๑ ปักใจ (๓)
กระทั่งเห็นว่าเธอเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว จึงได้ลุกไปหยิบน้ำมายื่นให้หญิงสาว หลายปีที่เรียนอยู่ต่างปะเทศด้วยกนใช่ว่าหล่อนร้องไห้เรื่องปีแสงครั้งแรกเสียเมื่อไหร่ เห็นบ่อยจนกลายเป็นชินและเฉยชาไปแล้ว
เคยนั่งแนะนำเป็นวรรคเป็นเวรสุดท้ายคนตรงหน้าก็ไม่ยอมทำตามอยู่ดี จึงเลือกปล่อยให้ร้องจนพอใจค่อยเปลี่ยนเรื่องทีหลัง
“แล้วจะกลับไทยวันไหน”
“สัปดาห์หน้า...อยากไปหาแม่” พอดีมีวันหยุดจึงอยากกลับบ้าน เธอแทบไม่ได้เจอหน้ามารดาเลย ถึงท่านจะแย่แค่ไหนอย่างไรก็ให้กำเนิดจึงไม่อาจละทิ้งหน้าที่ของบุตรได้
ร่างสูงได้ยินอย่างนั้นก็ทำเพียงพยักหน้า ไม่ค่อยอยากกลับไทยเท่าไหร่จึงทำได้แค่อวยพรเพื่อนสนิทในการเดินทางเท่านั้น
“อือ เดินทางปลอดภัย” ดรุณีพยักหน้าก่อนดื่มน้ำหมดแก้ว ค่อยลุกจากเตียงของเขาไปห้องตัวเองบ้าง รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังเจ็บที่เห็นว่าปีแสงรักกับแฟนสาวได้หลายปีทั้งยังมีแผนจะแต่งงานอีก
คงต้องตัดใจอย่างจริงจังสักที…
ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปหามารดาที่เรือนจำ ได้พูดคุยผ่านโทรศัพท์ที่เห็นใบหน้าของท่านว่าโทรมเพียงใด แววตาไม่มีความสดใสสักนิด พอเห็นลูกสาวสุดที่รักก็พอจะยิ้มได้บ้าง ทว่าคำพูดที่คุยด้วยก็มีเพียงการบอกให้เลือกคู่ครองที่ร่ำรวย
ท่านยังยึดติดกับเรื่องฐานะไม่เปลี่ยน หญิงสาวก็มีเพียงพยักหน้าไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป คุยสักพักก็หมดเวลาเยี่ยมจึงเลือกจะกลับมาบ้าน พบหน้าบิดาและพี่ชายกำลังนั่งคุยกันที่ห้องรับแขก
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ พี่ฉาย” ยกมือไหว้ทั้งสองแล้วค่อยค้อมตัวเดินไปนั่งลงข้างคุณอาทิตย์ ไกรวรวงศ์ อดีตประธานบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ของประเทศที่ตอนนี้ยกงานทั้งหมดให้บุตรชายเป็นผู้ดูแล ส่วนตนก็ออกมาเข้าวัดปฏิบัติธรรมเสียส่วนใหญ่ ละทางโลกมุ่งทำบุญเพื่ออย่างน้อยจะได้ลบล้างความผิดในอดีตได้บ้าง
เพราะท่านเป็นต้นเหตุทำให้ภรรยาและเพื่อนรักต้องจากไป แล้วยังพรากคนรักของลูกชายอีก ป่านนี้ยังตามหาตัวหล่อนไม่พบ สร้างความทุกข์ให้ตะวันฉายเป็นอย่างมาก
“ไปเยี่ยมแม่มาเหรอ” ยกมือขึ้นโอบไหล่ร่างบางที่โถมกายกอดคนเป็นพ่อเอาไว้ อ้อนเหมือนเด็กแม้จะอายุครบสิบแปดปีแล้วก็ตาม
“ค่ะ” พยักหน้าตอบรับ ก่อนที่คนเป็นพี่จะรีบลุกขึ้นทันทีเพราะรู้ว่าบทสนทนาต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
เขาไม่ต้องการรับรู้เรื่องหญิงผู้นั้น แต่การจะไม่ให้พูดก็ดูเผด็จการเดินไป จึงเลือกเดินออกมาดีกว่า ปล่อยให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน อย่างไรคนคนนั้นก็เป็นแม่ของน้องสาว หากให้ตัดขาดคงทำไม่ได้
“ผมขอตัวนะครับ ต้องการพักผ่อน” ข้ออ้างที่ต่างทราบกันดีว่าเหตุผลคืออะไร พ่อลูกจึงเงียบแล้วรอกระทั่งร่างหนาเดินพ้นประตู ท่านค่อยหันมาถาม
“แม่เป็นยังไงบ้างล่ะ” ความรักไม่หลงเหลือให้แล้วเมื่อรู้ว่านางทำอะไรลงไปบ้าง มีเพียงความห่วงใยในฐานะเพื่อนมนุษย์เท่านั้น
“สบายดีค่ะ...ถามถึงคุณพ่อด้วยว่าสบายดีหรือเปล่า” ประโยคหลังเธอเติมเองเพราะมารดาเอาแต่ก่นด่าสามีที่ไม่ยอมมาหาหรือส่งทนายมาช่วยเรื่องคดีเลยสักครั้ง สุดท้ายก็ต้องติดคุกตลอดชีวิต ทำความดีเพื่อให้ได้ลดหย่อนจึงถูกจองจำยี่สิบปี ถ้าทำดีอีกหน่อยก็อาจได้ออกมาเร็วกว่านี้
กระนั้นนางก็ไม่ได้ทำความดีเอาแต่สร้างเรื่องราวในสถานกักกันให้ผู้คุมต่างปวดหัวในความอารมณ์ร้าย
“อือ” พยักหน้าตามเรื่อง แล้วค่อยเปลี่ยนบทสนทนา
“ลูกจะกลับลอนดอนวันไหน”
“มะรืนค่ะ หยุดได้แค่นี้...คุณพ่อคะ เน่อยากเรียนต่อแฟชั่นดีไซน์ที่ฝรั่งเศสค่ะ คุณพ่อจะว่าอะไรหรือเปล่าคะ...” ได้ทีก็รีบอ้อนท่านเรื่องการเรียนของตัวเอง แม้ใจจะแน่วแน่แล้วว่าชอบสายงานนี้แต่ก็ไม่มั่นใจว่าบิดาจะอนุญาตหรือเปล่า ทำได้เพียงส่งตาปริบให้คนตรงหน้าเห็นใจ
ก่อนไปลอนดอนท่านเคยเปรยอยากให้เรียนบริหารมาช่วยดูแลบริษัท แต่หล่อนไม่ชอบงานทางด้านนี้เอาเสียเลย
“ลูกอยากเรียนพ่อจะว่าอะไรได้ล่ะ ถ้ามันเป็นความชอบของลูกก็เรียนไปเถอะ” ยกมือลูบศีรษะมนจนเธอยิ้มกว้าง โอบกอดท่านพร้อมรอยยิ้มแล้วค่อยผละออกมาจ้องใบหน้าที่มีร่องรอยแห่งวัย
“แล้วไม่อยากให้เน่เรียนบริหารเหรอคะ จะได้มาช่วยงานที่บริษัทของเรา”
“เน่ไม่ชอบไม่ใช่เหรอ งานที่บริษัทให้คนอื่นทำก็ได้เรามีเงินจ้างพนักงานเยอะแยะไม่จำเป็นต้องทำเองหมดหรอก เรียนตามที่ลูกอยากเรียนนั่นแหละ พ่อตามใจเรา” พอได้ยินแบบนั้นก็ปลดล็อคความกังวลในใจ กอดท่านเอาไว้อีกครั้งด้วยความรัก
“ขอบคุณนะคะ เน่รักคุณพ่อที่สุดเลย” สองพ่อลูกนั่งกอดกันสมกับความคิดถึง ก่อนคุณอาทิตย์จะถามเกี่ยวกับเพื่อนสนิทที่คนทั้งบ้านคิดว่าเป็นแฟนของหล่อนกันหมดแล้ว
แม้ระหว่างพวกเราจะไม่มีใครคิดล้ำเส้นเลยก็ตาม…
“กับเหนือเป็นยังไงบ้าง พัฒนาไปถึงไหนแล้ว” ถึงกับทำหน้าเหนื่อยหน่าย เหมือนทุกคนจะเชียร์ให้รักกันเสียเหลือเกิน ช่างไม่รู้เลยว่าคนที่หล่อนรักคือพี่คนโตไม่ใช่น้องคนเล็กของบ้านอัครเศรษฐ์เสียหน่อย
“ถึงไหนอะไรกันคะ เป็นเพื่อนกันค่ะ ไม่มีนอกมีในเพื่อนสนิทเท่านั้นแล้วก็ไม่พัฒนาเป็นอย่างอื่นด้วย คุณพ่อสบายใจได้เลยว่าลูกสาวคนนี้โสดสนิท” ยังคงอ้อนท่านเหมือนเดิมแต่คุณอาทิตย์ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
“พ่อไม่ว่าอะไรถ้าจะคบใคร ขอแค่เรียนให้จบแล้วก็ต้องป้องกัน” พูดเรื่องสำคัญเพราะรู้ดีว่าการจะห้ามความรักเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยก็ควรป้องกันไม่ให้ท้องในวัยเรียน หล่อนทำได้เพียงโอดครวญแล้วบอกพ่อด้วยความสัตย์จริง
“โธ่คุณพ่อ เน่บอกแล้วไงคะว่าไม่มีจริงๆ”
“พ่อก็แค่บอกไว้ เรื่องเรียนเป็นหลักให้ความรักเป็นเรื่องรอง”
“รับทราบค่ะ” ตะเบะมือรับคำแล้วขอตัวขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง
คุณอาทิตย์มองตามหลังบุตรสาวคนเล็กด้วยแววตารักใคร่ ไม่ว่าจะได้ใครมาเป็นลูกเขยขอแค่ให้รักลูกสาวและดีกับหล่อนก็พอแล้ว
