นิสัยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน 2
ระหว่างนั้นนางก็ไปจับปลาช่อนที่ขังไว้ในอ่างน้ำมาหนึ่งตัว มีดคมถูกใช้ขอดเกล็ดปลาจนหมด จากนั้นนางก็ควักไส้ออก ล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อนพอดีคำเพื่อนำไปทำ ปลาต้มผักดองแบบเผ็ด
พอข้าวที่หุงไว้สุกแล้ว ซือหยาก็เติมฟืนจนไฟลุกโชน นางตั้งกระทะเหล็กบนเตาจนได้ที่แล้วใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมที่สับและขิงที่หั่นเป็นแว่น ๆ ลงไปผัดจนหอม ตามด้วยพริกแห้งทุบพอบุบ
จากนั้นใส่ผักดองที่ล้างแล้วลงไปผัดให้เข้ากัน นางมองดูผักดองที่กำลังส่งกลิ่นหอมในกระทะแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข น้ำสะอาดที่เตรียมไว้ถูกเติมลงไป
เมื่อน้ำเดือดเนื้อปลาช่อนถูกใส่ลงไปในกระทะอย่างเบามือ รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง นางก็ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาล จากนั้นใส่ต้นหอมลงไปในหม้อเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
เคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อน ๆ จนเนื้อปลาสุกและรสชาติเข้าเนื้อดี นางชิมจนได้รสชาติที่กลมกล่อม มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานที่พอดีกันแล้วก็ตักใส่หม้อดินขนาดพอเหมาะ
กลิ่นหอมของอาหารก็ลอยอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ ทำเอาซือหยาถึงกับน้ำลายสอด้วยความหิว นางหันกลับไปดูไข่ตุ๋นที่นึ่งอยู่บนเตา เมื่อเปิดฝาออกมาไข่ตุ๋นก็ดูเนียนนุ่มน่ากินมาก ไม่มีฟองอากาศเลยแม้แต่น้อย
"ชาติก่อนอี้หมิงกับอันหมิงชอบกินไข่ตุ๋นมาก...ไม่รู้ตอนนี้จะชอบกินไหม...แต่ลองดูหน่อยก็แล้วกัน"
ผักกาดขาวถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำอีกครั้ง กระทะเหล็กที่ถูกทำความสะอาดแล้วถูกยกขึ้นตั้งบนเตาที่ไฟ รอจนร้อนได้ที่แล้วนางก็ใส่น้ำมันเล็กน้อย หมูสามชั้นรมควันที่หั่นไว้ถูกนำลงไปผัดจนเหลืองกรอบ แล้วใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม
จากนั้นใส่ผักกาดขาวลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลเล็กน้อย นางผัดไปเรื่อย ๆ จนผักกาดขาวเริ่มสุกและนิ่มลงแล้วก็ยกออกจากเตา
ในที่สุดอาหารทุกอย่างก็เสร็จสิ้น ซือหยาจัดอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วใส่ในสองตะกร้าที่เตรียมไว้ รวมไปถึงกระบอกเก็บความร้อนที่บรรจุนมเอาไว้ ก็ถูกใส่ลงในตะกร้าด้วย
หลังจากปิดประตูบ้านเรียบร้อย ซือหยาก็เดินถือตะกร้าทั้งสองใบไปตามริมคลองที่ทอดยาวไปจนถึงทุ่งข้าวโพดของบ้านเสิ่น แสงแดดที่ร้อนแรงส่องลงมากระทบร่างของนาง ทำให้นางเหงื่อออกเหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัว
ระหว่างทางที่เดินไป นางก็เจอเพื่อนบ้านที่กำลังเดินทางไปทำงานในแปลงนาเช่นกัน พวกเขามองดูนางด้วยความประหลาดใจเพราะไม่เคยเห็นนางออกมาแปลงนาในเวลานี้มาก่อน
"อ้าว! นั่นมันสะใภ้สามสกุลเสิ่นไม่ใช่หรือ? วันนี้เจ้าออกมาทำงานแล้วรึ?" หญิงชราคนหนึ่งทักทายนางด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร
"ข้ากำลังจะเอาข้าวไปให้สามีกับลูก ๆ เจ้าค่ะท่านป้า" ซือหยายิ้มให้หญิงชรา
"โอ้! ดีแล้ว ๆ กลิ่นหอมขนาดนี้ต้องอร่อยมากแน่ ๆ"
หญิงชรากล่าวออกมาด้วยความจริงใจ ถึงจะไม่ชิน แต่การที่นางใส่ใจสามีกับลูกก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ แต่ทันใดนั้นเองเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและดูถูกก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"พระอาทิตย์ก็ไม่ได้ขึ้นทางทิศตะวันตกนี่นา! อะไรเข้าสิงทำให้สะใภ้สามบ้านเสิ่นเปลี่ยนไปได้! วันนี้ไม่ไปตามหาคนรักอย่างมู่ไต้ของเจ้าหรอกหรือ?"
ซือหยาหยุดเดินแล้วหันไปมองเจ้าของเสียงที่พูดจาส่อเสียด นางตง...หญิงชราที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านไปทั่วทั้งหมู่บ้าน นางมองหน้าหญิงชราด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
"ข้าคิดได้แล้วเจ้าค่ะท่านป้า" ซือหยากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
"เหอะ! ใครเขาจะเชื่อเจ้า!"
"ข้ากำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น...แล้วท่านป้าล่ะเจ้าคะ? นิสัยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน...พูดจาส่อเสียดคนอื่น...เป็นมาตั้งแต่สาวจนตอนนี้แก่หนังยานแล้ว...จะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่...หรือจะกลบฝังไปพร้อมกับร่างกายของท่าน?"
คำพูดของซือหยาทำให้ใบหน้าของนางตงซีดเผือด นางอ้าปากค้างแล้วพูดไม่ออก ผู้คนแถวนั้นที่กำลังมองดูนางตงด้วยความขบขันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ทำให้นางตงรู้สึกอับอายขายหน้าจนต้องรีบเดินหนีไป
ซือหยาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินจากไปทันที นางไม่หันกลับไปมองอีกเลย สองเท้าสับขามุ่งหน้าไปที่ทุ่งนาที่เต็มไปด้วยข้าวโพดสีทองอร่าม ที่นั่นมีครอบครัวที่อบอุ่นของนางรออยู่...
