บท
ตั้งค่า

13

“ได้ค่ะ...ว่าแต่คุณจะไปไหนหรือคะ” ตอบรับ ทั้งที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ รมิดาขี้กลัว หล่อนไม่ชอบการอยู่คนเดียว แต่ก็พยายามสลัดนิสัยเด็ก ๆ นั่นทิ้งไป ไม่อยากทำตัวน่ารำคาญ บอกตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว และที่สำคัญคือมีสามีแล้วด้วย วันหนึ่งก็จะต้องมีลูก คิดมาถึงต้องนี้แก้มสาวก็แดงระเรื่อขึ้นมาอีกแล้ว ดังนั้นหล่อนจำเป็นต้องฝึกตัวเองให้เข้มแข็งเอาไว้

พ่อเลี้ยงหนุ่ม เห็นแววตาตื่น ๆ สลับกับแก้มแดง ๆ ก็ได้แต่ส่ายหน้าอมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะโทรศัพท์ให้พนักงานบัญชีเอาเอกสารมาให้เขาที่นี่ แทนการทิ้งยัยเด็กเซ่อนี่ไว้คนเดียว

“อ้าว !...คุณไม่ไปแล้วหรือคะ” รมิดาแปลกใจ เมื่อเห็นเขาหย่อนกายลงนั่งเคียงข้างกัน ความร้อนผ่าวจากร่างกำยำแผ่มาปกคลุมจนสาวน้อยรู้สึกวูบวาบแปลก ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาก็นั่งเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ

“ไม่อยากไปแล้ว เดี๋ยวคนแถวนี้จะร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะความกลัว” นิ้วแกร่งคีบปลายจมูกอย่างเอ็นดู

“คุณ...รู้ได้ยังไงคะว่าหนูกลัว” รมิดา ยอมรับอย่างไม่มีแง่งอน ซ้ำยังมองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ว ราวกับผู้ชายตัวโตข้าง ๆ นี้เป็นฮีโร่ก็ไม่ปาน

“รู้ตัวไหมยัยเด็กเซ่อ เธอน่ะอ่านง่ายจะตาย” ตอบพร้อมกับขยี้เรือนผมนุ่มจนยุ่งเหยิง แทนการจับมาฟัดให้จมเขี้ยว

“ถ้าอย่างนั้น หนูคิดอะไรอยู่ คุณก็รู้หมดสิคะ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้ว เบิกกว้างกว่าเก่า มองไปที่สามีอย่างทึ่งจัด แก้มอิ่มค่อย ๆ ซับสีเลือดเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ

“กลัวอะไรเหรอ หรือว่าชอบคิดซุกซนกับฉันแล้วก็กลัวไปก่อนล่วงหน้า......ยัยเด็กลามก” พ่อเลี้ยงอาชายื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนแทบจะชนกับพวงแก้มนุ่ม

“คุณ.....รู้ด้วยหรือคะ......อื้อ....” สาวน้อยยกมือปิดหน้า อายจนไม่รู้ว่าจะซ่อนหน้าไว้ที่ไหน ก็ความคิดมันห้ามกันได้ซะที่ไหน บางทีมันก็แวบขึ้นมาในหัวเอง โดยเฉพาะภาพการนัวเนียระหว่างเขากับหล่อน มันสลัดไม่หลุดสักที

พ่อเลี้ยงอาชาหัวเราะชอบใจ ล้มตัวลงนอนหนุนตักนุ่ม เอื้อมแกะมือเล็กที่ปิดหน้าตัวเองแน่น มาจับไว้แล้วไล่จูบทีละนิ้ว ในขณะที่สายตาหวานฉ่ำจับจ้องใบหน้าเรียวเล็ก ที่แดงก่ำไปจนถึงใบหู ทำเอาสาวเจ้า อกใจสั่นไหว ไปหมด ไม่รู้ว่าเขินอายเรื่องที่ผ่านมาแล้ว หรือสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้มากกว่ากัน ทำไมเขาถึงต้องทำตัวเซ็กซี่แบบนี้นะ

“หนูไม่อยากให้ถึงวันที่ต้องไปกรุงเทพฯเลยค่ะ” รมิดาพูดขึ้นมาเสียงเบาหวิว ราวกับรำพึงกับตัวเองมากกว่า พ่อเลี้ยงอาชาบอกว่าจะส่งหล่อนไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แรก ๆ ก็ดีใจอยู่หรอก แต่พอใกล้ถึงวันที่จะต้องไปจริง ๆ ก็ชักหวั่นไหวเพราะเริ่มจะติดคนตัวโตจนไม่อยากไปไหนเสียแล้ว

“หืม...ทำไม”

“หนูใจหายนี่คะที่ต้องอยู่ห่างคุณ” สาวน้อยตอบประสาซื่อ แต่ก็ทำเอาหัวใจแกร่งของคนมากประสบการณ์พองคับอก

“อย่าบอกนะว่าเราติดฉันแล้ว...ยัยตัวยุ่ง” ถามพร้อมกับจุ๊บฝ่ามือบางไปหนึ่งที

“ไม่รู้สิคะ นอกจากคุณลุงกับคุณป้า หนูก็ไม่เคยมีใครนี่คะ พอมาเจอคุณหนูก็เลยติดคุณแจ กลายร่างเป็นตุ๊กแกเกาะหนึบ” เด็กสาวบอกพร้อมกับยกมือทำท่าทางประกอบ เห็นแล้วน่าขัน

“ถ้าอย่างนั้น ต่อไปเธอคงติดคุณแม่ ติดน้องชาย ติดน้องสาวของฉัน จนลืมฉันไปเลยก็ได้” คนตัวโตพูดเหมือนน้อยใจ

“หนูจะลืมสามีของตัวเองได้ไงคะ ยังไงคุณก็เป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว” พูดไปแล้วก็อายเอง เสมองออกไปที่ฟากฟ้าไกล ๆ หลบสายตากรุ้มกริ่มของผู้ชายเจ้าเสน่ห์ จึงไม่ได้เห็นสีหน้าของคนข้างกาย

ระหว่างที่ทั้งคู่คุยกันอยู่นั้น เสียงมอเตอร์ไซด์ก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พ่อเลี้ยงอาชาจึงลุกขึ้นนั่งตัวตรง พอดีกับที่ลูกน้องของเขาก็หอบเอกสารมาถึงพอดี หลังจากเขารับเอามาดูและจัดการให้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งคืนให้ เพื่อจะได้กำจัดก้างขวางคอออกไปเสียที

“วันนี้คุณไม่ทำงานหรือคะ” สาวน้อยเอียงคอมอง เพราะทุกวันเขาทำเหมือนกับว่างานล้นมือ กลับบ้านเย็น บางวันก็ดึกดื่นทุกวัน

“ไม่ล่ะ ขอหยุดพักอยู่กับเมียสักวันดีกว่า อีกไม่กี่วันก็ต้องไปส่งแล้ว หรือว่าเธอรำคาญ ไม่อยากให้ฉันอยู่ใกล้ ๆหึ...” ปลายเสียงสะบัด แกล้งทำหน้างอใส่

“ไม่ใช่นะคะ อย่าโกรธหนูเลยน๊า.....หนูแค่ถามไปไม่ทันได้คิด” รมิดาผวากอดลำแขนแข็งแรงถูไถศีรษะไปมาเหมือนลูกแมวอ้อน ๆ

“เด็กเซ่อ...หลอกง่ายชะมัด” พ่อเลี้ยงอาชา หัวเราะ อารมณ์ดี พร้อมกับขยี้ผมไปอีกทียิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู ขืนไม่รีบส่งตัวไปเร็ว ๆ มีหวังได้ตบะแตกเข้าสักวัน

“คุณแกล้งหนูอีกแล้วอ่ะ” รมิดา ผละออกมามองหน้าเขาชัด ๆ เมื่อเห็นเขายิ้มก็ใจชื้น

“เธอมันน่าแกล้ง สาวน้อย”

“ใช่สิ....ก็หนูมันโง่นี่” เอ่ยเสียงแผ่วอย่างยอมจำนนปนน้อยใจ พลางก้มหน้ามองมือตัวเองเศร้าสร้อย รู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นคนไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง ทำงานนอกบ้านก็ไม่เป็น งานในบ้านก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ยิ่งหน้าที่ที่ภรรยาพึงกระทำต่อสามี ยิ่งแล้วใหญ่ หล่อนคงทำอะไรน่ารำคาญไปหมด เพราะบางทีก็โดนไล่ให้ออกห่าง ๆ แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย...

“ไม่เอาน่า ฉันล้อเล่น ไม่เกี่ยวกับเรื่องโง่หรือฉลาดสักหน่อย” พ่อเลี้ยงอาชา เชยคางมนขึ้นมาจูบมุมปากแผ่ว ๆ เพียงแค่นั้นขนอ่อนในกายสาวก็พร้อมใจกันลุกซู่ ก่อนจะรวบตัวเด็กสาวขึ้นมานั่งบนตัก กอดเอวเอาไว้หลวม ๆ เกยคางไว้บนไหล่บอบบาง ในขณะที่รมิดาเองก็ทิ้งตัวลงแนบกับอกกว้าง หล่อนชอบที่จะอยู่กับเขาแบบนี้ อบอุ่นหัวใจทุกที ที่อยู่ในวงแขนที่หล่อนอยากให้เขาเป็นผู้ปกป้องดูแลตลอดไป.....ดูเหมือนจะหวังมากไป อย่างน้อยหล่อนก็จะไม่นอนรอโชควาสนา แต่จะพยายามให้ถึงที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel