บท
ตั้งค่า

ซวยแล้ว! 2

"ข้าย่อมต้องแน่ใจ ข้าต้องการท่าน"

วันนี้เมื่อมีโอกาส นางจะไม่ยอมปล่อยผ่าน ซือหยาปีนขึ้นไปนั่งคร่อมตักสามีพลางโน้มใบหน้าเข้าใกล้เขาเรื่อย ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน กลิ่นกายหอมอ่อนของนางทำให้เขาเริ่มใจเต้นรัว หัวใจที่เคยสงบนิ่งมานานกลับเต้นแรงขึ้นจนเขาต้องรีบดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด

หยางเฉิงเริ่มจูบนางอย่างดูดดื่มและดุดัน เขาไม่ต้องการที่จะลังเลอีกต่อไปแล้ว เขาใช้มือกดท้ายทอยนางให้แนบแน่นเข้ามาหาตนเอง ริมฝีปากของเขากดลงบนริมฝีปากของนางอย่างหนักหน่วง ราวกับต้องการที่จะกลืนกินนางเข้าไปทั้งตัว ลิ้นร้อน ๆ ของเขาไล่ต้อนลิ้นของนางอย่างหิวกระหาย

ซือหยากำลังเคลิบเคลิ้มไปกับการจูบที่เร่าร้อนของเขา นางรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ ความร้อนรุ่มที่นางไม่เคยได้รับมาก่อนในชาติที่แล้ว มันช่างน่าหลงใหลจนนางต้องร้องครางในลำคอ

ขณะที่ซือหยากำลังเคลิบเคลิ้ม นางดันไปคิดถึงเตียงนอนใหญ่ในมิติ ขณะนั้นเองทำให้ร่างของนางและสามีหลุดเข้าไปอยู่บนเตียงนอนในมิติโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

พรึบ!

"นี่มัน...อะไรกัน!"

ทันทีที่สัมผัสที่นอนนุ่มก็ทำให้หยางเฉิงตกใจจนต้องรีบหยุดการกระทำกลางคัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นเตียงนอนที่ใหญ่โตและนุ่มสบายเช่นนี้มาก่อนในชีวิต สิ่งรอบข้างที่ดูแปลกตาทำให้เขาตกตะลึงจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

"ซวยแล้ว!"

ซือหยาตกใจจนใบหน้าซีดเผือด นางกัดริมฝีปากก่นด่าตนเองในใจ โง่จริง ๆ ...ทำไมต้องคิดเรื่องเตียงในมิติตอนนี้ด้วย!

"ซือหยา! ที่นี่...ที่นี่คือที่ใดกันแน่!" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

นางมองดูใบหน้าของสามีที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความหวาดกลัว นางรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับมิติของนางมาก่อนหน้านี้ แต่ใครจะไปคิดว่านางจะพลาดพลั้งพาเขาเข้ามาในมิติได้ง่าย ๆ แบบนี้ นางควรจะอธิบายให้เขาฟังก่อน

แต่นางกลับปล่อยให้ความต้องการของตนเองนำพา จนเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น นางกัดริมฝีปากตัวเองอย่างรู้สึกผิดและสับสน นางจะอธิบายให้เขาฟังอย่างไรดี เขาจะเชื่อคำพูดของนางหรือไม่...

"ท่านพี่ฟังข้าก่อน นี่แหละคือเรื่องที่ข้าบอกว่าข้าอยากคุยกับท่านพี่"

ซือหยาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย นางยกมือขึ้นกุมมือของหยางเฉิงเอาไว้แน่น พยายามสื่อให้เขาเข้าใจว่านางไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงเขา แต่หยางเฉิงไม่ได้สนใจคำพูดของนาง เขามองไปรอบ ๆ ห้องที่เขาไม่คุ้นเคย โต๊ะไม้สีอ่อนที่สลักลวดลายแปลกตา เก้าอี้ที่มีรูปร่างประหลาด

และภาพวาดขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง ภาพนั้นเป็นตัวเขาเองกับซือหยา และลูกชายทั้งสองคน อี้หมิงกับอันหมิง ทุกคนในภาพสวมใส่เสื้อผ้าที่แปลกตาและใบหน้าของพวกเขามีรอยยิ้มที่สดใส

"แล้วภาพวาดนี้...นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ซือหยา เจ้าเป็นใคร เพราะแบบนี้ใช่ไหมนิสัยของเจ้าถึงได้เปลี่ยนไป"

หยางเฉิงถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและความหวาดระแวง ดวงตาของเขาจ้องมองซือหยาอย่างไม่วางตา ราวกับต้องการที่จะค้นหาคำตอบจากดวงตาของนาง

ซือหยาเห็นปฏิกิริยาของเขาแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ นางรู้ดีว่าสิ่งที่นางกำลังจะพูดออกไปนั้นมันเกินกว่าที่คนในยุคนี้จะเข้าใจได้ แต่นางก็ต้องพูดออกไป นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้น

"สิ่งที่ข้าจะพูด อาจจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แต่ท่านพี่...จากนี้ไปทุกถ้อยคำที่ข้าพูดออกมาล้วนเป็นความจริงทั้งหมด สิ่งที่ท่านพี่เห็นรอบตัวนี้...เป็นสิ่งของที่มาจากอนาคตพันปีข้างหน้า ในกาลเวลานั้นมีพวกเราอยู่" ซือหยาเล่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย

"..."

"ข้าเป็นคนมาจากยุคสมัยนั้น พวกเราเป็นสามีภรรยากัน อี้หมิงกับอันหมิงเป็นลูกของเรา ที่นั่นพวกเราใช้ชีวิตกันมีความสุขมาก จนกระทั่ง...ท่านพี่กับลูกทั้งสองได้จากข้าไป...ข้าใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาหนึ่งปีเต็ม  วันนั้นรถของข้า...เอ่อ เกวียนม้าในยุคนั้นที่ข้านั่ง...ก็เกิดอุบัติเหตุ ในที่สุดข้าก็หมดลมหายใจ"

น้ำเสียงของนางเริ่มสั่นเครือมากขึ้น เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่แสนเศร้าในชาติที่แล้ว

"..."

"แต่ที่น่าแปลกก็คือ ข้าลืมตาขึ้นมาในวันที่ข้าเลื่อนเปลือกกล้วย...ข้าก็พบว่าวิญญาณของข้าได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้...ทันทีที่ข้าได้เห็นอี้หมิงกับอันหมิง ก็เหมือนสวรรค์ให้โอกาสข้าอีกครั้ง"

ซือหยาเงยหน้าขึ้นมองหยางเฉิง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวังและความรัก

หยางเฉิงมองดูใบหน้าของนางแล้วก็ยิ่งสับสนมากขึ้น

"เช่นนั้น...เจ้ากับนางเป็นคนคนเดียวกันหรือไม่"

"ข้าคิดว่าใช่...ท่านพี่เชื่อเรื่องชาติภพหรือไม่ ชาตินี้ข้าเป็นคนจิตใจมืดบอด มีลูกมีสามีที่ดีแต่ไม่รักษาเอาไว้ พอถึงชาติหน้าเวรกรรมตามทัน ข้ายิ่งรักท่านกับลูก ๆ มากเท่าไหร่ สวรรค์ก็พรากท่านกับลูกไปจากข้าเร็วเท่านั้น ท่านพี่...ข้าได้รับโอกาสครั้งนี้ ข้าจะรักถนอมครอบครัวของเราให้ดี ท่านให้โอกาสข้าได้หรือไม่"

ซือหยาอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ หยางเฉิงยืนนิ่งด้วยความงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่รู้จะเชื่อสิ่งที่นางพูดดีหรือไม่ แต่น้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาของนางนั้นทำให้เขารู้สึกสงสารจับใจ

ซือหยาเห็นปฏิกิริยาของเขาแล้วก็เดินเข้าไปสวมกอดเขาด้วยความโล่งอก นางรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก หลังจากที่ได้บอกความลับทุกอย่างออกไป หยางเฉิงยืนนิ่งอยู่พักหนึ่งแล้วค่อย ๆ ยกมือขึ้นลูบหลังนางเบา ๆ

"เอาเถอะ...เริ่มต้นกันใหม่ก็ยังไม่สาย ขอเพียงเจ้าไม่เป็นเหมือนเดิมอีกก็พอ" น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด

ซือหยาคลายกอดแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา

"ท่านพี่ เรื่องมันไม่ได้หมดแค่นั้น...ยังมีเรื่องสำคัญที่ท่านพี่ต้องรู้"

"พูดมาเถอะ...ยังจะมีอะไรน่าตกใจกว่านี้อีกหรือ" หยางเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel