บท
ตั้งค่า

บทที่ 13 การขายครั้งแรก

ป้าคนนี้เป็นลูกค้าคนแรก ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จากนั้นก็มีป้าอีกคนหนึ่งถือตะกร้าแล้วพูดต่อซูหงซาน"แม่นาง ขาหลังอีกข้างหนึ่งเหลือให้ข้านะ"

"ขาหน้าทั้งสองข้างข้าเอาหมด"

"แม่นาง หูหมูเหลือให้ข้าที นายท่านของข้าชอบกินหูหมูที่สุดแล้ว"

หมูป่าตัวหนึ่งถูกจองออกไปครึ่งตัว ซูหงซานจึงยุ่งมาก ส่วนฝั่งของหานต้าจ้วงใช้มีดหั่นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ฝูงชนล้วนกรีดร้องขึ้นมา

"อุ้ย ชายหนุ่มคนนี้เก่งมาก หั่นได้อย่างแม่นมาก หั่นรอบเดียวได้ขาทั้งตัวเลย"

"รวดเร็วมาก

ซูหงซานหันไป ก็เห็นท่าทางที่รวดเร็วและแม่นยำของหานต้าจ้วง เบิกตากว้าง ตอนเด็กที่นางพักอยู่ในชนบทกับคุณปู่คุณย่าก็เคยเห็นคนในหมู่บ้านฆ่าหมู มันไม่ได้สบายอย่างเขาเลย

และหั่นได้อย่างแม่นยำทุกครั้ง ถึงเป็นนักล่าทั่วไปก็ไม่สามารถทำได้

ดวงตาที่ซูหงซานมองหานต้าจ้วงนั้นกะพริบ แล้วรีบพูดว่า"สามีของข้าคือนักล่า ตั้งแต่เด็กก็ขึ้นภูเขาไปล่าสัตว์อย่างเดียว เลยมีแรงมาก"

"แม่นางได้แต่งงานกับสามีที่เก่งเลยนะเนี่ย"ป้าที่ซื้อขาหมูของซูหงซานในก่อนหน้านี้พูดล้อนาง

ซูหงซานไม่เห็นจะหน้าแดงเลย โบกมือ"ที่ไหนได้ล่ะ แค่รวมตัวกันใช้ชีวิตเท่านั้น"

ลักษณะที่ชำนาญอย่างนั้น ทำให้หานต้าจ้วงที่กำลังหั่นเนื้ออยู่นั้นเลิกคิ้ว

ไม่ถึงชั่วโมงหนึ่งเอง หมูตัวหนึ่งก็ขายหมดแล้ว เหลือแต่เครื่องในของหมูไม่มีคนเอา ซูหงซานเลยไม่ขายแล้ว นางมีความคิดอย่างอื่นในใจ

สองผัวเมียของแผงข้างๆอึ้งไปแล้ว พวกเขาไม่เคยเห็นคนขายเนื้อหมูแบบนี้เลย

พวกเขาขายเนื้อหมูล้วนหั่นเสร็จล่วงหน้า วางเรียงอย่างเป็นระเบียบเพื่อให้คนอื่นเลือก วันหนึ่งขายได้ประมาณครึ่งตัว หมูตัวหนึ่งต้องขายสองวันถึงจะหมด

แต่ดูคนอื่นสิ ขายไม่ถึงชั่วโมงก็ขายหมดแล้ว

หลังจากขายเนื้อหมูเสร็จ ซูหงซาน หานต้าจ้วงและซูสือโถวก็ช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่

ซูหงซานได้หยิบเนื้อหมูสิบกว่าโลที่เหลือไว้ให้บ้านตัวเองก่อนหน้านี้ หั่นชิ้นหนึ่งและเอาไปให้สองผัวเมีย ขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง

"ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านลุงและท่านป้าจริงๆเจ้าค่ะ เนื้อหมูเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทน ให้ท่านลุงท่านป้ากินเจ้าค่ะ"

เดิมทีผัวเมียสองคนเห็นว่าพวกเขาขายดีขนาดนี้ ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่เห็นว่าซูหงซานเกรงใจขนาดนี้ พวกเขาก็ไม่ดีที่จะพูดอะไร

ทีแรกพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งแผงไว้บนแผงของตัวเอง ถึงจะไม่บอกพวกเขา พวกเขาก็ทำได้เพียงโมโหเท่านั้น

แต่คนเขามีน้ำใจมาก ไม่เพียงแต่ให้พวกเขาหนึ่งร้อยเหวิน แถมยังให้เนื้อหมูหลายโลอีกด้วย พวกเขายังจะไม่พอใจตรงไหนล่ะ

และอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาขายหมูป่า ก็ขายแค่ครั้งเดียว ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเขาหรอก

"เจ้านี่เกรงใจเหลือเกิน ข้าได้หนึ่งร้อยเหวินจากเจ้าฟรีๆแล้ว ยังจะเอาเนื้อหมูของเจ้าได้ที่ไหนล่ะ ไม่เอาๆ ข้าเห็นว่าบ้านเจ้ามีทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ เอากลับไปทำให้เด็กๆกินเถอะ"ป้ารีบโบกมือ ปฏิเสธรับ

ซูหงซานพูดด้วยรอยยิ้ม"ท่านป้า ข้ารู้ว่าบ้านท่านขายเนื้อหมูไม่กลัวว่าจะไม่มีเนื้อหมูกิน แต่ของข้าเป็นเนื้อหมูป่า ท่านลุงและท่านป้าก็ถือว่าเปลี่ยนรสชาติบ้างละกัน"

ป้ายังโบกมือปฏิเสธอยู่ ส่วนซูหงซานก็วางเนื้อหมูอยู่บนแผงของพวกเขา และพูดด้วยรอยยิ้ม

"จริงๆแล้วข้ายังมีธุรกิจอย่างหนึ่งจะคุยกับท่านลุงและท่านป้าเจ้าค่ะ เนื้อหมูนิดเดียวเองท่านอย่าเกรงใจเลยเจ้าค่ะ"

"ธุรกิจ?"

พูดถึงธุรกิจ ทั้งสองคนก็ไม่มีเวลาไปสนใจเนื้อหมู เพียงมองซูหงซานด้วยความสงสัย

ซูหงซานพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม"ท่านลุงและท่านป้าก็รู้ว่า สามีของข้าเป็นนักล่า อนาคตจะต้องมีสัตว์ที่ล่ามาไม่น้อยเลย แต่เราพักอยู่ค่อนข้างไกล ไม่สามารถมาขายในเมืองได้ทุกวัน อยากจะถามท่านลุงและท่านป้าว่าจะยอมร่วมมือกับบ้านข้าหรือเปล่า เรารวยไปด้วยกัน"

ผัวเมียสองคนมองหน้าเข้าหากัน หญิงวัยกลางคนถามว่า"แม่นาง เจ้าอยากจะร่วมมือกับเรายังไง?"

"ทีหลังเราล่าสัตว์แล้วให้ท่านลุงและท่านป้าช่วยขายให้ เนื้อหมูโลหนึ่งอยู่ที่ยี่สิบห้าเหวิน ราคาของเนื้อหมูป่าอยู่ที่สามสิบเหวินขึ้นไป ข้าให้ราคาท่านลุงและท่านป้ายี่สิบเหวิน หากท่านลุงและท่านป้าอนุญาต ทีหลังสัตว์ที่ล่าได้ของบ้านข้าจะเอามาให่ท่านลุงและท่านป้าเลยเจ้าค่ะ"

คำพูดของซูหงซานทำให้สองผัวเมียหวั่นไหว วันนี้เนื้อหมูป่าขายได้กี่ชิ้น พวกเขาล้วนเห็นอยู่กับตา

เนื้อหมูโลหนึ่งก็ไม่ขายแพง ขายในราคาที่นางตั้งไว้ก่อนหน้านี้ โลละสามสิบเหวิน โลหนึ่งพวกนางจะได้กำไรสิบเหวิน ถือว่าเป็นธุรกิจที่ดีเลยทีเดียว

ไม่ต้องปรึกษากัน สองผัวเมียก็ยอมรับ

"ได้ ทีหลังถ้าพวกเจ้าล่าหมูป่าได้ก็ส่งมาให้ข้าเลย จ่ายเงินให้ทันที"

"ขอบคุณท่านลุงท่านป้ามากๆเลยเจ้าค่ะ"

หลังจากคุยธุรกิจเสร็จ อนาคตถ้าหานต้าจ้วงล่าหมูป่ามาได้อีกก็มีแหล่งขายที่มั่นคงแล้ว ราคายังสูงกว่าไปขายให้ร้านอาหารมากมายอีก

อนาคตมีทางหาเงินใหม่ สองผัวเมียก็ดีใจมาก

ป้าไปหั่นเนื้อหมูของบ้านตัวเองลงไปชิ้นหนึ่งและเอาไปซูหงซาน ยิ้มตาหยีและพูดว่า

"เจ้านี่เกรงใจเหลือเกิน ว่าแต่พวกเราถือว่าเป็นฝั่งได้เปรียบเลยนะ จะขอบคุณก็ต้องเป็นพวกเราขอบคุณเจ้า เนื้อหมูเหล่านี้พวกเจ้าเอากลับไปกินเลย"

ซูหงซานก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับพูดด้วยรอยยิ้ม"ท่านป้า เครื่องในของหมูที่ขายไม่ออกพวกเจ้าจัดการยังไง?"

ท่านป้าได้ยินคำพูดนี้ของซูหงซาน ก็ยิ้มมุมปาก"ของเหล่านั้นทั้งเหม็นทั้งสกปรกไม่มีใครเอาหรอก ล้วนทิ้งโดยตรง"

แต่ซูหงซานกลับสว่างตา พูดว่า"งั้นต่อจากนี้ไปป้าขายเครื่องในทั้งหมดให้ข้าได้ไหมเจ้าคะ"

"ของเหล่านั้นไม่มีใครเอาหรอก ไม่ต้องไปพูดว่าขายหรอก หากเจ้าอยากได้ ก็ล้วนเหลือให้เจ้าเลย เอ๊ะ ข้ายังมีที่ไม่ได้ทิ้ง ถ้าเจ้าเอาก็ล้วนเอาไปหมดเลย"

ซูหงซานเอาแน่นอนอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่เอาเครื่องในของหมู ยังสั่งป้าไว้ว่า ถ้าฆ่าหมูให้เหลือเลือดหมูให้นางด้วย

ป้าตอบตกลง ตอนที่ซูหงซานไป ยังต้องเหลือเงินยี่สิบเหวินให้นาง ถือว่าเป็นเงินซื้อเครื่องในหมูและเลือดหมู

ซูหงซานคำนวณดูคร่าวๆ วันนี้ขายได้มากกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้ หมูป่าตัวนั้นสองร้อยกว่าโล ขายได้หกตำลึง ในมือจับเงินตำลึงเอาไว้ ซูหงซานรู้สึกอารมณ์ดีมาก

ตอนที่เดินผ่านแผงขายน้ำตาลปั้น ลงรถโดยตรงและพูดกับเจ้าของร้านว่า"เจ้าของร้าน ข้าเอาน้ำตาลปั้นห้าอัน"

ได้ยินว่าห้าอัน ซูสือโถวก็รู้ว่ามีของตัวเองด้วย พูดทันทีว่า"พี่สาว ข้าไม่เอา"

ตอนนี้เขายังกินฟรีอยู่ฟรีที่บ้านพี่เขยเลย จะกินขนมได้ที่ไหนล่ะ

เจ้าของแผงพูดด้วยรอยยิ้ม"ไอ้เด็กนี่ ซื้อขนมให้ยังไม่เอาหรือ?ว่านอนสอนง่ายกว่าลูกของข้าเลยนะ"

ซูสือโถวที่ถูกชมหน้าแดงขึ้นมา ส่วนซูหงซานหลังจากถามราคาแล้วก็จ่ายเงินให้ โบกมือให้หานเสี่ยวซานและหานเสี่ยวญามาเลือก

"มาเลือกคนละอัน"

หานเสี่ยวซานและหานเสี่ยวญาสว่างตาเลย มีความระมัดระวังเล็กน้อยไม่กล้ายื่นมือ แต่ดวงตาเจาะจ่ออยู่กับน้ำตาลปั้นที่เปล่งแสงแวววับ

เห็นว่าพวกเขาไม่ยื่นมือ ซูหงซานเลยยื่นมือหยิบให้พวกเขา พอดีว่าเป็นน้ำตาลปั้นรูปที่พวกเขาชอบ และหยิบอันหนึ่งให้ซูสือโถว

ซูหงซานหยิบรูปวัวน้อยอันหนึ่งและรูปกระต่ายน้อยอันหนึ่งอีก เอารูปวัวน้อยให้หานต้าจ้วง"เจ้าก็กินอันหนึ่งด้วย"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel