บท
ตั้งค่า

26

รมิดาลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอันอบอุ่น แต่เจ้าของยังหลับสนิท ถึงแม้จะไม่ใช่ห้องนอนที่คุ้นเคยแต่ก็ไม่รู้สึกว่าแปลกที่เลยสักนิด เมื่อคืนเขากลับมาตอนไหนไม่รู้ แต่คงจะดึกมาก เด็กสาวค่อย ๆ ขยับตัวออกมาเบา ๆ รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปด้านล่าง ตอนนี้หล่อนไม่ได้อยู่กันเพียงลำพังกับสามี จะมัวโอ้เอ้ นอนเล่นอยู่ไม่ได้ หล่อนเกรงใจแม่สามีหากจะนอนตื่นสาย…

“คุณแม่ขา ให้หนูช่วยนะคะ” รมิดาเดินเข้าไปหาคุณอิงอรที่ยืนสั่งงานอยู่ในครัว

“หนูดา รีบลงมาทำไมล่ะลูก ไม่ต้องทำอะไรหรอกจ่ะ บ้านเรามีคนทำงาน ทำหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว หนูก็แค่เรียนรู้เรื่องงานบ้านงานครัวเอาไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นจะสั่งคนในบ้านไม่ได้ แต่รอเอาไว้ว่าง ๆ วันหยุด หรือวันที่พี่เขาไม่อยู่ค่อยมาเรียนกับแม่นะจ๊ะ วันนี้หนูกลับไปดูแลพี่เขาเถอะ ได้ข่าวว่าเมื่อคืนกลับดึก มันน่าตีนักเชียวลูกคนนี้ เพิ่งพาเมียมาบ้านวันแรกแท้ ๆ กลับทิ้งไปเที่ยวเสียได้ หนูโกรธพี่เขาหรือเปล่าลูก” คุณอิงอรถามแล้วก็ รอดูท่าที ลูกสะใภ้

“หนูไม่โกรธค่ะ ความจริงคุณเขาก็ไม่ได้อยากออกไปไหนหรอกนะคะ แต่คงเพราะเกรงใจพี่แทนเห็นว่ามี เพื่อน ๆ รออยู่หลายคนค่ะ” รมิดา แก้ไขความเข้าใจของแม่สามีเสียใหม่ เป็นการปกป้องสามีโดยไม่รู้ตัว

“ดีแล้วลูก คิดได้อย่างนั้นจะได้ไม่ร้อนใจ ทีแรกแม่ยังหวั่นใจว่าหนูอายุห่างจากพี่เขามากจะไปกันรอดไหม ลูกชายแม่ยิ่งไม่ค่อยชอบง้อผู้หญิงอยู่ด้วย ตอนหนุ่มรุ่น ๆ ก็เดี๋ยวเลิกเดี๋ยวรักไม่รู้กี่คน พ่อเลี้ยงเขาทำงานหนัก ถ้าเมียปรนนิบัติดูแล ดี ๆ ไม่ทำให้ร้อนอกร้อนใจก็เท่ากับช่วยแบ่งเบาภาระเขาไปด้วย แล้วที่สำคัญ ถ้าที่บ้านร่มเย็นเป็นสุข เขาก็ไป ไหนไม่รอดหรอกลูก” คุณอิงอรถือโอกาสสอนสั่งลูกสะใภ้ด้วยความเมตตา เด็กคนนี้หัวอ่อน และก็น่าจะเป็นคนที่มีจิตใจดีงามด้วย ถ้าได้ปลูกฝังสิ่งที่ดี ๆ หล่อนน่าจะเป็นเมียและแม่คนที่ดีคนหนึ่งเชียวแหละ….คุณอิงอร นึกเผื่อไปถึงหลาน ๆ ที่จะได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่อย่างดี ไม่สอนอะไรผิด ๆ เด็กบางคนไม่รู้เติบโตมาจากการเลี้ยงดูแบบไหน ถึงได้มีทัศนคติที่ย่ำแย่ มองทุกอย่างรอบตัวลบไปหมด ยิ่งโตจิตใจยิ่งดำมืด....หล่อนไม่อยากให้ลูกหลานเป็นคนแบบนั้น

“ค่ะ คุณแม่หนูจะพยายาม แต่ว่าหนูทำอะไรไม่ค่อยเป็น ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ คุณเขาถึงเรียกหนูว่ายัยเซ่อบ่อย ๆ หนูรบกวนคุณแม่ช่วยเมตตาสั่งสอนหนูด้วยนะคะ” เด็กสาวยิ้มซื่อ ๆ ให้คุณอิงอร และแน่นอนว่าผู้ใหญ่อย่างคุณอิงอร ย่อมเอ็นดูเด็กที่รู้จักอ่อนน้อม ไม่แข็งกระด้าง แถมยังเรียบร้อยอ่อนหวาน....ยิ่งรู้จักก็ยิ่งหลงรักลูกสะใภ้ตัวน้อยเข้าให้แล้ว

“แหมตาอาชานี่ปากร้ายจริง ๆ กล้าว่าเมียขนาดนี้เชียวหรือ ไม่เป็นไรจ่ะ แม่จะค่อย ๆ สอนหนูเอง ถ้าหนูไม่รำคาญคนแก่เสียก่อน”

“ขอบคุณค่ะคุณแม่ หนูไม่รำคาญหรอกค่ะ หนูอยากดีพอสำหรับคุณเขาค่ะ” รมิดาบอกประสาซื่อ เพราะนั่นคือสิ่งที่หล่อนตั้งใจอย่างแน่วแน่ ชาติกำเนิดเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หล่อนไม่ใด้เกิดมาเป็นลูกหลานผู้รากมากดี แต่เรื่องอื่น ๆ ที่พัฒนาได้ หล่อนจะไม่รั้งรอที่จะเรียนรู้และฝึกฝนเด็ดขาด

“ชื่นใจแม่จริง ๆ หนูดา ขึ้นไปดูแลสามีเถอะลูก ไม่ต้องกังวลกับงานข้างล่างเลย ต่อไปนี้หนูแค่ตั้งใจเรียนและดูแลพี่เขาให้ดีก็พอลูก ส่วนเรื่องอื่น ๆ เราค่อย ๆ มาเรียนรู้กันดีไหมยังมีเวลาอีกมาก” คุณอิงอรบอกด้วยเสียงนุ่มนวล และเปี่ยมไปด้วยความเมตตา

รมิดาน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าจะได้รับความเมตตาจากแม่สามีขนาดนี้ ก่อนมาที่นี่หล่อนกังวลแทบแย่ ว่าตัวเองจะเป็นสะใภ้ที่ดีได้อย่างไร ความสามารถอะไรก็ไม่ค่อยมี ไม่ประสีประสาสักอย่าง เกรงว่าจะเป็นที่ขวางหูขวางตาของแม่สามี แต่พอมาถึง ทุกอย่างกลับตรงกันข้ามไปหมด เหมือนหล่อนเข้ามาเป็นลูกสาวของบ้านหลังนี้อีกคน ทุกคนเต็มใจต้อนรับอย่างอบอุ่น

“หนูขอกอดคุณแม่ได้ไหมคะ”

คุณอิงอรไม่ตอบ แต่อ้าแขนรับ เด็กสาวโผเข้ากอด รู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล ทำให้ผู้สูงวัยต้องปลอบอยู่พักใหญ่ ฟังจากที่ลูกชายเล่าให้ฟังก็น่าสงสารจริง ๆ เด็กสาวเหมือนตัวคนเดียวในโลก คงจะเป็นโชคชะตาที่พลิกจากร้ายกลับกลายเป็นดี นำพาให้มาเจอกับลูกชายคนโต ที่พอเจอกันก็เปิดใจรับเลย ทั้งที่พ่อหัวดื้อไม่คิดจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที

รมิดาเปิดประตูห้องนอนเข้ามา พ่อเลี้ยงอาชายังอยู่ในชุดนอน ยืนกอดอก อยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่และหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เห็นเมียเด็กเดินเข้ามาพอดี

“เป็นอะไรไป นั่นร้องไห้หรือเปล่าใครทำอะไร” ผู้เป็นสามีขมวดคิ้วเป็นปม งุนงง ที่เห็นน้ำตายังเปรอะเลอะแก้ม ปลายจมูกยังแดง ๆ อีกด้วย

เด็กสาว เดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับโถมตัวเข้ากอด ซุกหน้าหาไออุ่น อันเป็นที่พักพิงที่หล่อนรู้สึกปลอดภัยและสุขใจที่สุด

“ไม่มีใครทำอะไรหนูหรอกค่ะ หนูกำลังดีใจที่คุณแม่เมตตาหนูมาก ๆ เลยค่ะ”

“อ้าว ลงไปเจอคุณแม่มาแล้วเหรอ ท่านว่าไง” เป็นงง ที่ดีใจแล้วทำไมต้องร้องไห้

“คือ...หนูคิดว่า เป็นลูกสะใภ้ก็ต้องลงไปทำกับข้าว ดูแลรับใช้คนในบ้านของสามีใช่ไหมคะ แต่คุณแม่บอกว่าไม่ต้อง ให้หนูดูแลคุณ แล้วก็ตั้งใจเรียนเท่านั้น อยากเรียนการบ้านการเรือน ท่านจะสอนให้ในวันว่าง ๆ ค่ะ”

“อืม ก็ดีแล้วนี่ ตัวแค่นี้จะดูแลรับใช้คนในบ้านสามีได้ยังไงไหว” พ่อเลี้ยงหนุ่มยิ้มเอ็นดู ยัยตัวยุ่งที่ช่างคิดไปได้จริง ๆ

“ก็หนูเคยเห็นในละครนี่คะ ก่อนมาก็เกร็งแทบแย่” รมิดาสารภาพแบบอาย ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel