๖ ปรับตัว (๑)
๖
ปรับตัว
ความเงียบของห้องทำให้ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ อาการตกใจกลัวแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อมีอาวุธลับของชายหนุ่มดันที่หน้าขา ใบหน้าหวานแดงซ่านทั้งยังเม้มปากแน่น เธอควรจะผละหนีแล้วระดมทุบตีร่างสูงแต่ก็ไม่อาจทำได้เนื่องจากโดนรัดแน่นจากตัวต้นเหตุ
..หน้าสิ่วหน้าขวานยังมาคิดลามกอีก
“อะ ไอ้บ้ากาม” เสียงเล็กเอ่ยติดขัดแล้วดันแผ่นอกหนาเพื่อเอาตัวออกห่าง
ทว่าสายไปเสียแล้วในเมื่อเสือตื่นมีหรือจะปล่อยให้เหยื่อรอดพ้นไป ได้ง่าย
“เธอเป็นฝ่ายกระโดดมาหาฉันเองนะ” กลิ่นสบู่ของหญิงสาวโชยเข้าจมูกอีกครั้ง ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่ไวต่อกลิ่น หากวันนี้ต่างออกไป
..ไม่รู้ว่าบุลลาใช้สบู่หรือยาสระผมยี่ห้ออะไรถึงได้ทำให้เป็นบ้าได้ขนาดนี้
“ก็ฉันกลัว ใครจะไปรู้ว่านายจะ จะเป็นแบบนี้เล่า!” สัมผัสได้ถึงการขยาย ตัวใหญ่ขึ้นของส่วนนั้นจึงใช้ความพยายามดันตนเองออกโดยไม่รู้เลยว่า ยิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของบุรุษเพศเพิ่มขึ้นและตอนนั้นเองที่เขาไม่สามารถกักเก็บความต้องการที่มีต่อหล่อนเอาไว้ได้
“เรามาทำคืนเข้าหอให้สมบูรณ์แบบกันเถอะ” ร่างหนาพลิกกายขึ้นทาบทับคนตัวเล็กอย่างรวดเร็วพร้อมถอดเสื้อกล้ามออกแล้วเหวี่ยงไปตกพื้นห้องก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากเล็กเพื่อปิดกั้นเสียงร้องและนั่นเป็นโชคดีของเขาเพราะได้ส่งลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปากของอีกฝ่าย เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อจนอารมณ์ที่จะขัดขืนตอนแรกโอนอ่อนลง
พณณกรใช้ความชำนาญในการเล้าโลม สอดมือเข้าไปสัมผัสผิวลื่นแล้วชะงักเมื่อพบว่าเธอสวมบรา ริมฝีปากที่ตะโบมจูบหยุดชะงักชั่วครู่และผละออกมา
“คิดว่าชั้นในจะช่วยเธอหรือไง”
ตอนนี้ดวงตากลมโตมีแววหวานเชื่อมเพียงแค่โดนจุมพิตเท่านั้น หัวสมองเบลอไปชั่วขณะไม่อาจเรียบเรียงคำพูดของร่างสูงได้ กระทั่งอีกฝ่ายก้มลงมาปิดปากอีกครั้งและคราวนี้ยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก
คนที่ไม่เคยได้สัมผัสอารมณ์รัญจวน หลงระเริงในวังวนที่เขาสร้างขึ้น ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเสื้อถูกถอดออกตอนไหนและชั้นในที่ใส่เพื่อปกปิดทรวงอกถูกถอดจนเผยให้เห็นร่างกายท่อนบน
แสงไฟจากข้างนอกส่องมาพอให้เห็นความงดงามของหญิงสาว ผิวขาวเนียนส่องสว่างจนดวงตาคมพร่ามัวไปชั่วขณะ เขาเลื่อนจากริมฝีปากของเธอมายังดอกบัวคู่งาม ดอมดมและดูดกลืนราวคนหิวกระหาย ฝ่ามือหนาเคล้นคลึงด้วยความเมามันในอารมณ์
จนคนใต้ร่างแอ่นกายขึ้นเพื่อรับสัมผัสนั้น
ลืมสิ้นความเขินอายเมื่อเขาพาเธอท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่ตนเองไม่เคยได้ไป เท้าเล็กจิกผ้าปูที่นอนในขณะที่มือก็ขูดแผ่นหลังหนาจนเป็นรอยแดง
“หยะ อย่า” พยายามข่มใจปฏิเสธการกระทำที่ไม่สมควร ทั้งที่เสียงแผ่วเบาเหลือเกิน
“แต่ดูเหมือนร่างกายเธอชอบนะ” น้ำเสียงเขาแหบพร่าทั้งยังรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นอีก
บุลลาแสนเกลียดเหลือเกินแต่ที่เกลียดยิ่งกว่าคือหัวใจของตนซึ่งเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อสบสายตาคู่นั้น
กางเกงของหญิงสาวถูกเขาดึงลงไปกองที่เท้าและปราการชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดจุดอ่อนไหวของหล่อนก็อันตรธานหายไปโดยฝีมือของหนุ่มชั่วโมงบินสูงคนนี้
พณณกรยอมรับว่ารูปร่างของบุลลาสวยไร้ที่ติ เธอมีผิวขาวเนียนละเอียดทั้งยังกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทรวงอกที่ไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไปแต่พอดีกับมือของเขา ราวสร้างมาเพื่อกันและกัน ไฝขนาดเล็กใต้ฐานอกมันน่าหลงใหลจนเฝ้าจุมพิตหลายครั้ง
“อือ” เสียงครางดังขึ้นราวถูกจี้จุดอ่อนไหว เขายกยิ้มมุมปากแล้วใช้ลิ้นเลียฐานบัวคู่งามก่อนขยี้เม็ดสีชมพูจนแข็งเป็นไต
ร่างบางก็สู้มือเสียเหลือเกิน เธอบิดตัวไปมาผวากอดเขาหลายรอบ ไม่แม้แต่จะโต้ตอบเกมรัก สร้างความสงสัยให้คนเจนสนาม จนบางครั้งเผลอคิดว่าบุลลาไร้เดียงสา
ไม่มีทาง..ผู้หญิงที่หวังอ่อยเพื่อนเขาในโรงเก็บหญ้านะหรือจะบริสุทธิ์ ให้คนออกลูกเป็นควายยังง่ายกว่าเลย
กางเกงของร่างสูงถูกถอดอย่างรวดเร็วเพราะไม่ชอบใส่ชั้นในนอนทำให้ทั้งกายเปล่าเปลือยเหมือนคนใต้ร่าง
พณณกรไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปในเมื่อจุดยุทธศาสตร์แข็งขืนจึงรีบเข้าไปในช่องทางสีหวานทำเอาคนไม่เคยโดนล่วงล้ำถึงกับผวากอดผู้นำทาง
“มะ ไม่” ปากปฏิเสธแต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างไม่รู้ตัว
“อย่าปากแข็งหน่อยเลย ฉันรู้ว่าเธอชอบ” บอกพร้อมกัดฟันเนื่องจากรู้สึกว่าช่องทางของเธอจะคับแน่นเหลือเกินราวไม่เคยมีคนเบิกทางและวินาทีนั้นเองที่ทำให้คนเจนจัดได้รับรู้บางอย่าง
..เธอยังบริสุทธิ์!
การเคลื่อนตัวเข้าไปแม้จะมีน้ำหล่อลื่นช่วยแต่ก็ยากลำบากเหลือเกินด้วยขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มทำเอาใบหน้าหวานเหยเก ส่ายหัวจนเส้นผมกระจาย
“เจ็บ ฉันเจ็บ” น้ำตาคลอเต็มเบ้าจนร่างสูงนึกสงสารโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากมอบความอ่อนโยนให้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นจึงค่อยขยับให้กายลึกเข้าไปจนกระทั่งแนบชิดกัน เขานิ่งค้างเอาไว้ให้เธอได้ทำความคุ้นชินก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอย่างเชื่องช้า
บุลลารู้สึกราวร่างกายกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง เคล้าคลอกับเสียงครางซึ่งต้องการระบายอารมณ์ที่เกิดกับตนเอง ไม่เคยได้พานพบเลยตั้งแต่แตกเนื้อสาว แม้ใจอยากจะลองก็กลัวเจ็บปวด ทว่าวันนี้ได้รู้แล้วว่านอกจากความเจ็บมันยังแฝงไปด้วยความอิ่มเอม ยามที่ได้ยินเสียงเนื้อกระทบกัน เหมือนเท้าของเธอค่อยๆ ลอยเหนือพื้น มือเอื้อมไปแตะก้อนเมฆรับรู้ถึงความนุ่ม
อารมณ์ขับเคลื่อนไปเรื่อยก่อนทุกอย่างจะค่อยเบาลงและร่างสูงหยุดเคลื่อนไหวปล่อยน้ำรักออกมาเต็มพร้อมซบใบหน้าลงบนบัวตูมคู่งาม หอบหายใจถี่
คืนเข้าหอที่หลับตั้งแต่หัวค่ำใครจะคิดว่าได้ใช้ช่วงเวลาที่ดีด้วยกันในกลางดึกซึ่งลมพัดโชยกลิ่นดอกราตรี ความมืดโอบอุ้มบ้านทั้งหลังเอาไว้จนทำให้หญิงสาวสร้างความกลัวแล้วเปิดโอกาสให้พ่อเสือหนุ่มได้ขย้ำเหยื่ออย่างเต็มที่
พณณกรยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้รู้ว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ
ใช่แล้ว..บุลลาเป็นผู้หญิงของเขาอย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
แสงตะวันส่องเข้ามาในห้องนอนที่มีร่างสูงเหยียดกายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาโดยไร้ซึ่งอาภรณ์ปิด มือหนาควานหาร่างเล็ก หวังจะคว้ามากอดแต่ก็ต้องพบเพียงความว่างเปล่าและที่นอนเย็นชืดบ่งบอกว่าคนข้างกายลุกจากที่นอนไปนานแล้ว ทำให้พณณกรจำต้องลืมตาลุกขึ้นนั่งหันซ้ายแลขวาก็ไร้เงาของบุลลา
นี่เขาถูกฟันแล้วทิ้งเหรอ..
คิดในใจแล้วเกาศีรษะก่อนจะมองคราบน้ำรักเปื้อนที่นอนยังมีรอยเลือดขนาดเล็กจนเขาแอบอมยิ้มคว้ากางเกงบอลซึ่งวางบนพื้นข้างเตียงขึ้นมาสวม ไม่สนใจเสื้อกล้ามสักนิด
คนตัวสูงก้าวออกจากห้องนอนมองไปโซนครัวก็เห็นคนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งสั้นจนเห็นเรียวขาขาวที่เขาแอบฝากรอยสีกุหลาบเอาไว้
ที่จริงเขาก็ทำรอยไว้ทั้งตัวเธอนั่นแหละ ไม่น่าเชื่อว่าร่างบางจะมีแรงลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าทั้งที่เมื่อคืนโดนเขาเล่นไปหลายยกแท้ๆ
..อึดเหมือนกันนะเนี่ย
ค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังแล้วกอดเข้าที่เอวเล็กจนคนไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งโหยง เกือบทำหม้อข้าวต้มตกพื้นเสียแล้ว
“ทำบ้าอะไรของนาย!” เอ็ดเสียงเขียวพยายามจะออกจากอ้อมกอดนี้ แต่ก็ไม่เป็นผลจนเริ่มคิดแล้วว่าเขาเป็นคนหรือยักษ์กันแน่ถึงมีเรี่ยวแรงมหาศาล
“กอดเมีย” พูดอย่างไม่กระดากปากเพราะเมื่อคืนเขาเป็นคนย้ำชัดถึงความสัมพันธ์เอง
ตอนนี้บุลลาเป็นของนายพณณกรทางพฤตินัยแล้ว จะเหลือก็ทางนิตินัย..
“วันนี้ไม่ต้องไปทำงานนะ” อันที่จริงหญิงสาวก็ไม่ได้โผล่ไปที่ไร่เป็นเดือนแล้ว เงินก็ไม่ได้จนแทบจะกินแกลบจึงคิดว่าหลังแต่งงานจะกลับไปทำตามปกติ เดี๋ยวไม่มีกินไม่มีใช้
“ฉันจะไป” คนดื้อดึงยังคงสนใจข้าวต้มตรงหน้าทั้งที่โดนกอดเอว พยายามไม่หันไปสนใจเขาเพราะกลัวชายหนุ่มเห็นใบหน้าแดงก่ำจากความเขิน
“ถ้าเธอไปฉันตามไปลากถึงที่แน่ จะจูบโชว์คนงานด้วย เอาแบบนั้นไหม” คำขู่สร้างความกลัวให้แก่คนตัวเล็ก
“นายไม่กล้าหรอก” ตอบกลับเสียงสั่นเล็กน้อย
“ลองดูไหมล่ะ จะได้รู้ว่าฉันกล้าหรือไม่กล้า” ใครจะไปลองเล่า แค่เมื่อคืนเอวก็เคล็ดจนเดินยากอยู่แล้ว ที่จริงถึงเขาไม่บอกวันนี้ก็กะจะลาอีกหนึ่งวันนั่นแหละ จะเรียกว่าลาได้ไหมเล่าในเมื่อขาดงานเป็นเดือนคงโดนไล่ออก ดีที่เมื่อวานคุณชลธีบอกว่าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยเข้ามาทำงานก็ได้
“แล้วทำไมลุกแต่เช้า ไม่ปวดเอวหรือไง” เขาถามออกมาราวเป็นเรื่องปกติซ้ำยังกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
จนคนหน้าบางร้อนซู่ทั่วใบหน้า
“ที่จริงน่าจะนอนต่ออีกสักหน่อย” สัตวแพทย์เกยคางที่ไหล่เล็ก มือหนาก็เข้าไปภายในร่มผ้า ลูบหน้าท้องเรียบก่อนจะเลื่อนขึ้นมายังฐานอก
จนบุลลาต้องจับมือเขาเอาไว้
“อย่า” ห้ามเสียงสั่นแล้วเอียงหน้ามามองเขาอย่างพยายามปรามแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล
“นิดเดียว แค่ข้างนอก” ขณะที่ต่อรองเขาก็ได้ครอบครองทรวงอกนุ่มเป็นที่เรียบร้อย
และเช้าวันนั้นกว่าจะได้กินข้าวต้มก็ปาไปเก้าโมงกว่าแล้ว...
“มาทำงานสายนะนาย เมื่อคืนหนักเหรอครับ” คู่หูเจ้าประจำเอ่ยล้อเลียนเมื่อเจ้านายสุดหล่อเดินมายังคอกวัวในเวลาสิบโมงครึ่ง หลังเสร็จกิจกรรมกับภรรยาในช่วงเช้า ภายนอกที่เขาว่าไม่มีอยู่จริงเพราะพณณกรลากคนตัวเล็กไปต่อในห้องน้ำอีกหนึ่งรอบ ก่อนชำระร่างกายให้และอุ้มคนไร้เรี่ยวแรงไปนอนบนเตียง
“เสือกนะมึง” ถึงจะด่าแต่ริมฝีปากก็มีรอยยิ้มแต้ม
จนโอ้หันไปมองอาร์ตแล้วพยักหน้าให้กัน
“หน้านายมันฟ้อง แสดงว่าคนนี้เด็ดจริง” ขยับเข้าไปใกล้นายเมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนตกอยู่ในภวังค์กระทั่งโดนมือหนาตบลงที่กบาลคนละทีทำเอาเห็นดาวลอยเต็มท้องฟ้า
“เสือก ห้ามคิดอกุศลกับเมียกู” หันไปทำหน้าเข้มด้วยความไม่ชอบใจ แค่เห็นผู้ชายคนอื่นคิดกับบุลลาในทางไม่ดี ใจมันก็ร้อนเป็นไฟเสียแล้ว อาจเป็นผลพวงมาจากการได้รับรู้ว่าตนเองเป็นคนแรกของเธอก็เป็นได้ อันที่จริงเขาไม่ค่อยชอบผู้หญิงเวอร์จิ้นเท่าไหร่ กลัวว่าจะมาผูกมัดกับตัวเองจนเกินไป
อย่างแฟนคนแรกที่คบกันมาหลายปีก็ไม่ได้มีเขาเป็นคนแรก ผู้หญิงหลายคนต่างผ่านศึกอันโชกโชนมาแล้วและเข้าหาเพราะเรื่องเซ็กซ์ทั้งสิ้น เว้นก็แต่..ไปรยาที่ยังคงสานสัมพันธ์เรื่อยมาถึงปัจจุบัน
คิดแล้วคิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากัน รู้สึกได้ถึงความยุ่งยากที่จะเกิด เขาอาจไม่ใช่คนแรกของเธอ แต่อีกฝ่ายก็มักทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งที่ตกลงชัดเจนว่าเป็นเพียงคู่นอนหรือ Friend with benefits เท่านั้น จะตัดก็ไม่ได้เพราะเรื่องมันถลำลึกเกินจะแก้ไขเสียแล้ว ไม่น่าเอาตัวเข้าไปพัวพันตั้งแต่แรกเลย และก่อนจะคิดอะไรไปไกลเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ครับ” เขารับสายด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
'ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยโทรหาหนึ่งเลยค่ะ หนึ่งโทรไปก็ไม่รับสาย'เสียงหวานเอ่ยอย่างเง้างอน
ไปรยา รักษาชัยสิทธิ์ สัตวแพทย์คนสวยที่มีคลินิกรักษาสัตว์เป็นของตนเอง บิดาเป็นคุณหมอด้านศัลยกรรมมีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่มีผู้เข้ารักษามากสุดอีกด้วย มารดาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการเกษตรเป็นที่นับหน้าถือตา ส่วนพี่ชายคนโตเดินตามรอยบิดาเป็นคุณหมอทางด้านหัวใจ พี่ชายคนรองก็มีธุรกิจเป็นของตนเอง ครอบครัวของหญิงสาวเรียกได้ว่าสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง
“ผมยุ่ง ขอโทษนะ” ชายหนุ่มที่แข็งกระด้างเปลี่ยนเป็นบุคคลอ่อนโยนขึ้นทันทีเมื่อได้คุยกับคุณหนูคนสวย ที่จริงเธอไม่ใช่สเปกเขาสักนิด ด้วยปกติ พณณกรชอบผู้หญิงจิ้มลิ้มทว่าไปรยากลับสวยคมแต่เพราะลีลาทางกายที่เข้ากันได้ดีจึงกลบความชอบทางด้านหน้าตาไปสิ้น
'หนึ่งเข้าใจค่ะ ว่าแต่คุณจะลงมากรุงเทพเมื่อไหร่คะ'
ร่างสูงเดินไปนั่งใต้ต้นไม้เลี่ยงจากลูกน้องที่มีท่าทางสอดรู้สอดเห็น
“ไม่รู้เหมือนกัน” ไม่อยากลงไปด้วยซ้ำ เขาขาดการติดต่อไปเป็นเวลานาน ไม่ได้กลับเมืองหลวงเกือบปีแล้วมารดาโทรมาบ่นคิดถึงอยู่บ่อยครั้ง
'แต่หนึ่งว่าคุณคงต้องลงมาแล้วค่ะเพราะอาจารย์ถวิลบอกให้หนึ่งติดต่อคุณไปเป็นวิทยากรของคณะ'
..หากอาจารย์ขอมาขนาดนี้เขาคงปฏิเสธไม่ได้ถึงจะไม่อยากไปมากแค่ไหนก็ตาม
“วันไหนล่ะ”
'อีกสองเดือนค่ะ หนึ่งแค่โทรมาบอกคุณล่วงหน้าเพราะกลัวเบี้ยวเหมือนคราวที่แล้ว'
ริมฝีปากหนายกยิ้มเมื่อคิดถึงครั้งที่ได้รับการติดต่อให้ไปเป็นวิทยากรแล้วเขาดันตกปากรับคำทั้งที่กำลังเมาพอสร่างก็เบี้ยวด้วยการหนีออกจากไร่ไม่ให้ชลธีตามตัวเจอ กระทั่งผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ค่อยกลับมาอีกครั้ง
โดนด่าจนหูชาเลยทีเดียว
“ครับ ไม่เบี้ยวหรอก”
'แล้วหนึ่งจะรอคุณค่ะ'
วางสายไปด้วยใจหนักอึ้งจนต้องถอนหายใจออกมาคลายความรู้สึกที่เหมือนแบกภูเขาเอาไว้ออกบ้าง บางทีก็รู้สึกว่าตนเองเข้มงวดและไม่รู้จักปล่อยวาง เขายังจำเหตุการณ์ที่สร้างรอยร้าวระหว่างความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกับกองทัพได้เป็นอย่างดี
และจากวันนั้นก็ได้สร้างนายพณณกรคนใหม่ขึ้นมา คนที่เย็นชา ไม่เคยศรัทธาต่อความรักอีกเลย ปิดกั้นตัวเองจากความรู้สึกที่หญิงสาวทั้งหลายเพียรมอบให้ จนกลายเป็นคนแข็งกระด้าง ดูไร้หัวใจ
คนไม่เคยเจ็บไม่รู้หรอกว่ามันเป็นอย่างไรที่ถูกคนไว้ใจหักหลัง
บ่ายคล้อยร่างบางที่นอนหลับก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว เขาชักจะใช้งานร่างกายเธอหนักเกินไปเสียแล้ว บุลลาไม่มีเวลาทำใจหรือคร่ำครวญถึงพรมจรรย์ที่เสียไป เขาก็มาซ้ำรอยเดิมทำเอาหมดแรงจะลุกเดิน แต่จำต้องฝืนใจเพราะได้กลิ่นคาวคลุ้งทั่วห้อง
จะเป็นกลิ่นอะไรเล่าหากไม่ใช่น้ำสีขุ่นของคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ริมฝีปากจิ้มลิ้มบ่นพลางนำผ้าปูที่นอนและผ้าห่มออกไปซัก ไม่ลืมเก็บเสื้อผ้าของเขาซึ่งตากเต็มหลังบ้านมาพับเก็บอย่างเป็นระเบียบ เปิดตู้สำหรับเก็บชุดเครื่องนอนแล้วเลือกผ้าปูและผ้าห่มออกมาจัดการคลุมเตียงด้วยชุดใหม่
กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จท้องก็ประท้วงเสียแล้ว ทว่ายังไม่ทันจะได้เดินไปโซนครัวประตูบ้านก็ถูกเปิดออกด้วยมือของชายซึ่งเป็นสามี
