ตอนที่ 7
“ข้าแค่เปลี่ยนชุดเตรียมนอน”
“ไม่ใช่ว่า…เรายังทำไม่ครบขั้นตอนหรือเจ้าคะ?”
นัยน์ตาคู่กลมเต็มไปด้วยความสงสัย มารดาบอกนางว่าเมื่อเข้าห้องหอและดื่มสุรามงคลแล้วต้องปล่อยให้สามีพาขึ้นเตียงห้ามขัดขืนโดยเด็ดขาด หลินจื้ออิงจึงกระทำตามคำสอนอย่างเคร่งครัด
“เช่นนั้นข้าขอถามหนึ่งข้อ เจ้าคิดอย่างไรตอบมาตามตรง”
สตรียุคนี้เกิดมาเป็นสมบัติพ่อแม่ แต่งออกแล้วนับเป็นสมบัติของสามี แทบไม่ได้มีชีวิตเป็นของตัวเอง
เห็นเจ้าสาวตัวน้อยถามด้วยแววตาไร้เดียงสา ชวนให้เอ็นดูระคนเห็นใจ มือใหญ่เอื้อมจับสาบเสื้อของอีกฝ่าย หลินจื้ออิงไม่ได้ปัดป้องหากแต่หลับตาปี๋ตัวแข็งทื่อในทันที
“เจ้าพร้อมจะหลับนอนกับข้าจริงหรือ ไม่กลัวงั้นหรือ?”
หลินจื้ออิงเป็นสตรีพูดน้อยและมีนิสัยยึดมั่นต่อความสัตย์ซื่อ เมื่อได้ยินคำถามศีรษะทุยรีบส่ายไปมา ปฏิเสธขั้นตอนสำคัญของการเข้าหอทันใด เจ้าบ่าวหาใช่คนน่ากลัว แต่การคุกคามหยั่งเชิงเมื่อครู่ทำเอาตั้งตัวไม่ทัน รู้ซึ้งแล้วว่าตนยังไม่พร้อมในตอนนี้
“ไม่พร้อมเจ้าค่ะ ท่านโกรธข้าหรือไม่เจ้าคะ?”
“โกรธเรื่องใดกัน ของแบบนี้ต้องเต็มใจกันทั้งสองฝ่ายจึงจะถูกต้อง”
โชคดีที่โน้มน้าวอีกฝ่ายได้สำเร็จ อดีตซูเปอร์สตาร์ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากจะให้ปฏิบัติตามธรรมเนียมจนถึงขั้นร่วมหลับนอน เขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน
“ข้าให้สัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินเจ้า แต่คงแยกห้องนอนให้ไม่ได้”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”
สีหน้าหญิงสาวดูผ่อนคลายลง คำมั่นและท่าทีหนักแน่นของหลี่อี้เทียนสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจแก่ภรรยาตัวน้อยได้พอควร อยู่ในสถานะแต่งเข้าเป็นสะใภ้สกุลหลี่ นางย่อมไม่กล้าขับไล่เจ้าบ้านให้ไปนอนห้องอื่น
“นี่ก็ล่วงเข้ายามไฮ่แล้ว เราพักผ่อนกันเถิด”
ผู้เป็นภรรยาพยักหน้ารับทราบ จัดชุดให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้วจึงขึ้นไปนอนด้านในอย่างไม่อิดออด หลี่อี้เทียนนึกชื่นชมอีกฝ่ายที่ปรับตัวได้เป็นอย่างดี เห็นทีว่าเขาคงต้องเอาเยี่ยงอย่างบ้าง
“นั่นเขตท่าน ส่วนตรงนี้เขตข้า” มือเล็กทำท่าระบุเขตแดนโดยยึดจากที่ว่างของหมอนสองใบเป็นตัวแบ่ง
“ได้ เอาตามที่เจ้าว่า” หลี่อี้เทียนขึ้นเตียงตามมา ระมัดระวังไม่ให้ล้ำอาณาเขตแม้แต่ชายผ้า ร่างเล็กเอนนอนพยายามขยับให้ชิดด้านในมากที่สุด ถึงจะเริ่มวางใจในตัวผู้เป็นสามีบ้างแล้ว ทว่ายังไม่อาจคุ้นชินในเวลาเพียงครึ่งก้านธูป
กระนั้นด้วยความอ่อนล้าที่สะสมมาทั้งวัน นำพาหลินจื้ออิงดำดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว หลังดับไฟในห้องเพียงไม่นาน
งานมงคลสมรสเสร็จสิ้นแล้ว เหลือก็แต่การหาเลี้ยงชีพ เขายังนึกภาพไม่ออกว่าความสามารถในการร้องเพลงและการแสดงที่ตนเองมี จะประยุกต์ใช้กับที่นี่อย่างไรได้บ้าง นอนมองเพดานท่ามกลางความมืดอยู่ครู่ เปลือกตาของชายหนุ่มชักเริ่มหนักอึ้ง หนทางการสู้ชีวิตขอไปคิดอีกทีในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน
