตื่น

เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะยิ้มแล้วเข้ามากอดร่างสูงที่ตอนนี้เป็นหนุ่มหล่อต่างจากในวันวานราวคนละคน ไม่ได้เจอกันนานรู้สึกคิดถึงเขาเป็นอย่างมาก ครั้งยังเรียนด้วยกันมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาชายหนุ่มตลอด พออยู่ตัวคนเดียวถึงได้รู้ว่าเวลามีเพื่อนอยู่ด้วยมันดีแค่ไหน

ถึงอีกฝ่ายจะขยันขัดเธอเวลาพูดก็ตามเถอะ

“แสงเหนือ! มาได้ไงเนี่ย!” ปล่อยร่างหนาเป็นอิสระแล้วถามด้วยความตื่นเต้น เจ้าตัวเห็นว่าเพื่อนยิ้มกว้างก็พลอยยิ้มไปด้วย ยิ่งอยากเห็นปฏิกิริยาของดรุณีเมื่อตนกำลังจะบอกข่าวดีให้หล่อนทราบ เจ้าตัวจะว่ายังไงนะ

“ถามแปลกมาได้ไง ฉันก็นั่งเครื่องบินมาเที่ยวน่ะสิ...ติดต่อเธอยากมากเลยว่าจะมาเจอที่นี่ซะเลย เป็นยังไงบ้างยังขี้เหร่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” ยกมือตรึงไหล่เล็กแล้วจับเธอหมุน

หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวย้วยกับกางเกงวอร์มขายาว ทับด้วยเสื้อโค้ทกันลมตัวยาวพอคลายหนาวได้บ้าง ใบหน้าไม่แต่งแต้มสวมเพียงแว่นสายตาเท่านั้น

ดูไม่จืดเลยจริงๆ

“ปากนายนี่นะ เข้ามาก่อนสิ” เกือบชูหมัดต่อยปากเพื่อนแล้ว ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางจูงมือหนาขึ้นมาห้องของตัวเอง เธอพักคนเดียวในห้องกว้างซึ่งราคาต่อเดือนไม่ใช่น้อย แต่บิดาก็เต็มใจจ่ายเพื่อลูกสาวเพียงคนเดียวที่รักยิ่ง

มารดาของเธอเพิ่งจากไปไม่กี่เดือน สร้างความเสียใจแก่หญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง กลับมาก็โหมงานหนักจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นให้ฟุ้งซ่าน ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว เธอรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นมากเมื่อรับมือกับปัญหาได้ลำพังไม่ต้องพึ่งคนอื่นให้ปลอบเหมือนในอดีต

ดรุณีโตแล้วไม่ใช่เด็กอีกต่อไป…

“นายมากับใครแล้วจะมาอยู่กี่วัน มีที่พักหรือเปล่าจะพักกับฉันก็ได้นะ” เข้ามาในห้องก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วเดินมากวาดของบนโซฟาลงไปกองบนพื้น คนที่ตามเข้ามาถึงกับมองโดยรอบแล้วส่ายหัว

ห้องเก็บบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ มีเศษผ้ากับผ้ากองโตอยู่เต็มไปหมด ยังดีที่เตียงว่างเปล่า ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองเดินเข้ามาในร้านขายผ้าเป็นแน่

หล่อนรินน้ำดื่มมาให้แขกแล้วตบที่ว่างข้างตัวเองให้เขานั่งลง เจ้าตัวจึงจำต้องนั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ พูดถึงธุระสำคัญของตัวเอง ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีของคนฟัง

“ฉันมากับพี่ปีว่าจะอยู่สักหนึ่งสัปดาห์ ส่วนที่พักก็นอนโรงแรมนั่นแหละพี่ปีจองไว้แล้ว...พอดีฉันกะจะมาสวีทกับดาเรียด้วย ไม่ค่อยได้เจอกันเลยจะมาเซอร์ไพรส์สักหน่อย” พอรู้ว่าเขามากับใครนัยตาก็เบิกกว้างขึ้นเปิดการรับรู้ทันที แต่ยังไว้ท่าทีพูดเรื่องความรักของเพื่อนสนิทกับแฟนสาวชาวญี่ปุ่นซึ่งเติบโตอยู่นิวยอร์ก

“หวานกันตลอด คบมาสองปีแล้วนี่น่า” เอ่ยล้อแต่เพื่อนก็ไม่สะท้าน

เจอกันตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย หล่อนเป็นคนที่ทำให้เขาเป็นผู้เป็นคน กลับมาจริงจังกับการเรียนมากขึ้น เริ่มเห็นอนาคตที่จะมีร่วมกันแต่ไม่รู้จะถึงวันนั้นหรือเปล่า

นักเรียนคนไทยด้วยกันหลายคนมักคิดว่าหล่อนอกหักจากเขา พากันเยาะเย้ยสมน้ำหน้า ไม่รู้เลยว่าระหว่างดรุณีกับแสงเหนือไม่เคยมีใครคิดเกินเพื่อน

“ก็ต้องเพิ่มความหวานเป็นปกติ แล้วอีกอย่างกะจะมาขอร้องเธอด้วย คิดว่าเธอน่าจะช่วยฉันได้เพราะนอกจากเธอก็ไม่เห็นว่าใครเหมาะสมแล้ว” เริ่มเข้าเรื่องสำคัญทำให้เจ้าของห้องถึงกับชะงัก หรี่ตามองแสงเหนือไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่

เพื่อนคนนี้มาดีหรือร้ายกันนะ…

“ขอร้อง...เรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายฉันไม่ทำนะ” ออกตัวอย่างรวดเร็วแล้วจ้องใบหน้าคม ขณะที่เขาเองก็มองหล่อนไม่วางตา ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ทราบเรื่องบางอย่าง คงต้องบอกให้รู้หน่อยแล้วล่ะ

“พี่ปีเลิกกับพี่ลันแล้ว” จบประโยคนั้นหล่อนถึงกับชะงัก เป็นความรู้สึกงุนงงมากกว่าจะดีใจ เพราะตัดใจไปแล้วว่าสองคนนี้คบจนแต่งงาน จึงมุ่งมั่นเรียนให้จบเอาใจใส่เรื่องของตัวเอง ไม่อยากเจ็บปวดเพราะรักข้างเดียวอีก

แต่พอทราบเช่นนี้…หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นพร้อมไฟที่เคยมอดดับถูกจุดสว่างอีกครั้ง

“หะ...ทำไมถึงเลิก คบกันมานานแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ได้ถามเหมือนกัน เห็นบอกว่าเลิกกันแล้วไม่บอกเหตุผล...พี่ปีเอาแต่ดื่มเหล้าอย่างเดียว มาถึงปารีสก็เข้าห้องสั่งไวน์มาดื่มหมดไปหลายขวดแล้ว จะปล่อยให้อยู่คนเดียวก็กลัวจะดื่มจนไปก่อเรื่อง เลยจะขอให้เธอช่วยไปดูพี่ชายฉันหน่อย” คนฟังพยักหน้าเข้าใจ

ไม่แปลกที่เขาจะดื่มหนักขนาดนั้น คบมาหลายปีเห็นหวานลงโซเชียลตลอด เธอเองยังตกใจที่เลิกรา นั่งทบทวนคำพูดของเพื่อนพยายามเก็บสีหน้าของตัวเองให้มิด

เคยคิดว่าตัดใจได้แล้ว แต่เมื่อทราบเช่นนี้หัวใจก็กลับมาทำงานหนักอีกครั้ง

เกลียดความรู้สึกที่คิดว่าตัวเองอาจจะมีหวังเหลือเกิน เจ็บแล้วไม่เคยจำสักทีดรุณี

“แล้วนายล่ะ”

“ก็บอกว่ามาสวีทกับดาเรีย พวกฉันอาจจะไปเที่ยวกันหลายที่...จองตั๋วจะไปโรมสักสองสามวัน ระหว่างนี้ก็ต้องรบกวนเธอแล้วนะ” ตบบ่าเล็กพลางยักคิ้วให้เป็นอันรู้กัน ร่างบางถึงกับหลุดหัวเราะขำขัน รู้ทันเจตนาของอีกฝ่าย

“นายเปิดทางให้ฉันเหรอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel