ep3
เสียงครึกครื้นเฮฮาค่อยจางหายหายไป พร้อมแขกกลุ่มสุดท้ายที่ร่ำลายืดเยื้อกว่าจะลากลับ ราตรีนั่งสดับรับฟังเสียงโหวกเหวกโวยวายของผู้คนอยู่นานนับชั่วโมง หล่อนถูกทิ้งไว้ในห้องหอเพียงลำพัง หลังจากพิธีส่งตัวเสร็จสิ้นและเจ้าบ่าว เดินออกไปจากห้องเพื่อสังสรรค์กับเพื่อนๆ
หญิงสาวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เธอเดินทางมาเจอมิสเตอร์โจ คู่หมั้นของทิปปิ้หรือทิพา พี่สาวฝาแฝดโดยบังเอิญ แล้วมาที่นี่พร้อมกับเขา แต่ทันทีที่ถึงที่นี่เธอกลับตกกระไดพลอยโจนมาเป็นเจ้าสาวให้กับคนที่เธอไม่รู้จัก
“ฉันจะฆ่าเธอ”
มิสเตอร์โจ บอกเธอไว้อย่างนั้น ก่อนจะลากพี่สาวเธอออกไป และนั่นคือเหตุผลที่เธอต้องรับสภาพอยู่จนถึงเวลานี้
เสียงผิวปากอย่างอารมรณ์ดีแว่วเข้ามาในห้องหอที่ถูกจัดประดับไว้ด้วยดอกกุหลาบหลากสี ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ โคมไฟดวงเล็ก บนโต๊ะข้างหัวเตียงส่องแสงสีนวล ขับให้บรรยากาศภายในห้องงดงามราวกับเทพนิยายที่เจ้าสาวนั่งอยู่กลางดงดอกไม้ ชั่วครู่เจ้าของเสียงผิวปาก ก็ผลักประตูเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้คุณรอนานไปหน่อย”
ภาสกรนั่งลงข้างหญิงสาวแล้วยิ้มใส่ตาให้เธอด้วยความรัก ราตรีที่เงยหน้ามองเขาเหมือนตาพร่าไปเล็กน้อย เมื่อต้องเจอกับชายหนุ่มรูปหล่อ หน้าตาคมคาย ผิวเข้มรูปร่างบึกบึนสมชายชาตรี แตกต่างจากฝรั่งตาน้ำข้าวที่แวดล้อมตัวเธอที่พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่ค่อนข้างจะสะโอดสะองและสำอางค์
“เป็นอะไรไปนั่งเงียบเชียว”
ชายหนุ่มแตะฝ่ามือลงบนไหล่ของเธออย่างแผ่วเบา แต่ก็ทำให้ราตรีถึงกับสะดุ้งเฮือก จนเขาต้องชักมือกลับ
“มีอะไรหรือเปล่า”
เขาเพ่งพินิจเจ้าสาวของเขาอย่างสงสัย ปกติทิพาไม่เคยนั่งเงียบแบบนี้ และเมื่อต้องอยู่สองต่อสอง เธอต่างหากที่เข้าถึงตัวเขาก่อน ก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวเธอ
“ไม่มีอะไรค่ะ คุณภาสไปอาบน้ำก่อนสิคะจะได้สบายตัว”
หญิงสาวตอบเสียงสั่น พยายามทำตัวให้เป็นปกติ รู้ดีว่าวินาทีข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้น แต่เธอจะหลีกหนีมันได้อย่างไร หรือเธอควรบอกความจริงกับเขา
“ถ้าอย่างนั้นรอผมสักครู่นะครับ ผมอาบน้ำไม่นานหรอก”
เขาโฉบใบหน้าก้มลงจูบแก้มเธอเร็วๆ แล้วผละไปที่มุมห้อง ทิ้งให้ราตรีนั่งชะงักอยู่กับที่ ก่อนยกมือลูบแก้มแล้วสะท้านเยือกในใจ
เธอจะทำอย่างไรดีนะ?
สายตาคมหวานของหญิงสาวแอบมองชายหนุ่มที่กำลังถอดเสื้อสูทแขวนไว้ ก่อนจะค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดๆ เธอเห็นท่อนบนของร่างกายเขา สมบูรณ์ไปด้วยเนื้อแน่นและมัดกล้ามที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป แม้ว่าเธอจะเคยเห็นร่างกายผู้ชายมานับไม่ถ้วน แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ หญิงสาวเห็นแล้วอดสะท้านในหัวใจไม่ได้ เธอแอบมองเขา จนกระทั่งเขาลับหายไปในห้องน้ำ
ราตรีเติบโตขึ้นมาในสังคมตะวันตก เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ไร้เดียงสาในเรื่องเพศ เพราะคนรอบตัวเธอล้วนแต่มีกิจกรรมทางเพศกันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ตัวเธอนั้น ยังรักนวลสงวนตัวตามคำแม่บอก ก่อนที่พ่อกับแม่จะลาจากเธอไปด้วยอุบัติเหตุ ทิ้งให้เธอกับพี่สาวต้องเผชิญกับชีวิตในฝรั่งเศสกับญาติของพ่อโดยลำพัง
“คิดอะไรอยู่หรือจ๊ะ”
เสียงเรียกของชายหนุ่มทำให้เธอตื่นจากภวังค์ เขานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวพันที่บั้นเอว ตามร่างกายยังมีหยดน้ำเกาะพราวหลงเหลืออยู่ หญิงสาวเหลือบตาดู แล้วหายใจไม่ทั่วท้อง
“ดึกมากแล้ว คุณง่วงหรือยัง”
เขานั่งลงบนเตียงแล้วรั้งร่างเธอเอนทับลงมา ก่อนจะรูดเสื้อนอนเนื้อนิ่มของเธอออกอย่างชำนิชำนาญ จนร่างของเธอเปลือยเปล่าอยู่กับเขา ราตรีตัวสั่นระริกทันที
“หนาวหรือ เดี๋ยวผมจะทำให้คุณอุ่นเอง” เขากอดกระชับตัวเธอแล้วซบจมูกลงตรงช่วงไหล่ลาดขาว
“คุณภาส ดับไฟก่อนเถอะค่ะ”
เธอร้องขอด้วยความอาย เธอรับรู้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น และเตรียมไจไว้แล้ว ทว่าเธอก็ไม่เคยเปลือยกายต่อหน้าชายหนุ่มคนใดมาก่อน
“อย่าอายเลย คุณสวยขนาดนี้ ขอให้ผมได้ชื่นชมคุณเถอะ” ว่าแล้วเขาก็จูบซุกไซ้ไปตามเนื้อตัวของเธออย่างหื่นกระหาย ราตรีสะท้านเยือกไปกับไรเคราเขียวที่เพิ่งโกนของเจ้าบ่าว มันเสียดสีกับเนื้อนุ่มจนเธอสยิวไปทั่วทั้งตัว
