23
“ได้สิ แต่เวลาโกนหนวดโกนเคราฉันชอบแก้ผ้านะ” สายตาเจ้าเล่ห์มาก
“คุณน่ะ”
“ ฮ่า...ฮ่า...ครั้งนี้ไม่แก้ก็ได้ เพื่อเธอเลยนะ ยัยเด็กเซ่อ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ เมื่อเห็นเมียตัวน้อยทำหน้าประหลาด จะอายก็ไม่ใช่ จะโกรธก็ไม่เชิง ดูเหยเกน่าขัน
รมิดาถูกเขาอุ้มขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ ส่วนสามียืนอยู่หน้ากระจก นุ่งผ้าขนหนูไว้อย่างหมิ่นเหม่ กล้ามอกกล้ามท้องดูแข็งแรงแน่นตึงไปทุกส่วน ถึงแม้ว่าหล่อนจะเห็นรูปร่างสมบูรณ์แบบ สมชายชาตรีของเขามาหลายครั้งแล้ว แต่ก็อดเผลอมองตาปรอยไม่ได้
“รมิดา” พ่อเลี้ยงอาชา เอื้อมมือมาดันคางของเด็กสาวขึ้นอย่างขำ ๆ เมื่อเห็นหล่อนนิ่งมองหุ่นของเขาอ้าปากค้าง...ชักจะแก่แดดใหญ่แล้วนะยัยเด็กเซ่อ
“คะ”
“อย่าทำหน้าอย่างนั้น เดี๋ยวฉันก็เปลี่ยนใจ ทำอย่างอื่นก่อนโกนหนวดโกนเครา เสียหรอก”
“ทำไมล่ะคะ” คิ้วขมวดมุ่น เอียงคอน้อย ๆ บ่งบอกว่าหล่อนไม่เข้าใจจริง ๆ
“ดูเหมือนเธออยากจะเรียนรู้ วิธีกินผัวตัวเองอยู่ใช่หรือเปล่า ถึงได้จ้องจนตาค้างแบบนั้น”
“หุ่นแบบคุณเนี่ย เพื่อน ๆ หนูเรียกว่าแซ่บ ! ค่ะ ...แต่ว่าหนูชอบดูเฉย ๆ นะคะ....อืม....ว่าแต่กินได้ด้วยเหรอคะ” เด็กสาวทำท่าครุ่นคิด แล้วก็แก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุก...รู้ได้ยังไงน๊า......เขินจัง
“อยากลองไหมล่ะ” ถามออกไปแววตาพราว พร้อมกับดึงมือเล็กมาแปะไว้ที่กล้ามท้อง เด็กสาวไม่ได้ขัดขืนแต่กลับลูบไล้ไม่ใช่ในแบบที่เร้าอารมณ์ แค่อยากจะรู้ว่ามันแน่นขนาดไหน ยิ่งลูบก็ยิ่งเพลิน พลันสายตาก็เจอกับการเปลี่ยนแปลงภายใต้ผ้าขนหนูที่มีบางสิ่งโป่งดันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว.....ซวยแล้ว...ยัยดาเอ้ย !....
“อยากลองจับมันหรือเปล่า” กระซิบบอกเสียงกระเส่า ตั้งใจจะแกล้งเด็กทำไปทำมาเจ้าอาชาน้อยดันตื่นซะนี่
“มะ...ไม่ดีกว่าค่ะ” ตอบออกไปด้วยเสียงตะกุกตะกัก ลำคอแห้งผาก อกใจเต้นระรัว อยากรู้ก็อยากแต่กลัวก็กลัว ขอเวลาตั้งตัวก่อนเถอะยังไงซะมันก็เป็นของหล่อนอยู่แล้ว ในเมื่อคนตัวโตสัญญาแล้วนี่ เขาคงไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า
“อู๊ย......คุณน่ะ.....เขกหัวหนูทำไมคะ เดี๋ยวฉี่รดที่นอน” รมิดามัวแต่คิดและก็จ้องเจ้าอาชาน้อยที่ทำท่าพยศอยู่ใต้ผ้าขนหนูอย่างไม่วางตา จึงไม่เห็นรอยยิ้มขบขันบนใบหน้าของอีกฝ่าย
“เอาล่ะ...มาดูขั้นตอนโกนหนวดโกนเคราดีกว่า วันหลังจะได้ทำให้ฉันได้.... คอยดูนะ บีบครีมกวนหนวดลงบนฝ่ามือ แล้วก็หยดออย ลงไปผสมนิดหน่อย แบบนี้ คลึงวน ๆ ให้เข้ากัน แล้วก็ทาลงไปตรงที่เราจะโกน”
“หนูช่วยนะคะ” รมิดากระเถิบเข้าไปใกล้ ๆ แล้วก็เอื้อมมือปาดครีมโกนหนวด จากมือใหญ่ มาทาบริเวณหนวดและเคราบนใบหน้าและคาง อย่างตั้งอกตั้งใจ และยังคอยลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ นั่งจ้องตาแป๋ว แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างถูกใจ ทุกครั้งที่คมมีดกวาดเอาขนรก ๆนั่นร่วงหล่นลงมา
“โอ้โห....หล่อจังค่ะ เหมือนเจ้าชายเลยอ่ะ” รมิดาทำท่าเคลิ้มตาลอย ฉีกยิ้มแก้มแทบแตก ตอนที่เห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามี ที่ดูหนุ่มขึ้นมาตั้งหลายปี
“เคยเห็นเจ้าชายที่ไหน...หึ...” พ่อเลี้ยงหนุ่มยกมือขึ้นบีบแก้มนิ่มทั้งสองข้างดึงเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว
“หนูเคยอ่านในนิยายค่ะ คุณเหมือนเจ้าชายในจินตนาการชองหนูเลยอ่ะ”
“เรานี่น๊า...ฉันจะไว้ใจได้ไหมเนี่ย พอไปอยู่กรุงเทพฯ หวังว่าจะไม่ไปเป็นติ่งดาราเกาหลีอีกนะ”
“ไม่หรอกค่ะ หนูไม่ปลื้มใครเท่าคุณของหนูอีกแล้ว แบบนี้เหมือนเจ้าชายแห่งทะเลทรายชัด ๆ” เด็กสาวบอกถึงสเป็คชายในฝันที่หล่อนได้เจอแบบไม่ต้องดิ้นรนหา
“ถ้าฉันแก่กว่านี้ เธอมิหันไปปลื้มเจ้าชายหนุ่ม ๆ อีกหรือไง”
“หนูขอมีสามีคนเดียวค่ะ แล้วคุณของหนูก็ไม่ได้เท่ห์อย่างเดียวนี่คะ คุณอบอุ่น ใจดี อยู่ด้วยแล้วหนูรู้สึกปลอดภัย ไม่กลัวอะไรอีกแล้วค่ะ”
“ให้มันจริงเถอะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มบีบปลายจมูกเล็กโยกเบา ๆ ก่อนจะสอดมือใหญ่เข้าที่ท้ายทอย ดันเบา ๆ ให้แหงนเงยขึ้นรับจูบแสนหวานเนิ่นนานจนคนตัวเล็กเริ่มประท้วงอู้อี้ เขาจึงผละ ออกมาแล้วจูบย้ำ ๆ เข้าไปใหม่อย่างหยอกเย้า
“คุณไม่เชื่อหนูเหรอคะ” เด็กสาวทำหน้ามุ่ย แต่แล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่น หล่อนจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเอง
อากัปกิริยาที่แสดงออกของยัยเด็กเซ่อ อยู่ในสายตาของพ่อเลี้ยงอาชาตลอด เพราะแขนเล็กยังโอบรอบลำคอแกร่งไม่ยอมปล่อย รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เขารู้สึกพอใจหากรมิดาทำได้ ตำแหน่งแม่เลี้ยงก็เหมาะสมกับหล่อนที่สุดแล้ว
พ่อเลี้ยงหนุ่ม ยกตัวเมียเด็กลงจากเคาน์เตอร์ ตัดใจดันหลังหล่อนให้ออกไปจากห้องน้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ
ทั้งคู่ออกเดินทางในช่วงสาย ๆ ด้วยรถสปอร์ตสุดหรูสมรรถนะเยี่ยม แต่เพราะมัวโอ้เอ้กันอยู่ แถมพ่อเลี้ยงอาชายังใจดีเป็นพิเศษพาเมียเด็กแวะเที่ยวตลอดทาง กว่าจะถึงบ้านก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม
“มากันแล้วเหรอลูก” คุณอิงอร ดีใจเป็นพิเศษ รอยยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดี เกลื่อนอยู่ทั่วใบหน้า จนคุณอนันต์ผู้เป็นสามีอดขำไม่ได้ ดูเหมือนเมียของเขาจะแหกกฎว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ ที่มักเป็นเหมือนไฟกับน้ำมัน เจอกันจะต้องลุกติดพึ่บพั่บ
“สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่” พ่อเลี้ยงอาชา เข้าไปกอดมารดาอย่างคิดถึง และยิ่งกว่านั้นคือรอยยิ้มของมารดาที่แสดงออกถึงการยินดีต้อนรับลูกสะใภ้ตัวน้อย แค่นี้ก็หายห่วง ไว้ใจคุณนายอิงอรได้
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่” รมิดาเอ่ยตามเสียงเบา อย่างเกรง ๆ รีบทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองท่านโดยไม่ต้องรอให้ใครแนะนำ จากนั้นก็ยืนบีบตัวอย่างสงบเสงี่ยม เมื่อเทียบกับห้องอันกว้างขวางหรูหรานี้แล้ว รมิดาตระหนักดีว่าตัวเองตัวเล็กลงเหลือแค่มดปลวกกระมัง
“พอเลย...ตาอาชาไปพาน้องมาให้แม่กอดหน่อย” คุณอิงอร เห็นลูกสะใภ้ยืนเกร็ง ๆ อยู่คนเดียวจึงรีบบอกลูกชาย ให้พาเข้ามาหา
