บทที่ 2 เพลย์บอย (4)
“ฉันรักคุณค่ะ รักคุณหมดหัวใจ แต่ฉันยังไม่พร้อม”
“ทำไมอีกล่ะ?” ทรงวุฒิถามเสียงห้วนเริ่มหมดความอดทนกับหญิงสาว
“คือ... ฉันมีประจำเดือน”
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความระอากับเหตุผลที่เขาแสนเกลียดชัง ดูสิพอมีโอกาสเขาก็ลากอิงกาญจน์ขึ้นเตียงไม่ได้อีก เฮ้อให้ได้อย่างนี้เถอะ!!
“อย่าโกรธฉันนะคะ” หญิงสาวอ้อนเมื่อเห็นปฏิกิริยาของชายหนุ่ม
“ไม่ได้โกรธ ถ้าไม่พร้อมก็น่าจะบอกกันแต่ทีแรก เสียอารมณ์หมด”
อิงกาญจน์เสียความรู้สึกมาก ที่ชายหนุ่มพูดแบบนี้ออกมา “ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้?”
พอหญิงสาวถามคำถาม ทรงวุฒิจึงรู้ตัว ว่ายังไม่ถึงเวลาที่เขาจะงี่เงา!
“เฮ้อ วันนี้ผมเหนื่อยด้วย ขอโทษด้วยนะที่ทำตัวแย่ ๆ พอดีงานเยอะแล้วก็ประชุมทั้งวันน่ะ เลยเครียด ๆ น่ะ”
“ถ้างั้นฉันกลับก่อนดีกว่า คุณจะได้พักผ่อน” หญิงสาวบอกเสียงแผ่วลง
“ก็ได้ครับ ผมขอไม่ไปส่งนะ”
อิงกาญจน์พยักหน้า แม้จะไม่พอใจที่ชายหนุ่มไม่ห่วงใยเธอก็ตาม “ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
“ครับ”
คว้ากระเป๋าสะพายได้อิงกาญจน์จึงจากไป พอลับเงาของคุณหนูไฮโซจอมงี่เง่าแล้วคนที่ทำหน้าเบื่อโลกและอ้างว่าเหนื่อยจากการประชุมจึงคว้าโทรศัพท์มาโทรหาคู่ขาคนสำคัญทันที!!
อิงกาญจน์นั่งแท็กซี่ย้อนกลับไปคอนโดฯของทอปัดเพื่อเอารถด้วยหัวใจห่อเหี่ยว เรื่องเดียวที่อยู่ในหัวคือปฏิกิริยาไม่พอใจของทรงวุฒิเท่านั้น และเรื่องนี้ก็กระตุ้นให้เธอต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน นั่นก็คือเธอต้องถอนหมั้นจากเทวินทร์!!
พอมีความคิดนี้อยู่ในหัวอิงกาญจน์จึงโทรหาทอปัดทันที
“อยู่ไหน?”
“ร้านอาหาร กำลังดินเนอร์ มีอะไร?” ปลายทางรายงานเสร็จสรรพโดยไม่ต้องาถามรายละเอียดอีก
“คุยได้ใช่มั้ย?”
“อืม มีอะไรก็ว่ามา”
“ฉันอยากรู้ว่าพี่ป่าอยู่ไหน ฉันต้องการเจอหน้าพี่ชายแกว่ะ” อิงกาญจน์บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นึกแล้วว่าแกต้องถามเรื่องนี้ กำลังจัดการให้อยู่ แค่นี้ก่อนนะ ได้เรื่องแล้วจะรีบโทรกลับไป”
“เร็ว ๆ ล่ะ ฉันใจร้อน” หญิงสาวไม่วายเร่งเร้าเพื่อน
“เออ รู้แล้ว” ปลายทางรับคำเสียงห้วนแล้ววางสายดื้อ ๆ
อิงกาญจน์ถอนหายใจอีกครั้ง เธอรู้แค่ว่าต้องรีบจัดการเรื่องถอนหมั้นให้เร็วที่สุด ก่อนที่ทรงวุฒิจะเบื่อหน่ายแล้วตีตัวออกห่างจากเธอ!!!
##### บทที่ 3
ออกเดินทาง
ทอปัดเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าสะพายด้วยสีหน้านิ่งสงบ แต่ก็อดมองหน้าอังกูรซึ่งจ้องมองเธอชนิดไม่ละสายตาไม่ได้
“ตกลงจะมองกันอีกนานมั้ย?”
ชายหนุ่มอมยิ้มที่ถูกหญิงสาวถามตรง ๆ “อยากมอง ผิดด้วยหรือไง?”
“ไม่ผิดหรอก แต่ฉันไม่ชอบให้พี่มองฉันแบบนี้ ขนลุกว่ะ คิดอะไรอยู่เนี่ย?”
อังกูรหัวเราะหึหึ “ก็เราสวยขึ้น ชวนให้มองเป็นธรรมดา”
ทอปัดส่ายหน้า อยากจะอาเจียนอาหารที่เพิ่งกลืนเข้าไปออกมาเหลือเกิน น่าภูมิใจตายล่ะที่เธอถูกเกย์ชมว่าสวย!!!
“ตกลงพี่จะบอกฉันได้หรือยังว่าพี่ป่าอยู่ที่ไหน?” หญิงสาวกลับเข้าเรื่องสำคัญก่อนที่เธอจะหมดความอดทนแล้วหนีกลับบ้านดื้อ ๆ
ชายหนุ่มไหวไหล่ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในอิริยาบถสบาย ๆ “เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยทีหลังก็ได้ ไม่คิดจะคุยเรื่องอื่นหรือไง? อย่างเช่น...”
“นี่ ฉันมากินข้าวกับพี่ ไม่ได้มาเดทนะ” ทอปัดรีบขัดคอก่อนชายหนุ่มจะพูดจบ “ฉันยอมออกมาแล้วทิ้งงานกองโตไว้ที่ห้องเพราะอยากรู้เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น เรื่องอื่นฉันไม่สน” ทอปัดตอบไปตรง ๆ ชนิดไม่คิดจะถนอมน้ำใจกันด้วยซ้ำ
เธออยากไปให้พ้น ๆ ผู้ชายคนนี้ คนที่เคยทำให้เธอตกหลุมรัก แล้วเขาก็ทำให้เธอเจ็บจนไม่คิดจะรักใครอีก แต่ติดตรงที่ว่าเธอยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการจากอังกูรนี่แหละ!!!
“นานมากแล้วนะที่พี่ไม่ได้มานั่งกินข้าวกับปัด อยู่คุยให้หายคิดถึงก่อนไม่ได้หรือไง?” อังกูรมองหญิงสาวด้วยสายตาจริงจังกึ่งขอความเห็นใจ
ทอปัดสงบสติอารมณ์ลง เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังทำตัวงี่เง่า “ฉันกลัวว่ายิ่งคุยก็ยิ่งยืดยาวน่ะสิ”
“ไม่ดีเหรอ? ก็ยังดีกว่ามานั่งมองหน้ากัน ไม่มีอะไรคุยกันนะ”
สายตาอบอุ่นอ่อนโยนของอังกูรสร้างความรู้สึกหวั่นไหวให้ทอปัดอีกครั้ง ไม่ว่าผ่านไปกี่ปี ผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลต่อหัวใจเสมอ แม้ว่าเธอจะยอมรับความจริงว่าเขาเป็นเกย์ก็ตาม! และเหตุผลที่ทอปัดพยายามหลบหน้าเขา เพราะเธอไม่อยากอกหักซ้ำสองจากการตกหลุมรักเกย์นั่นเอง
