Ep.11 ก็ไม่ได้เป็นหนักถึงตาย
“หนูแสบ เดี๋ยวคืนนี้แม่จะมานอนเฝ้าไข้เราเองนะ พอดีพี่โนเขาติดงานน่ะจ้ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่เพ็ญ หนูแสบอยู่คนเดียวได้” หล่อนบอกเสียงแผ่ว
“เดี๋ยวพ่อพลอยู่กับลูกเองนะคืนนี้” ธนพลอยากอยู่ดูแลลูกสาว
“คุณแม่กับคุณพ่อไม่ต้องอยู่เฝ้ายัยแสบหรอกค่ะ เดี๋ยวดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนเองค่ะ”
ระหว่างที่ทุกคนพูดคุยกันนั้น ผู้ป่วยสาวก็ขยับตัวพลิกกายหันหลังให้ทุกคนเพื่อซ่อนความเจ็บปวดของตน
เขาไม่มา เขาไม่สนใจไยดีเธอด้วยซ้ำ หล่อนพึมพำในใจ พลางกลืนก้อนสะอื้นลงคอแล้วหลับตาไล่ความเจ็บปวดในครั้งนี้ออกไป
“งั้นพ่อฝากหนูดาด้วยนะ หนูแสบ พ่อกลับก่อนนะลูก”
“แม่ด้วยนะลูก ว่าแต่หนูแสบโทร.หาพี่เขาอีกทีดีไหมจ๊ะ เผื่อพี่เขาจะทิ้งงานมาหาเราได้”
ตะลิงปลิงขยับพลิกหันมาทางพ่อกับแม่สามีก่อนจะตอบ
“กลับบ้านดี ๆ นะคะพ่อพล ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่เพ็ญ อีกอย่างหนูก็...”
“ไม่มีเบอร์พี่เขาเหรอจ๊ะ” เพ็ญศรีถามถูกจุดเลยทีเดียว แล้วก็ได้คำตอบเมื่อลูกสะใภ้พยักหน้า
“หืม! ใช้ไม่ได้เลย อยู่ด้วยกันตั้งสามวันยังไม่มีเบอร์โทร.กัน แล้วเป็นผัวเมียกันยังไงเนี่ย หนูดาเอาโทรศัพท์ของหนูแสบมาให้แม่หน่อยสิ แม่จะเอาโทรศัพท์ของหนูแสบโทร.หาพ่อโนจ้ะ”
ชนิดาทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว หล่อนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนรักกับสามีมันยังไงกันแน่ รอให้พ่อของตะลิงปลิงกับแม่สามีของเธอกลับเสียก่อน หล่อนจะซักถามความให้รู้เรื่อง ไหนจะรอยแดงช้ำตามตัวอีก ด้านเพ็ญศรีเมื่อรับโทรศัพท์ของลูกสะใภ้มาก็เอาโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดหาเบอร์ลูกชายแล้วก็ใช้เครื่องของตะลิงปลิงกดเบอร์โทร.ของมโนแล้วต่อสายไปทันที และไม่นานปลายสายก็รับ
“โนลูก แม่เองนะ นี่เบอร์ของเมียเรานะ เป็นผัวเมียกันยังไงไม่มีเบอร์โทร.กัน แม่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาวนะลูก แค่นี้นะ แม่โทร.มาแค่นี้แหละ” พูดจบนางก็ตัดสายทิ้งทันที ด้านมโนเองก็มึนงง ยังไม่ทันได้พูดทักทายสายก็ตัดไปเสียแล้ว
“เรียบร้อยจ้ะ มีอะไรโทร.จิก โทร.ตามพี่เขาเบอร์นี้เลยนะลูก” นางเมมชื่อลูกชายให้ลูกสะใภ้เรียบร้อย ก่อนจะลากลับอีกครั้ง “แม่กลับจริง ๆ แล้วนะ หนูแม่ฝากลูกสะใภ้แม่ด้วยนะ”
“ค่ะคุณแม่ ไม่ต้องห่วงค่ะ”
“เดินทางปลอดภัยนะคะแม่เพ็ญ พ่อพล” ตะลิงปลิงเอ่ยพลางยกมือไหว้ทั้งสอง และทั้งสองก็ส่งยิ้มเอ็นดูมาให้หล่อน ชนิดาก็ยกมือไหว้ลาทั้งสองเช่นกัน พร้อมเดินไปส่งพ่อของเพื่อนและแม่สามีของเพื่อนที่หน้าห้อง
เมื่อส่งพ่อของตะลิงปลิงกับแม่สามีของเพื่อนแล้ว ชนิดาก็เดินกลับเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวเดิมข้างเตียงของเพื่อน ต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องราวของตะลิงปลิงกับมโนสามีมันเป็นยังไงกันแน่ ถึงได้ป่วยทรุดโทรม ร่างพังเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ แล้วที่เพื่อนซึมเศร้าสูญเสียความเป็นตัวเองแบบนี้อีก ตะลิงปลิงเป็นคนสดใสร่างเริงช่างพูด และไม่เคยยอมใคร แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้แพ้ไม่เหลือคราบนางพญาเลยล่ะ
“เล่ามาซิยัยแสบ มันเป็นมายังไง”
“ฉันเหนื่อย แกกลับก็ได้นะดา” ตะลิงปลิงตอบเพื่อนเสียงแผ่ว แล้วขยับตัวพลิกนอนตะแคงหันหลังให้เพื่อนรัก
“แกยังไม่พร้อมเล่าใช่ไหม ไม่เป็นไร วันนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกเอง แกก็นอนพักเถอะนะ” ชนิดารู้ว่าซักไปก็ไม่ได้ความ ดูจากคำตอบของเพื่อนแล้ว เธอรู้ว่าไม่ควรจะถามเอาความจึงยอมเก็บความสงสัยอยากรู้นี้ไว้ แล้วลุกขึ้นเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวอีกมุม
ด้านผู้ป่วยเมื่อพลิกตะแคงหันหลงให้เพื่อนก็เงียบอยู่กับความคิดของตัวเอง คิดถึงเรื่องราวของตนกับสามี หล่อนอยากเกลียดผู้ชายคนนั้น อยากเกลียด อยากตัดเขาออกไปจากความคิดและความทรงจำในวัยเด็กแต่ก็ทำไม่ได้ น้ำตาสาวเจ้าเอ่อล้นออกมาอาบสองแก้มนวล เสียงสะอื้นไห้ดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน แผ่นหลังเล็กไหวติงตามแรงสะอื้นทำให้ชนิดาต้องลุกเดินขึ้นมายืนลูบหลังเพื่อนแผ่วเบาอย่างปลอบประโลม
“ร้องออกมาเถอะแสบ ร้องไห้พอเพื่อนรัก”
“ดา ฉันพยายามแล้วที่จะเข้มแข็ง เมื่อก่อนฉันไม่เป็นแบบนี้ แต่ทำไมตอนนี้ฉันอ่อนแอ ฉันเกลียดที่ฉันเป็นตอนนี้มากแก อึก! ฮือ!" เอ่ยปนเสียงสะอื้นพลิกตัวกลับมาหาเพื่อน พร้อมขยับลุกขึ้นโถมกายเข้าหาเพื่อนรัก
“ร้องเลยแก ร้องไห้ให้พอ แล้วค่อยมาสู้ใหม่ ยัยแสบของฉันไม่อ่อนแอแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ร้องออกมาเพื่อนรัก” หล่อนกอดประโลมลูบแผ่นหลังนวลพร้อมกอดตอบเพื่อนรัก
“ไม่แล้วแก ฉันจะหยุดแล้ว น้ำตาของฉันมีค่ากว่านี้ มันจะมาเสียให้ผู้ชายคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้” ตะลิงปลิงผละออกจากอ้อมกอดของเพื่อน ยกมือปาดน้ำตาที่เปื้อนแก้มออก แววตาดุดันเด็ดเกี่ยวฉายชัดออกมา
“ดีมาก แบบนี้สิเพื่อนฉัน นอนเถอะ เดี๋ยวก็จะค่ำแล้ว ฉันจะออกไปหาอะไรกินสักหน่อย แกอยู่คนเดียวได้นะ”
“อือ! รักแกนะยัยดา ไปเถอะ ฉันจะนอนพักเหมือนกัน อีกไม่นานก็มืดค่ำแล้ว จริง ๆ ฉันอยู่คนเดียวได้นะ ที่นี่มีหมอ มีพยาบาลไม่ต้องอยู่ด้วยก็ได้” เธอเกรงใจเพื่อน
“ฉันบอกจะอยู่ก็คืออยู่ ไปนะ เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับ จะไปหานิยายมานอนอ่าน เอางานขึ้นมานั่งทำด้วย พอดีน้ำหอมตัวใหม่เราจะเปิดตัวด้วย งานเลยเยอะนิดนึง ก็หุ้นส่วนดันมาป่วย ฉันเลยต้องทำคนเดียว” ชนิดาพูดอย่างไม่จริงจังนัก
“ทำไปเถอะน่า ดีกว่าไม่มีงานให้ทำย่ะ!"
“ไปแล้ว เดี๋ยวกับข้าวโรงอาหารโรงพยาบาลหมดก่อน”
“จ้า...ไปเถอะ” ตะลิงปลิงอดลากเสียงยาวตอบเพื่อนไม่ได้ ก็น่าหมั่นไส้เสียเหลือเกิน เมื่อเพื่อนรักเดินออกไปแล้ว หล่อนก็ขยับตัวพลิกตะแคงหันหลังให้กับประตูห้อง แล้วหยิบโทรศัพท์มากดส่องเว็บไซต์ของแบรนด์น้ำหอมของตนไปพลาง ๆ รอให้ตัวเองหลับ เวลาผ่านไปไม่นานก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา
