บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1-3

“โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโลกกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เป็นคนดังทำอะไรแล้วถูกเสมอ” ภาสกรบ่นลอยๆ พลางกลอกตามองบน ป่วยการที่จะไปโต้เถียงกับเด็กๆ เหล่านี้

“ฉันแค่อยากจะอธิบายว่า ฉันไม่คิดจะแซงคิวคุณหรือว่าใครทั้งนั้น ถึงจะเป็นดารา แต่ฉันก็มีมารยาทมากพอ ฉันรู้ค่ะว่าอะไรควรอะไรไม่ควรค่ะ” เรนิตาตอบกลับคนตัวสูงตรงหน้านิ่งๆ ในขณะที่ภาสกรรับฟังคำอธิบายจากเธอด้วยความพึงพอใจ เขาดูคนไม่ผิดจริงๆ…ชายหนุ่มยักไหล่เล็กน้อย และแสร้งทำทีเหมือนไม่เชื่อเธอ ก่อนจะเดินจากไป

“คนบ้า! กวนประสาท” เสียงตะโกนด่าของเรนิตาไล่หลังมา มันไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโมโหแต่อย่างใด แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกชอบใจในตัวเธอมากขึ้นเสียอีก การที่เขาเลือกจะทำพฤติกรรมแบบนั้นกับหญิงสาวก็เพราะไม่อยากอวยหรือเอาใจเธอเหมือนเหล่าแฟนคลับจนเธอติดเป็นนิสัย และก็เพื่อพิสูจน์ด้วยว่าหญิงสาวเป็นคนอย่างไร แม้ว่าการเจอกันในครั้งนี้แม้มันจะดูเหมือนเป็นความทรงจำที่แย่ แต่สำหรับชายหนุ่มมันคือความทรงจำที่ดีเพราะทำให้เขาได้เห็นเบื้องลึกในจิตใจของผู้หญิงที่เขาเฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ มาเนิ่นนาน

ดาราสาวสบถออกมาเสียงเบา พยายามควบคุมสติเอาไว้ เนื่องด้วยตรงนี้เป็นที่สาธารณะ เธอไม่อยากให้มีข่าวด้านลบของตนเองหลุดออกมา

“เอ่อ คนปากเสียมันไปแล้ว ผมว่าเชิญคุณเรย์เข้าร้านดีกว่านะครับ” เมื่อเห็นว่าภาสกรจากไปแล้ว เจ้าของร้านก็รีบเข้ามาเชิญเรนิตาให้เข้าร้านทันที

“ไว้โอกาสหน้านะคะ วันนี้เรย์ไม่มีอารมณ์กินแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”

เรนิตายกมือไหว้เจ้าของร้านอย่างนอบน้อม ก่อนจะโบกมือลาเหล่าแฟนคลับพร้อมจูงมือผู้จัดการสาวมาที่รถทันที ได้ยินเสียงบ่นอื้ออึงที่จับความได้ว่ารู้สึกเสียดายของเหล่าแฟนคลับตามหลังมาไม่ห่าง

“อารมณ์เสียชะมัด อีตาบ้านั่นคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงไม่ยอมฟังคำพูดคนอื่นบ้าง เรย์ไม่ได้อยากใช้ทางลัดทำที่เป็นดารา แซงคิวใครสักหน่อย”

เมื่ออยู่ในรถแล้ว ดาราสาวก็โวยวายกับผู้จัดการส่วนตัวทันที

“เอ่อ น้องเรย์ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ พี่ว่าเราไปหาร้านอื่นทานกันก็ได้เนอะ” เมญ่าพยายามเปลี่ยนเรื่องให้เรนิตาใจเย็น เพราะรู้ดีว่าใครที่ทำให้ดารา

สาวหงุดหงิดได้ คนคนนั้นต้องเป็นคนโชคร้ายมาก

“พี่เมญ่าก็ไม่ช่วยเรย์เลย ทีหลังไม่เอาแล้วนะคะ ถ้ามีใครจะให้สิทธิพิเศษอะไรกับเรย์อีก ให้บอกไปเลยว่าไม่เอา เรย์ไม่อยากได้ เดี๋ยวจะเจอเหตุการณ์แบบวันนี้อีก”

เรนิตาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง รู้สึกเบื่อเหมือนกันที่ผู้คนมักจะให้สิทธิพิเศษกับเธอเพียงเพราะเป็นคนมีชื่อเสียง

“ค่า เข้าใจแล้ว งั้นเราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันนะ” ผู้จัดการสาวใหญ่ยิ้มแห้งๆ ออกมา

“เรย์ไม่หิวแล้วค่ะ หมดอารมณ์กิน เตรียมตัวกลับกันเถอะ”

เรนิตาหันมาบอกเมญ่าอย่างเอาแต่ใจ ปกติ เธอไม่ใช่เด็กสาวที่จะทำอะไรตามใจตนเอง แต่ครั้งนี้มันหงุดหงิดมากเสียจนไม่อยากกินอะไรแล้ว

‘นอกจากอยากกินหัวคนปากเสียนั่น’

คนอะไรหน้าตาก็ดีแต่ปากเสียมาก ตอนนี้หญิงสาวต้องการกลับกรุงเทพฯ ไปเจอคนรักที่เป็นสุภาพบุรุษเพื่อทำให้รู้สึกดีขึ้นมากที่สุด!

เที่ยวบินจากเชียงใหม่ใช้เวลาราวๆ ชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะบินมาถึงกรุงเทพมหานครอย่างสวัสดิภาพ เรนิตารีบกดโทร.หา ‘พายุ พิชิตพาณิชย์’ นักธุรกิจบริษัทส่งออกอาหารแปรรูป หนุ่มคนรักที่คบหากันมาตั้งแต่ช่วงที่เธอเข้าวงการใหม่ๆ เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว

“เดี๋ยวพี่พายุมารับเรย์นะคะ” เรนิตาหันไปบอกผู้จัดการสาวใหญ่ด้วยรอยยิ้ม ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายความสุข

“แหม พอพูดถึงพายุแล้วอารมณ์ดีขึ้นมาเลยนะคะ” เมญ่าอดแซวไม่ได้ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าเรนิตา ‘คลั่งรัก’ ยิ่งกว่าอะไร แม้จะมีหนุ่มๆ ขายขนม

จีบให้เพียบ แต่ก็ไม่เคยสนใจใครนอกจากพายุ

เรนิตาฉีกยิ้มหวานฉ่ำ“ก็แน่สิคะ ไม่เจอกันเป็นอาทิตย์ ไม่รู้ป่านนี้ พี่พายุลืมหน้าเรย์หรือยัง แต่คงไม่ลืมหรอก พี่พายุบอกว่าเรย์อยู่ที่ไหน ก็อยู่ในใจพี่พายุเสมอ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยความเขินอาย ใครๆ มักจะคิดว่าเธอเป็นสาวมั่น แต่เมื่อพูดถึงพายุ เธอจะกลายเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ เท่านั้น

“แหม! ถ้าพายุลืมน้องเรย์ได้ คงหมายความว่า เขาไม่ได้เล่นโทรศัพท์เลย เพราะไม่ว่าจะเลื่อนดูอะไรก็มีแต่น้องเรย์เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าสารพัดแบรนด์” เมญ่าพูดเสียงสูงทันที

“ค่า ก็เรย์คิดถึงพี่พายุนี่คะ” เรนิตายอมรับออกมาด้วยสีหน้าเขินๆ เธอไม่ได้กลัวเขาลืมหน้าตนเอง แต่ที่อ้อนให้ชายหนุ่มมารับก็เป็นเพราะว่าคิดถึงเขาต่างหาก

“พายุนี่โชคดีจริงๆ นะคะที่ได้น้องเรย์เป็นแฟน จะมีข่าวดีเมื่อไหร่ต้องรีบบอกพี่ก่อนนะ พี่จะได้เคลียร์คิวงานให้” เมญ่ายิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู แม้ใครๆ จะรู้ว่างานในวงการ หากดาราแต่งงานแล้วความนิยมจะลดน้อยลง แต่เธอก็ไม่เคยคิดขัดขวางความสุขของสาวน้อยคนนี้ หากเรนิตาเลือกที่จะแต่งงาน เธอก็พร้อมที่จะดีใจด้วย

“เรย์จะบอกพี่เมญ่าคนแรกแน่นอนค่ะ แต่ก็ต้องรอให้พี่พายุขอก่อนนั่นแหละ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างใจคิด หากพายุขอแต่งงานเมื่อไหร่ เธอแทบจะไม่ต้องลังเลเลย จริงอยู่ว่าชีวิตในวงการกำลังไปได้สวย แต่เรนิตาเชื่อว่า หากแต่งงานไปแล้ว เธอเองก็ยังสามารถทำงานในวงการได้อยู่ด้วยความสามารถที่มี

“โอเคค่ะ ถ้างั้นพี่ขอตัวก่อนนะ” เมญ่าโบกมือลานักแสดงสาว แล้วเดินไปที่รถของตัวเองทันที

เรนิตารอพายุเกือบสองชั่วโมง แม้คนรักบอกว่าจะรีบออกมาให้เร็วที่สุด แต่ความรู้สึกของคนรอนั้นกลับมองว่านานเสียเหลือเกิน ยิ่งนานความคิดถึงก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งชายหนุ่มโทร.เข้ามาบอกให้เธอออกมาพบที่จุดจอดรถรับผู้โดยสาร

“รอนานไหมครับ” พายุมองแฟนสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ไม่นานเท่าไรค่ะ แต่เรย์คิดถึงพี่พายุมากเลยแอบคิดว่ามันนานไปนิดนึง” เรนิตาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแฟนหนุ่มอย่างที่เคยทำ แม้ว่าพักหลังมานี้ เขาจะดูเย็นชาแปลกๆ เธอก็ได้แต่คิดปลอบใจตนเองว่าคงเป็นเพราะว่าช่วงนี้คนรักทำงานหนัก

“ขอโทษนะ พอดีพี่ติดงาน ถ้าอย่างนั้น เย็นนี้ เราไปคอนโดพี่กันไหม”

พายุพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยอีกเช่นเคย แต่คำพูดของเขาอดทำให้คนฟังแปลกใจไม่ได้

“ไปที่คอนดโดพี่พายุ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

เรนิตาเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะถึงจะคบหากันมาสองปี แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แม้พายุจะเคยเอ่ยปากขอหญิงสาวตรงๆ แต่เธอก็ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่ายังไม่พร้อม ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยบังคับขืนใจเธอเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่ยังคบหากันมาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับเธอพายุเป็นสุภาพบุรุษ

“วันนี้พี่มีเรื่องจะคุยกับเรย์นิดหน่อย”

พายุหันมามองหน้าเรนิตาด้วยสายตาจริงจังจนหญิงสาวไม่กล้าปฏิเสธ

“เรื่องอะไรคะ สีหน้าพี่พายุดูจริงจัง เข้าขั้นซีเรียส”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel