บทที่4
“สรุปจะตอบมาได้หรือยัง ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น” ในที่สุดคิริลล์ก็เอ่ยถามถึงเรื่องวันนั้น
“เอ่อ...“ เวียงพิงค์อึกๆ อักๆ นั่นเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไง ถ้าหากเล่าไปแล้วผู้ชายตรงหน้าจะเชื่อเธอไหม อีกอย่างเขาไว้ใจได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้
“ไปทำอะไรผิดมา ถึงเล่าไม่ได้”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” เวียงพิงค์รีบแก้ต่างให้ตัวเอง
“ไม่ได้ทำอะไรผิดมาก็ดี”
“ที่นี่บ้านคุณเหรอ” ขณะเอ่ยถามก็มองไปรอบๆ ห้องที่เธอนอนไปด้วย ที่นี่โอ่อ่าบ่งบอกฐานะเจ้าของบ้านไม่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจากมองว่ามันใหญ่โต
“อืม”
“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้”
“แล้วนั่นจะไปไหน” คิริลล์รีบถาม เมื่อเห็นเวียงพิงค์กำลังก้าวลงจากเตียง
“ไปจากที่นี่”
“ยังไปไม่ได้”
“ทำไมถึงยังไปไม่ได้ ในเมื่อตอนนี้ฉันก็รู้สึกตัวแล้ว” เวียงพิงค์ยืนกับพื้นให้มั่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบ พอได้ยืนใกล้ถึงได้รู้ว่าเขาตัวสูงมาก
“จะไปได้ยังไง เอกสารบนตัวเธอก็ไม่มีสักอย่าง เงิน โทรศัพท์ แผนที่ ตั๋วเครื่องบินขากลับ เสื้อผ้าของใช้ ขืนออกไปแบบนี้ ตำรวจได้จับเธอข้อหาหลบหนีเข้าเมืองแน่ และถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็จะถูกส่งเข้าคุก” คำขู่ของคิริลล์ทำให้เวียงพิงค์หน้าซีดเริ่มกลัว นั่นเพราะบนตัวเธอไม่มีเอกสารอะไรเลยจริงๆ กระเป๋าสะพายที่เก็บเอกสารสำคัญ เงินและโทรศัพท์ก็คงหล่นหายตอนวิ่งหนี และหากร้ายแรงถึงขนาดถูกจับเข้าคุกขึ้นมา จะทำยังไง
“อีกอย่างเธอต้องอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้ค่าเสียหายด้วย”
“ค่าเสียหายจากอะไร” สีหน้าของคนฟังเต็มไปด้วยความงุนงง
“ก็จู่ๆ เธอโผล่พรวดมากลางถนนแบบนั้น รู้ไหมคนขับรถของฉันต้องเหยียบเบรกเต็มแรง จนถูกรถที่ขับตามหลังชนท้ายจนพังยับ ไหนจะรอยขีดข่วนที่เกิดขึ้น ไหนจะค่ารักษาพยาบาลของเธอที่ฉันต้องให้หมอมาดูแลเป็นการส่วนตัวที่นี่อีก” คิริลล์ร่ายยาว ทั้งๆ ที่ค่าใช้จ่ายพวกนั้นไม่ได้เกินกำลังที่เขาจะจ่ายสักนิด แต่ที่ต้องยกมาอ้างเพราะยังไม่อยากให้เวียงพิงค์ไปตอนนี้ รอจนกว่าคนของเขาจะกลับมาจากสืบข่าวก่อนก็ไม่เสียหาย
“แล้วทั้งหมดเท่าไหร่”
“ถ้าตีเป็นเงินไทยก็น่าจะราวๆ ห้าสิบล้าน”
“ห้าสิบล้านเลยเหรอคะ” เวียงพิงค์ตกใจกับยอดเงินที่ได้รู้ จู่ๆ ก็ต้องมาเป็นหนี้ถึงห้าสิบล้านแบบนั้น ใครจะไม่ช็อค
“ใช่...”
“หน้าเลือด รถคุณแพงขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“อืม...รถที่มีแค่ไม่กี่คันบนโลกนะครับสาวน้อย ห้าสิบล้านบางทียังน้อยไปด้วยซ้ำ” คิริลล์ส่งยิ้มมาให้เวียงพิงค์ แต่เธอกลับไม่ได้ยิ้มตอบ
“แต่ฉันไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นหรอก”
“งั้นก็ทำงานแลกค่าแรง”
“แล้วกี่ชาติฉันจะใช้หนี้คุณหมดได้กัน” เวียงพิงค์คอตก รู้สึกเข่าอ่อน สมองตื้อไปเสียดื้อๆ นั่นเพราะหนี้มากมายขนาดนี้เธอต้องอยู่ชดใช้อีกนานแค่ไหนก็ยังไม่รู้ เวียงพิงค์ได้แต่ก้มหน้ายอมรับ แม้ลึกๆ จะห่วงแก้วกานต์มาก แต่ก็ยังไม่อาจพูดอะไรออกไปได้ในตอนนี้
แต่ก็มีบางอย่างบอกเธอว่าที่นี่ปลอดภัย หากก้าวออกไปจากที่นี่ไม่แน่เธออาจถูกจับไปอีก เพราะต้องการที่คุ้มกันทำให้เวียงพิงค์จำต้องยอมรับเงื่อนไขที่คิริลล์เสนอให้
“สืบอะไรได้มาบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทกลับมาจากสืบข่าว
“เธอเป็นคนไทยครับ และดูเหมือนจะพึ่งบินมาที่รัสเซียครั้งแรก” ข้อนี้เหมือนคิริลล์นั้นพอจะเดาได้อยู่ก่อนแล้ว
“เธอชื่ออะไร”
“เวียงพิงค์ครับเจ้านาย”
“เวียงพิงค์เหรอ” คิริลล์เอ่ยทวนชื่อของเวียงพิงค์ขึ้น พร้อมกับเกาคางของตัวเองไปด้วย ท่าทางเขาดูครุ่นคิด
“แล้วที่สำคัญ เธอยังเป็นเพื่อนกับภรรยาของซาช่าด้วยครับ” ประโยคถัดมายิ่งทำให้คิริลล์สนใจในตัวเวียงพิงค์
“เพื่อนระดับไหน”
“น่าจะสนิทสนมพอสมควร เพราะในโทรศัพท์ของเธอมีข้อความที่บันทึกการสนทนาไว้อยู่” กระเป๋าสะพายของเวียงพิงค์ไม่ได้หายไปไหน นั่นเพราะถูกคนของคิริลล์เก็บไว้เอง ก่อนที่ลูกน้องจะเอ่ยต่อ
“และภาพจากกล้องวงจรปิดแถวๆ จุดเกิดเหตุ ก็จับได้ว่าวันนั้นเธอมากับซาช่าและภรรยาครับ ในข้อความยังบอกอีกว่าเธอมาที่นี่เพื่อร่วมงานแต่งงาน”
“งานแต่งงานของใคร” ประโยคคำถามยังคงดังมาจากคิริลล์
“ซาช่ากับภรรยา”
“แต่คู่นี้แต่งงานกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ” คิริลล์คิ้วขมวดทันที
“ใช่ครับ”
“หรือเธอจะถูกหลอกมาที่นี่”
“เป็นไปได้ครับเจ้านาย เพราะตอนนี้ซิโมนกับซาช่ามีข่าวว่ากำลังค้าประเวณี โดยเน้นผู้หญิงต่างชาติเป็นหลัก” คำพูดของลูกน้องทำให้คิริลล์เงียบไป นั่นเพราะซิโมนกับซาช่าคืออดีตลูกน้องที่ทำงานด้วยกันมาหลายปี แต่ถูกเขาไล่ออกเมื่อหลายเดือนก่อน เพราะทำในสิ่งที่เขารับไม่ได้
เขาเคยเตือนเรื่องนี้กับซิโมนไปแล้ว แต่เรื่องก็ยังลอยมาเข้าหูจนได้ ซิโมนกับซาช่ายังทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้นโดยไม่สนใจคำสั่งของเขาสินะ
“ปล่อยข่าวออกไปว่าเวียงพิงค์อยู่ที่นี่ ที่เหลือฉันจัดการเอง”
“ครับเจ้านาย” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จากนั้นก็กลับออกไปจากห้องทำงานของคิริลล์ทันที ส่วนคิริลล์นั้นต้องการล่อหลอกให้ซิโมนออกมาจากที่ซ่อน โดยใช้เวียงพิงค์เป็นเหยื่อ เพราะเขามั่นใจว่าเธอต้องสำคัญต่อซิโมนและซาช่าไม่มากก็น้อยแน่ หากเขาคิดถูกอีกไม่นานสองคนนั้นจะมาที่นี่
