14
“หนูจะพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด ให้โอกาสหนูนะคะ” รมิดาอ้อนขอ กลัวว่าเขาจะเบื่อหน่าย และโดนไล่ออกจากชีวิตเหมือนผู้หญิงที่ชื่อรสา ถึงตอนนั้นคงจะเคว้งคว้างน่าดู หล่อนคิดไม่ออกว่าจะใช้ชีวิตคนเดียวบนโลกใบนี้ได้อย่างไร
ชายหนุ่มกระชับอ้อมแขน พลางหอมแก้มไปหลายฟอด ชื่นใจเหลือเกินยัยเด็กเซ่อนี่ช่างออดอ้อนนัก
“กังวลอะไร”
“หนูกลัวคุณจะรำคาญแล้วก็ทิ้งหนู”
“ไม่กลัวโดนฉันขายแล้วหรือไง”
“หนูคิดว่าคุณคงไม่ใจร้ายกับหนูใช่ไหมคะ”
“พูดได้ดี.....หิวหรือยัง” เสียงนุ่มถามอยู่ชิดใบหู ซ้ำยังขบเม้มเบา ๆ ความวาบหวามแล่นพล่านไปทั่วร่างน้อย....เป็นแบบนี้ทุกทีที่เขาเข้าถึงเนื้อถึงตัว
“พอคุณถาม ก็ชักจะหิวขึ้นมาเลยค่ะ” รมิดาตอบเสียงสั่น
มือหนาเอื้อมมือไปหยิบกล่องใส่แซนวิชที่วางเรียงอยู่ในตระกร้า เอามาเปิดและป้อนให้กับเด็กสาวบนตักที่อ้าปากรับราวกับลูกนก ชายหนุ่มมองริมฝีปากจิ้มลิ้มเคี้ยวตุ้ย ๆ ....ไม่มีจริตมายา...เด็กเอ๋ยเด็ก.......
“คุณไม่กินเหรอคะ” หญิงสาวโดนมองซักพักก็เริ่มรู้สึกตัว เอ่ยถามเขาแก้เก้อ
“ไม่ล่ะ...เดี๋ยวอ้วนเป็นหมู”
“คุณว่าหนูอีกแล้วนะคะ” สาวน้อยตัดพ้อ นัยน์ตาคว่ำ
“ไม่ได้ว่า อย่างเธอไม่อ้วน แค่อวบนิดหน่อย”
“คุณไม่ชอบใช่ไหมคะ....แต่หนูก็รู้สึกนะคะว่า อย่างหนูดูยังไงก็ไม่เหมาะกับคุณอยู่ดี...ต้องสูงยาวบอบบางเป็นนางแบบ เหมือนที่ป้าพิณเคยบอกแน่ ๆ เลยค่ะ”
“ป้าพิณเลอะเลือน”
“ไม่ใช่นะคะ ป้าแกจำแม่น ยังเล่าว่าเมื่อก่อนแฟนของคุณ แต่ละคน มีแต่สวย ๆ ผอม ๆ หุ่นนางแบบทั้งนั้นค่ะ” รมิดา พยายามอธิบายเพื่อปกป้องแหล่งข่าว
“ใครว่า ฉันไม่ใช่หมานะ ที่ชอบแทะแต่กระดูก” ชายหนุ่มยกยิ้ม ดวงตาพราวระยับ เมื่อเห็นคนตัวเล็กชะงัก ถือแซนวิช ค้างอยู่อย่างนั้น เหมือนลังเลว่าจะกินต่อดี หรือจะพอแค่นี้
“ฮ่า...ฮ่า...กินไปเถอะ รมิดา ไม่ทันแล้ว เหลือแค่คำเดียว” พ่อเลี้ยงหนุ่มยิ้มขำ พลางส่งน้ำให้ เมื่อเห็นหล่อนดื่มน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้ทิชชูเช็ดปาก เช็ดมือให้ทีละนิ้ว
“ขอบคุณนะคะ” รมิดาเอ่ยเสียงสดใส ชีวิตเหมือนฝัน ไม่นึกว่าผู้ชายหน้าดุที่หล่อนกลัวจนแทบจะหัวใจวายเมื่อครั้งแรกที่เจอกัน จะน่ารักอ่อนโยนได้ถึงเพียงนี้
ชายหนุ่ม ล้วงมือเข้าไปหยิบสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกง ที่สั่นเตือน รมิดาจึงลงจากตักกว้างมานั่งข้าง ๆ เพื่อให้เขาคุยโทรศัพท์ได้ถนัด
“ว่าไง มีอะไรวะไอ้แทน” พ่อเลี้ยงอาชาถามเพื่อนรัก อย่างแทนไท ที่เปิดผับหรูหราอยู่ที่กรุงเทพฯ นาน ๆ จึงจะได้เจอกันสักครั้ง ไม่เหมือนตอนรุ่นหนุ่ม ที่เที่ยวหัวหกก้นขวิด ถึงไหนถึงกัน ยิ่งแทนไทแต่งงานไปเมื่อสี่ปีก่อน ก็ยิ่งห่างเหินกันไปใหญ่ ตามประสาคนมีครอบครัว
“อยู่ไหน ไอ้พ่อเลี้ยง กูจะแวะไปทำความรู้จักกับเพื่อนสะใภ้สักหน่อย”
“อะไรวะ จมูกไวจริง ๆ เลยมึง”
“อย่าพูดมาก กูรออยู่ที่บ้านแล้ว เร็ว ๆ เข้า”
“อ้าว ! มึงไม่บอกกูพรุ่งนี้เลยล่ะไอ้เวร....เออ..รอเดี๋ยวกูอยู่ในไร่นี่แหละเดี๋ยวกลับไป” พ่อเลี้ยงวางสาย แล้วหันมาบอกรมิดา ซึ่งหล่อนก็พอเดาได้อยู่แล้ว จึงรีบช่วยกันเก็บของขึ้นรถตรงกับบ้านทันที
เมื่อทั้งคู่กลับถึงบ้าน แทนไทหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หน้าตาเกลี้ยงเกลานั่งรออยู่ก่อนแล้วในห้องรับแขก พอเพื่อนสนิทเจอกัน ก็ต่อยท้องกันเบา ๆ เป็นการทักทายเฉพาะตัว ก่อนที่พ่อเลี้ยงอาชา จะแนะนำให้เพื่อนและเมียสาวได้รู้จักกัน
“สวัสดีค่ะ พี่แทน” รมิดาเรียกแทนไท อย่างสนิทสนม ตามที่เจ้าตัวบอกให้เรียกแบบนั้น ทำเอาสามีตวัดสายตาคม มองมาดุ ๆ โดยหล่อนก็ไม่รู้ว่าทำอะไรผิดอีกแล้ว
“สวัสดีครับ น้องรมิดาแสนสวย นี่ไปยังไงมายังไงถึงได้โดนไอ้พ่อเลี้ยงสายโหดนี่ล่อลวงเอาได้” แทนไท พูดแล้วก็หัวเราะ ที่เห็นเพื่อนรักหันมาถลึงตาใส่
รมิดา ได้แต่ยิ้ม ไม่รู้จะตอบคำถามนั้นยังไงดี เพราะหล่อนไม่ได้ถูกล่อลวงเสียหน่อย
“มึงไม่ต้องมาสู่รู้ ขืนพูดมากกูจะยุให้เมียมึงมีชู้ซะเลย จะได้ไม่ว่างมายุ่งเรื่องของกู" พ่อเลี้ยงรีบพูดเสียเอง ก่อนที่เมียเด็กจะพูดอะไรออกไป เขาปกป้องเธอ ไม่อยากเที่ยวป่าวประกาศว่า หล่อนเป็นเมียแลกกับหนี้
“อ้าว ไอ้นี่ วอนซะแล้ว”
รมิดา ได้แต่มองเพื่อนรักคุยกันตาปริบ ๆ รู้สึกว่าใช้ถ้อยคำดุเดือดกันจริง ๆ ชักสงสัยว่าเพื่อนรัก ต้องพูดกันแบบนี้ใช่หรือเปล่า ถึงจะแสดงว่าสนิทกันจริง ถ้าขืนหล่อนพูดแบบนี้ให้ลุงกับป้าได้ยิน มีหวังท่านทั้งสองจะต้องลมจับ
“รมิดา ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ อย่านั่งฟังไอ้แทนมันพล่ามให้เวียนหัวเลย” พ่อเลี้ยงหนุ่มหันไปบอกเมียเด็กเสียงอ่อน ออกอาการหวงเมียชัด ๆ
“หนูไปหัดทำขนมกับป้าพิณได้ไหมคะ” รมิดาขออนุญาต ไม่กล้าขัดคำสั่งเขาโดยพลการหรอก
“ตามใจ แต่ระวังตัวด้วยล่ะ ของร้อน ของมีคม อย่าไปแตะรู้ไหม….อ้อ...ระวังน้ำร้อนลวกด้วย” สั่งความยืดยาวด้วยความเป็นห่วง ราวกับหล่อนเป็นเด็กซน ๆ ไม่รู้ความ
“ค่ะ หนูจะระวังตัว” รมิดาลุกขึ้น ส่งรอยยิ้มกระจ่างให้สามี ดีใจที่เขายอมตามใจ ไม่รู้ตัวเลยว่าเกือบจะทำให้ถูกรวบตัวไปจูบต่อหน้าแขกอยู่รอมร่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องข่มใจแทบแย่
“เลี้ยงเมียอย่างกับลูกสาว....มันยังไงกันวะ” แทนไท ถามหลังจาก รมิดาเดินเข้าห้องครัวไปแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก แกก็เห็นว่าเขายังเด็กมาก”
“เปลี่ยนมาชอบกินเด็ก ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า” เพื่อนคบกันมานานจนรู้ไส้รู้พุง
“คนเรามันก็เปลี่ยนกันได้ ใครจะกินแกงซ้ำ ๆ ตลอดชีวิตวะ”
