25
“กำลังจะออกไปนี่แหละ เผื่อคนแถวนี้จะใจดีให้ยืมรถไปขับอวดสาว” โจ้พูดพร้อมกับเหล่ตามองมาทางพี่ชาย
“อย่าแม้แต่จะคิด ฉันบอกแล้วว่าถ้าอยากได้ต้องหาเอง ไม่ใช่ยืมเขาไปทำเท่ห์ ถามจริง มันเท่ห์ตรงไหนวะ ไอ้โจ้” พ่อเลี้ยงหนุ่มอบรมน้องชายเสียยกใหญ่ เรื่องนี้พูดมาหลายครั้งแล้ว เพราะธุรกิจโรงแรมในเครือที่คุณพ่อบริหารอยู่ หวังให้ลูกชายมาแบ่งเบาภาระ แต่นายโจ้ยังเอ้อระเหยไม่เป็นโล้เป็นพาย ส่วนตัวเขาเองก็ช่วยเหลือได้เพียงในเขตภาคเหนือ ซึ่งก็มีหลายแห่ง ไหนยังจะต้องพัฒนาสวนส้ม ที่เขารักมาก อีกต่างหาก
“คร๊าบบบบ....ไม่รู้ว่ารถกับเมียหวงอะไรมากกว่ากัน” ชายหนุ่มบ่นพึม ก่อนจะขอตัวออกไปตระเวนท่องราตรี กับกลุ่มเพื่อนฝูง
“เที่ยวนี้จะอยู่กี่วัน อยู่นาน ๆ หน่อยสิแม่เขาจะได้หายคิดถึง” บิดาเอ่ยถาม
“ฉันไม่ง้อตาอาชาแล้วล่ะคุณ มีหนูดาอยู่ทั้งคน...อยากจะรีบกลับไร่กลับสวนก็ไปเถอะ...เชอะ....”
“อะไรกันครับคุณแม่ ไม่ทันไรผมก็ตกกระป๋องแล้วหรือครับ”
“ฮึ....ไม่ต้องมาพูดดี....แม่ว่าพาหนูดาไปพักผ่อนก่อนเถอะ ง่วงจนตาเชื่อมแล้วนั่น แม่ให้เด็ก ๆ ทำความสะอาดห้องของลูกไว้แล้ว”
พ่อเลี้ยงหนุ่มจูงมือรมิดาเข้ามาในห้องนอนกว้างขวาง ตกแต่งด้วยโทนสีเทาขาว ไม่ได้อึมครึมเหมือนที่นึกกลัว แลดูสะอาดตา แบบนี้ให้นอนคนเดียวก็พอได้ เพราะตู้เตียงเป็นแบบสมัยใหม่ ไม่น่ากลัวเหมือนที่โน่น
“อยู่ได้หรือเปล่า หรืออยากไปนอนกับยัยกวาง” ถามเพราะรู้ว่าเมียเด็กขี้กลัวขนาดหนัก
“หนูนอนได้ค่ะ ตู้เตียงที่นี่ ไม่น่าจะมีเจ้าของเก่า”
“ฮ่า...ฮ่า...ก็ฉันนี่ไงเจ้าของเก่า”
“ของคุณ หนูไม่กลัวหรอกค่ะมีแต่อุ่นใจเหมือนคุณอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา” คำพูดออกจากใจ ไม่มีเสแสร้ง ทำให้หัวใจคนฟังพองฟูได้ไม่น้อย
“ช่างพูดนะ เมียฉัน” พ่อเลี้ยงอาชาก้มลงหอมแก้มเมียเด็กฟอดใหญ่
“พรุ่งนี้จะพาไปซื้อของ อยากแต่งห้องใหม่หรือเปล่าเอาแบบที่เธอชอบ ตามสบายเลย จะหวานแหววยังไงก็ได้ ฉันอนุญาต เพราะต่อไปนี้เธอจะต้องใช้ห้องนี้มากกว่าฉันเสียอีก”
“ไม่ดีกว่าค่ะ สิ้นเปลืองเปล่า ๆ อีกอย่างเป็นแบบนี้ก็ดี เหมือนมีคุณอยู่ด้วยทุกวัน ทุกคืน ดีออกค่ะ” รมิดาฉีกยิ้มหวาน กอดแขนแล้วเอียงศีรษะเข้าหาถูไถเหมือนลูกแมวช่างอ้อน
"งั้นก็ตามใจ" บอกพร้อมกับรวบเรือนร่างอวบอิ่มเข้ามากอดอย่างรักใคร่ หลังจากยืนฟังหัวใจเต้นภาษารักสักพัก สาวน้อยก็ผละออก
"หนูขอไปจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ก่อนนะคะ"
"ไม่ต้องรีบหรอกน่า ขอชื่นใจก่อน" พ่อเลี้ยงหนุ่มหอมแก้มใส ๆ อีกหลายฟอดกว่าจะยอมปล่อยเด็กสาวให้ไปจัดการตามที่บอก
เสียง สมาร์ทโฟนของพ่อเลี้ยง ที่วางบนโต๊ะเล็กสั่น ครืด ๆ อยู่นานแล้ว รมิดาเดินไปหยิบมาส่งให้สามี เพราะนึกว่าเขาไม่ได้ยิน ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ
“ฮัลโหล ว่าไงวะไอ้แทน”
“ได้ข่าวว่าพาเมียเข้าบ้าน ไม่มาสังสรรค์กันหน่อยหรือวะ”
“รู้ได้ไง จมูกไวอีกตามเคยนะมึง”
“เออ กูเจอไอ้โจ้ มันเลยบอกว่าพี่ชายพาเมียเด็กมาเปิดตัว มึงก็พาน้องเขามาเที่ยวสิ ยังหัวค่ำอยู่เลย
“หัวค่ำอะไร จะสี่ทุ่มแล้ว”
“แหม...ทำเป็นเด็กอนามัยไปได้นะมึง ต้องรีบกินนมนอนหรือไง”
“เออ ๆ เดี๋ยวกูแวะไป แป๊บเดียวนะโว้ย” พ่อเลี้ยงอาชา รับปากตัดรำคาญ ไม่อย่างนั้นไอ้แทนคงไม่เลิกเซ้าซี้
พ่อเลี้ยงหนุ่มนั่งรอ เมียเด็กออกจากห้องน้ำ หล่อนเดินเข้ามาหา กลิ่นหอม ๆ แก้มใส ๆ จึงรวบตัวเข้ากอด และหอมแก้มไปหลายฟอด อยากจะเปลี่ยนใจเหลือเกิน นอนกอดเมียน่าจะดีกว่าออกไปข้างนอก แต่ก็จนใจ เพราะรับปากเพื่อนไปแล้ว
“คุณจะอาบน้ำเลยไหมคะ หนูจะได้เตรียมน้ำให้” เด็กสาวอมยิ้ม วางมือไว้บนบ่าแข็งแรงตั้งใจจะช่วยถูหลังให้เขา
“ไม่ต้องหรอก ฉันจะออกไปข้างนอก ไอ้แทนมันโทรมาชวน เพื่อน ๆ รวมตัวกันอยู่พอดี”
“คุณจะไปดื่มเหล้าเหรอคะ”
“เอ่อ...ก็อาจมีบ้างนิดหน่อย” ไม่รู้ทำไม ต้องเกรงใจเด็กสาวด้วย ทั้งที่เจ้าหล่อนก็ไม่ได้พูดว่าอะไร….หรือว่ากูจะเริ่มกลัวเมียวะ...ไม่นะ..พ่อเลี้ยงรีบสั่นหน้าสลัดความคิดฟุ้งซ่าน
“อย่าดื่มมากนะคะ หนูเป็นห่วง” รมิดาเดิน โอบแขนไปรอบคอก่อนจะแตะริมฝีปากเบาๆ เข้ากับปากหยักได้รูป...เดี๋ยวนี้นอกจากชอบกอด หล่อนยังชอบจูบกับเขาด้วยสิ
“อ้อนแบบนี้ ไม่อยากให้ฉันไปหรือไง” กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยอวลยั่วจมูก อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปสูดดมความหอมอีกหลายครั้ง
“เปล่าค่ะ หนูขอกอดคุณ ตุนไว้ก่อนนะคะ จะได้นอนหลับสบาย” รมิดาไม่ได้กอดอย่างเดียว หล่อนยังแอบหอมเขาด้วย
“อืม.....รมิดา...ตุนไว้พอหรือยัง” เป็นอะไรที่ปั่นป่วนมาก ยัยตัวยุ่งจะแกล้งยั่วกันไปถึงไหน
“อา...ชื่นใจ พอแล้วค่ะ...คุณไปเถอะ”
“แล้วจะรีบกลับนะ” พ่อเลี้ยงจูบหน้าผากกลมมนเบา ๆ ก่อนจะรีบผละไป ขืนมัวอ้อยอิ่งคงไม่ได้ไปแน่ ๆ
เมื่อต้องอยู่คนเดียว เด็กสาวก็มองสำรวจห้องนอนอย่างพึงพอใจ ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด หล่อนขึ้นมานอนบนเตียงกว้างมันนุ่มมากจนอดไม่ได้ที่เกลือกกลิ้งด้วยความพอใจ พอนานเข้าก็เริ่มอยากจะหลับเพราะดึกมากแล้ว แต่ก็นอนไม่หลับ ได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาตั้งแต่มีสามีไม่มีคืนไหนที่จะนอนโดยปราศจากอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาสักวัน แต่ต่อจากนี้ หล่อนจะต้องทำตัวให้ชิน กับการนอนคนเดียวอีกแล้ว เพราะเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเหมือนเคย ยิ่งคิดก็ยิ่งนอนไม่หลับทั้งที่ร่างกายอ่อนเพลีย หล่อนจึงลุกไปค้นหาของในตู้ หยิบหมอนข้างออกมาหนึ่งใบอย่างน้อยมันก็เป็นของเขา พอคิดได้อย่างนั้นก็เอามากอดสักพักก็หลับไปอย่างง่ายดาย
